สรุปตอน ตอนที่ 51 มีหัวใจ รู้สึกได้ สำนึกเป็นค่ะ – จากเรื่อง ริษยาร้ายซ่อนรัก โดย Paizay
ตอน ตอนที่ 51 มีหัวใจ รู้สึกได้ สำนึกเป็นค่ะ ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ริษยาร้ายซ่อนรัก โดยนักเขียน Paizay เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
สามวันต่อมา อิงฟ้าเดินทางไปแถลงข่าวในโรงแรมหรูที่กวินจัดไว้ให้
สำนักข่าวทุกสำนักต่างมารอทำข่าวเธอในโรงแรมแต่เช้า
พอเธอมาถึง ก็เดินมานั่งลงบนเก้าอี้ที่ถูกจัดไว้ให้ ตรงหน้านักข่าว
บนโต๊ะแถลงข่าวของเธอเต็มไปด้วยไมค์ของสำนักข่าวช่องต่างๆ ตั้งวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ
เธอกับผู้จัดการนั่งอยู่ท่ามกลางนักข่าวจำนวนมากพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วเธอก็เอ่ยขึ้น
" ค่ะ ขอบคุณสื่อทุกข่องที่มาในวันนี้นะคะ ก่อนอื่นเลย อิงฟ้าต้องขอโทษน้องนักศึกษาคนนั้นจากใจจริงๆเลยค่ะ
ที่อิงฟ้ามุทะลุ ใช้อารมณ์โทสะ เผลอทำอะไรลงไปโดยขาดความยั้งคิด จนนำมาซึ่งความเสียหายทางกายและทางจิตใจ
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น อิงฟ้าก็ได้รับบทเรียนโดยการถูกสังคมลงโทษและถูกสังคมประนามพฤติกรรมแล้ว
ทำให้อิงฟ้าได้กลับไปคิดตรึกตรองในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไปแล้ว
อิงฟ้าขอยอมรับผิดและน้อมรับในทุกการสั่งสอน ติเตียน ตลอดจนการวิจารณ์ด่าทอต่างๆ
กลับมาใช้เป็นบทเรียนเพื่อที่ต่อไปจะได้ไม่ขาดความยั้งคิดยั้งทำและใช้เหตุผลคุยกันพยายามมีสติให้มากขึ้นค่ะ
บทเรียนในครั้งนี้ทำให้อิงฟ้าโตขึ้นมากจริงๆค่ะ มันทำให้อิงฟ้ารู้ว่า
การเป็นคนของสังคมนั้น ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ที่ชื่นชอบเรา เพื่อสร้างสัมคมให้มันน่าอยู่ขึ้น
เรื่องที่เกิดขึ้น อิงฟ้ารู้สึกผิดต่อเด็กๆและน้องๆที่ชื่นชอบเรามาก ขอบคุณที่มีพี่อิงฟ้าเป็นไอดอลจริงๆ
พี่อิงฟ้าขอโทษน้องๆทุกคนรวมถึงผู้ปกครองของน้องๆด้วยนะคะ
กรณีของอิงฟ้า ขอให้เป็นเคสตัวอย่างที่ไม่ดี ขอให้ทุกคน
ดูความผิดพลาดของอิงฟ้าไว้เป็นบทเรียนแล้วกลับไปปรับใช้ในชีวิตของตัวเอง อย่าได้เผลอทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด
เพราะผลที่ตามมาคือ บทลงโทษทางสังคมที่มันสามารถทำให้เราหมดอนาคตได้เลย "
จากนั้นอิงฟ้าก็ยกมือขึ้นมาไหว้แล้วเอ่ยต่อ
" แล้วก็ขอกราบขอโทษแฟนคลับ กราบขอโทษสังคม รวมถึงกราบขอโทษพี่ๆนักข่าวทุกๆสำนักจากใจจริงๆค่ะ "
แล้วเธอก็วางมือลงบนโต๊ะนิ้วสอดประสานกันแน่นแล้วเอ่ยต่อด้วยสีหน้าเศร้าๆ
" ที่ผ่านมาอิงฟ้าเก็บตัวสำนึกผิดในบ้านตลอดทั้งปีโดยไม่ออกไปไหนเลย
เพิ่งจะออกจากบ้าน ยอมพบปะ พูดคุยกับคนที่รู้จักตอนที่ตัดสินใจจัดแถลงข่าวครั้งนี้ค่ะ
ต่อไปอิงฟ้าขอสัญญา ว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว แน่นอนค่ะ
หวังว่าน้องนักศึกษากับแฟนคลับและสังคมจะยอมให้อภัยและยอมให้โอกาสอิงฟ้าอีกครั้งนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ "
เอ่ยจบ เธอก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมายืนตรงหน้านักข่าวด้วยสีหน้าอมทุกข์ แววตาดูเศร้าเคล้าไปด้วยน้ำตาที่ปริ่มล้นออกมา
ทำให้นักข่าวต่างตกใจและสงสัยว่าเธอคิดจะทำอะไร จากนั้นเธอก็มายืนต่อหน้านักข่าว คุกข่าวลง แล้วก้มลงกราบขอโทษเพื่อแสดงความจริงใจ
เธออยู่ในท่าก้มกราบนั้นสักพัก นักข่าวต่างรีบถ่ายภาพเก็บไว้เพื่อใช้เป็นภาพประกอบในข่าว
จากนั้นเธอก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วลุกกลับไปนั่งที่เดิม จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า
" และในวันนี้ที่อิงฟ้ามานั่งตรงหน้าพี่ๆนักข่าวอีกครั้งก็เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อน้องนักศึกษาคนนั้น
หลายครั้งที่ทางทีมงานพยายามติดต่อน้องไป แต่ทางน้องก็ไม่ยอมตอบรับ
ปฏิเสธที่จะรับการขอโทษจากอิงฟ้า จริงๆแล้ววันนี้อิงฟ้า อยากเชิญน้องมารับการกราบขอโทษจากอิงฟ้าต่อหน้าทุกคน
แต่น้องไม่อยากเปิดเผยตัวตน อิงฟ้าเลยทำได้แค่กราบขอโทษผ่านสื่อเท่านั้นค่ะ "
จากนั้นเธอก็ยกมือไหว้ แสร้งบีบน้ำตาอีกครั้ง ทำเป็นสำนึกผิดเล่นละครตบตาผู้คนให้เห็นใจแล้วเอ่ยเสียงสั่น
" แล้วก็ขอกราบขอโทษทางผู้จัดละครทุกท่านกราบขอโทษเจ้าของแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador)ทุกๆแบรนด์ค่ะ
ขอโทษที่ทำให้งานของคุณเกิดความเสียหาย อิงฟ้าขอโทษจากส่วนลึกสุดของใจจริงๆค่ะ
ในส่วนของความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางเราจะขอชดให้ทุกท่านตามกฎหมายค่ะ ขอกราบขอโทษอีกครั้งค่ะ "
ผู้จัดการที่นั่งข้างๆยื่นทิชชูให้อิงฟ้า เธอรับทิชชูมาก้มหน้าซับน้ำตาเบาๆอย่างน่าเห็นใจ
ทรายจึงถอนหายใจออกมาแล้วเอ่ยขึ้นแทนเธอ
" ตอนนี้สิ่งที่น้องอยากพูดก็ได้พูดออกมาหมดแล้ว หากใครอยากจะถามอะไร ตอนนี้สามารถถามได้เลยค่ะ "
หลังจากที่ทรายเอ่ยจบนักข่าวสาวคนหนึ่งก็ถามขึ้น
" ทำไมคุณอิงฟ้าถึงเพิ่งออกมาแถลงข่าวเอาตอนนี้คะ "
อิงฟ้าวางทิชชูลงแล้วตอบนักข่าวสาวออกไปว่า
" จริงๆแล้ว อิงฟ้าก็อยากออกมาขอโทษตั้งแต่แรกแล้วค่ะ
แต่ว่าช่วงนั้นอิงฟ้าเองก็สภาพจิตใจย่ำแย่ เครียดมากๆเหมือนกันค่ะ
อิงฟ้าคิดว่าหากอิงฟ้าออกมาขอโทษ ณ ตอนนั้น ก็กลัวว่ามันจะยิ่งสร้างความขัดแย้งในกลุ่มแฟนคลับ อาจจะทำให้เรื่องราวมันบานปลายได้
และไม่อยากทำน้องเขาไม่สบายใจด้วย ดังนั้น อิงฟ้าคิดว่า ออกมาตอนนี้ น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่ายค่ะ "
บทสนทนาในคลิปเสียงเป็นเพียงบทละครที่คุณทรายเอาให้เราลองเท่านั้นค่ะ
อิงฟ้าไม่ได้ขายตัวหรือเอาตัวเข้าแลกอย่างที่มีการเข้าใจผิด
อีกอย่างอิงฟ้ามองว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เลยไม่ได้ให้ความสำคัญหรือเก็บมาใส่ใจเลยค่ะ และไม่คิดจะพูดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ
เพราะเรื่องที่ทำเครียดและทุกข์ใจจริงๆ คือเรื่องที่ตัวเองขาดความยั้งคิด
ทำให้คนที่ชื่นชอบเรารู้สึกผิดหวังในตัวเรามากกว่าค่ะ ขอโทษอีกครั้งค่ะ "
อิงฟ้าเอ่ยด้วยสีหน้าแววตาที่ดูนิ่งสงบอย่างจริงจัง ท่าทีมีความสุขุม น่าเกรงขามขึ้นถึงสามส่วน
บทเรียนที่ผ่านมาทำให้เธอโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากและส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะทรายสอนดีด้วย
ด้วยบุคลิก ท่าทาง การวางตัว การใช้ถ้อยคำกับน้ำเสียงที่ดูสำนึกผิด ใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อย ทำให้เธอดูดีขึ้นในสายตาผู้คน
จนนักข่าวไม่คิดจะถามอะไรให้เธอลำบากใจอีก จากนั้นทรายจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
" ใครยังมีคำถามอะไรจะถามน้องอีกมั้ยคะ "
ทุกคนส่ายหน้า เพราะเริ่มเข้าใจเจตนาของอิงฟ้า แต่กลับไม่รู้เลยว่านั่นคือการหลอกหลวงทั้งสิ้น
ทรายยิ้มอ่อนแล้วเอ่ยต่อว่า
" หากไม่มีอะไรจะถามแล้ว ก็ขอจบการแถลงข่าวในวันนี้ เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่มารับฟังน้องในวันนี้มากๆค่ะ "
" ขอบคุณค่ะ "
อิงฟ้ายกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องแถลงข่าวพร้อมกับทราย
กวินนั่งดูการแถลงข่าวแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ จากนั้นก็เอ่ยขึ้น
" แบบนี้สิ ถึงจะคู่ควรเป็นผู้หญิงของผมหน่อย "
กรเลยเอ่ยอย่างยิ้มๆว่า
" ต้องยกความดี ความชอบ ให้คุณทรายครับ
ที่สามารถเปลี่ยนบุคลิกท่าทางของคุณอิงฟ้า
ให้นิ่งสุขุมจนเอานักข่าวอยู่หมัด ไม่มีใครกล้าถามแซะกวนใจอีกเลย "
" อือ รอดูสักอาทิตย์ก่อน หากฝั่งโน้นไม่มีความเคลื่อนไหว คุณก็เตรียมปล่อยผลงานของเธอเลย "
" รับทราบครับ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก