ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 39

พอธีร์ขับรถออกจากบ้านก็สังเกตเห็นว่ามีรถคันหนึ่งตามหลังเขาอยู่ห่างๆ เลยกระตุกยิ้มเย็นขึ้นที่มุมปาก

" มาไวยิ่งกว่าจรวดซะอีกนะ ดีที่คุณกฤตนั่นโทรมาบอกซะก่อน "

จากนั้นเขาก็ขับเปลี่ยนเส้นทางไปยังภัตคารแทน พอไปถึงก็เข้าไปจอดรถในที่จอดรถที่คนนอกเข้าไปจอดไม่ได้

" หึ เดี๋ยวให้เป็นยามคอยเฝ้าหน้าร้านให้สักวันสองวันดีกว่า "

แล้วเขาก็เดินเข้าไปด้านใน พอเข้ามาถึงในห้องส่วนตัวของตัวเอง ก็รีบกดโทรออกไปยังเบอร์ของนับหนึ่ง

นับหนึ่งที่กำลังจะเปิดร้าน พอได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่วางในเคาน์เตอร์ดังขึ้น เลยเดินไปหยิบแล้วกดรับสาย

" อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณธีร์ "

พอได้ยินเสียงนับหนึ่งธีร์ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังทันที

" นับหนึ่ง คุณฟังผมให้ดีนะ ช่วงนี้คุณไม่ต้องทำงานแล้ว อยู่แต่ในห้องไปก่อน โอเคนะ "

ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งตกใจมาก และแอบเสียใจนึกว่าธีร์จะไม่จ้างเธอต่อ เลยรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถามขึ้น

" ทำไมคะ เกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงให้ฉันเลิกทำงานแล้วอยู่แต่ในห้องล่ะคะ คุณจะไม่จ้างฉันแล้วเหรอ "

พอนับหนึ่งเข้าใจแบบนั้นเขาก็รีบอธิบายพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น

" มันไม่ใช่อย่างงั้น คุณจำวันที่เราไปทานข้าวกันที่ภัตคารจีนได้มั้ย "

" จำได้ค่ะ ทำไมเหรอ "

เธอเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย ธีร์เลยถามต่อว่า

" แล้วคุณจำชายสวมหน้ากากที่นั่งโต๊ะข้างๆเราได้มั้ย ได้สังเกตเห็นเขาบ้างหรือเปล่า "

เขาถามแบบปลายเปิดเพื่อให้นับหนึ่งได้เลือกตอบ แม้จะมีจุดประสงค์ในการถาม

แต่ก็ไม่อยากกดดันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนเกินไป นับหนึ่งได้ยินดังนั้นก็นิ่งเงียบไปสักพัก

[ คุณธีร์ไปรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเรามาหรือเปล่า ถึงได้เอ่ยถึงชายคนนั้น กำลังหยั่งเชิงเราอยู่สินะ ]

จากนั้นเธอก็เอ่ยตอบเสียงเรียบอย่างไร้พิรุธใดๆทำเหมือนเอ่ยตอบอย่างซื่อตรงโดยไม่มีอะไรปิดบัง

" อืม...เหมือนจะเห็นอยู่ค่ะ แต่ไม่ได้สนใจ ทำไมเหรอคะ "

" เขาสงสัยว่าคุณ เป็นคนทำร้ายคุณอิงฟ้าผู้หญิงของเขาน่ะ เลยสั่งคนสะกดรอยตามผม "

" คุ คุณ ว่าไงนะ! "

นับหนึ่งตกใจจนมือสั่น เอ่ยออกมาอย่างติดขัดด้วยความตกใจกลัว แล้วความทรงจำอันเลวร้ายที่เป็นฝันร้ายก็ผุดขึ้นมาในหัวเป็นภาพๆ

เธอนั่งลงพร้อมกับหลับตาพยายามสลัดภาพความคิดที่เป็นความทรงจำที่เธอไม่อยากจำออกไป

[ นี่ นี่มันตามหาเราอีกแล้วเหรอ ทำไมมันถึงไม่เลิกตามจองเวรจองกรรมเราสักที ทำไมสวรรค์ถึงไม่ลงโทษคนเลวสักที ]

ธีร์รับรู้ได้ถึงความกลัวของนับหนึ่งที่มีต่อชายสวมหน้ากาก

แต่เขาก็เลือกที่จะไม่พูดหรือเอ่ยถามออกไปในตอนนี้ จากนั้นก็เล่าให้นับหนึ่งฟังต่อว่า

" เมื่อคืนวาน ชายสวมหน้ากากนัดให้ผมออกไปพบ แล้วสอบถามเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดหน้าห้องน้ำ

แต่ผมปฏิเสธไป เขาเลยใช้วิธีการแฮกเข้ามาในระบบผมเพื่อดึงข้อมูลไป

พอทำไม่สำเร็จ ก็ส่งคนมาตามเพื่อหาที่อยู่คุณ ผมว่าเขาไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะตามหาคุณง่ายๆแน่ "

พอควบคุมสติได้แล้วนับหนึ่งจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

" แล้ว คุณรู้ได้ยังไงคะ ว่ามีคนสะกดรอยตามตามคุณอยู่ คุณแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นคนของชายคนนั้น แล้วทำไมเขาถึงต้องมาถามหากล้องวงจรปิดของภัตคารที่คุณ "

" เพราะเขารู้ว่าผมเป็นเจ้าของภัตคารจีนแห่งนั้นส่วนที่คุณถามว่าผมแน่ใจได้ยังไงนั้น เมื่อเช้าคนขับรถของเขาเป็นคนโทรมาบอกผมเอง "

" อ๋อ...ค่ะ "

เธอเพิ่งรู้ว่าธีร์เป็นเจ้าของภัตคารหรูแห่งนั้น เลยไม่กล้าเอ่ยอะไรอีก

เพราะกลัวว่ายิ่งเอ่ยจะยิ่งเผยพิรุธ และจะยิ่งกลายเป็นคนโกหกหลอกลวงมากขึ้น

ธีร์เห็นว่านับหนึ่งเงียบไปเลยเอ่ยต่อว่า

" คุณกฤตรู้จักคุณด้วยนะและดูเหมือนจะเป็นห่วงคุณมาก

คุณจะบอกผมได้มั้ยว่าคุณกับเขาเคยเป็นอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า

ผม ผมแค่อยากรู้น่ะ ไม่ได้ติดใจในสิ่งที่มันเป็นอดีตของคุณเลย

คุณสบายใจได้ มันไม่มีผลกระทบกับงานที่คุณทำหรอก "

อยากรู้ก็อยากรู้ ห่วงความรู้สึกหญิงสาวก็ห่วง กลัวว่าเธอจะเครียด

เพราะสิ่งที่เขาถามมันเป็นสิ่งที่เธอพยายามปิดบังไม่ให้ใครรู้

นับหนึ่งถอนหายใจออกมาเบาๆ ในเมื่อเขาอยากรู้เรื่องของคนขับรถ

เธอเลยเอ่ยตอบเขาไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ

" ค่ะ เราเคยรู้จักกันเพราะเขาเคยไปรับญาติห่างๆของฉันที่บ้านบ่อยๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก