พอรานีกลับมาถึงบ้านก็รีบลงจากรถแล้วกลับเข้ามาในบ้านอย่างหน้าตาตื่นเพื่อถามลูกสาวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
" อิงฟ้า ลูก มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆชาวเน็ตถึงได้แห่แบนลูกแบบนั้นล่ะ "
แกยังไม่ได้ฟังคลิปเสียง เลยไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อิงฟ้าเหลียวไปมองแม่ที่รีบเข้ามาหาเธอ ด้วยสายตาโมโห นัยน์ตาเธอแดงก่ำอย่างน่ากลัว
ทำเอารานีผู้เป็นแม่ถึงกับชะงักงันแล้วเงียบปากไว้ ไม่เอ่ยถามอะไรกวนใจลูกสาวอีก แต่หันไปมองหน้าผู้จัดการแทนแล้วกระซิบถาม
" คุณทรายมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมถึงมีแต่คนมาด่าลูกสาวฉันล่ะ "
" เรื่องมันยาวค่ะคุณแม่ คุณแม่ลองตามเรื่องนี้ในโซเชียลเอาแล้วกันค่ะ "
ทรายเอ่ยตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย
เมื่อไม่มีใครยอมบอก รานีก็นั่งลงบนโซฟาแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าถือ
ไล่ดูข่าวของลูกสาวตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ แล้วดวงตาแกก็เบิกกว้างขึ้นอย่างแข็งกร้าวด้วยความโกรธแค้นแทนลูกสาว
จากนั้นแกก็เอ่ยออกมาอย่างเคียดแค้นใจว่า
" นี่นังนับหนึ่งมันกล้าทำกับลูกแม่ขนาดนี้เลยเหรอ มันชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว "
แล้วแกก็ลุกไปหาลูกสาวพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
" ลูกจะปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้โดยไม่ทำอะไรเลยเหรอ จะไม่สั่งสอนนังนับหนึ่งมันเลยจริงๆเหรอ "
อิงฟ้าทอดสายตามองออกไปนอกบ้านด้วยแววตาร้ายกาจอย่างเงียบๆแล้วเอ่ยตอบผู้เป็นแม่อย่างข่มอารมณ์
" นังนับหนึ่งน่ะ หนูไม่ปล่อยมันไว้แน่ แต่เรื่องอื่นต้องรอฟังคำสั่งคุณกวิน ถ้าเราเคลื่อนไหวโดยไม่ฟังเขา หากเกิดเรื่องที่เรารับมือไม่ไหว มันจะไม่มีคนคอยช่วยเราน่ะ "
" งั้นเราไปขอความช่วยเหลือจากเจ้านายพ่อมั้ย ให้เขาช่วยเราจัดการเก็บนังนับหนึ่ง
เขาหลงลูกจะตาย เกิดเรื่องแบบนี้ เขาต้องช่วยลูกแน่ๆ แม่ว่าอย่าหวังพึ่งแต่คุณกวินเลยนะ
อีกอย่าง แม่คิดว่าตอนนี้ลูกต้องแถลงข่าวกู้ชื่อเสียงคืนบ้างนะ
ในเมื่อนังนับหนึ่งใช้โซเชียลเป็นเครื่องมือในการทำลายชื่อเสียงลูก
ลูกก็ใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งสิ ทำให้ชาวเน็ตสับสนไปเลย บางทีกระแสอาจจะตีกลับไปที่นังนับหนึ่งก็ได้ "
อิงฟ้าหันมามองผู้เป็นแม่ด้วยแววตาแข็งกร้าวแล้วเอ่ยกระแทกเสียงออกมาด้วยอารมณ์โทสะอย่างดุดัน
" คุณแม่คิดว่าชาวเน็ตโง่หรือไงคะ ที่จะไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรจริงอะไรเท็จ
พวกเขากินข้าวนะคะ ไม่ได้กินหญ้า เหมือนวัวเหมือนควาย ที่จะยอมให้เราจูงจมูกได้ง่ายๆน่ะ
ความคิดและความฉลาดของคุณแม่ ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของนางนับหนึ่งนั่นเลย รู้ตัวบ้างมั้ยคะ
นังนับหนึ่งมันเจ้าเล่ห์เพทุบาย มันรู้ว่ามันกำลังได้เปรียบ มันเลยออกมาไลฟ์สด
เพื่อเรียกคะแนนสงสาร เพื่อทำให้คนเห็นใจ เรื่องแค่นี้ คุณแม่มองไม่ออกเลยหรือไง คะ! "
รานีตกใจจนหน้าเจื่อนที่ถูกลูกสาวตวาดใส่ จากนั้นแกก็โอบหลังลูกสาวแล้วตบเบาๆพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อน
" แม่ แม่ขอโทษ ที่คิดไม่รอบคอบ แม่ผิดไปแล้ว ลูกอย่าโกรธแม่เลยนะ "
แกเอ่ยขอโทษลูกสาวอย่างเอาอกเอาใจด้วยความใจเย็น
อิงฟ้ารู้สึกเจ็บแค้นใจมาก ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นที่ตัวเองหลงกลนับหนึ่งอย่างโง่งม
" เป็นหนูเองที่โง่ ก้าวเข้าไปในหลุมพรางของนังนับหนึ่งโดยไม่เอะใจ
จนเผลอตบมันอย่างขาดสติด้วยความโมโห โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกมันยั่วยุให้ตกหลุมพราง
แล้วแบบนี้คุณแม่จะให้หนู ใช้วิธีโง่ๆของคุณแม่ เพื่อทำร้ายตัวเองอีกมั้ยคะ "
" แม่ขอโทษ ที่ไม่คิดให้ถี่ถ้วน ลูกสงบสติอารมณ์ก่อนนะ แล้วรอฟังข่าวจากคุณกวิน เขาต้องช่วยลูกได้แน่นอน "
อิงฟ้ามองหน้าแม่ด้วยความโมโหแล้วหมุนตัวกลับไปนั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าบึ้งตึงอย่างข่มอารมณ์โกรธ
ผู้จัดการสาวมองไปที่เธออย่างเอือมๆแล้วเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
" คุณอิงฟ้า พี่ว่าที่คุณแม่คุณพูดก็ถูกนะคะ ตอนนี้คุณต้องใจเย็นๆ สงบสติอารมณ์ก่อน
ขืนยังใจร้อน ใช้แต่อารมณ์แบบนี้ มีแต่จะเสียเปรียบฝั่งโน้นนะคะ
ตอนนี้คุณกวินอาจจะกำลังหาทางช่วยอยู่ก็ได้ ที่เขาให้เราอยู่นิ่งๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก