ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 50

หลังจากมีการแฉครั้งใหญ่เกิดขึ้น ผู้ต่างรู้สึกรักและเอ็นดูนับหนึ่งมาก ถึงขั้นสร้างกลุ่มขึ้นมา โดยตั้งชื่อกลุ่มว่า เซฟน้องนักศึกษา

เนื่องจากพวกเขาไม่รู้จักชื่อของนับหนึ่ง และทางมหาลัยเอง ก็ไม่เปิดเผยข้อมูลของนับหนึ่งให้ใครทราบ

เพราะธีร์ได้โทรไปกำชับกับทางผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยไว้ ให้ปกปิดข้อมูลของนับหนึ่งไว้ เพื่อความปลอดภัยของเธอ

ธีร์ที่เป็นถึงลูกนักการเมือง มีหรือที่ผู้บริหารจะไม่ให้ความเกรงใจ ในเมื่อเขาทำในสิ่งที่ถูกที่ควร ผู้คนก็ยิ่งให้ความเกรงใจ

ต่อให้กวินมีอำนาจร่ำรวยเหนือใครแค่ไหนก็ไม่สามารถบุ่มบ่ามทำอะไรตามใจได้อีก

ผู้ชายที่ไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึก เลือดเย็นดั่งจอมมาร ไร้ความเมตตาดังปีศาจ จิตใจเยือกเย็นดั่งหิมะ เย็นชาดุจก้อนน้ำแข็งอย่างกวิน

เขาไม่โง่ที่จะเอาชื่อเสียงกับบริษัทของตัวเองไปเสี่ยงเพียงเพื่อให้ได้เรือนร่างของหญิงสาวเพียงคนเดียวหรอก

เลยทำให้นับหนึ่งได้ใช้ชีวิตตามที่ต้องการ รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

ในทุกๆวัน เธอตื่นขึ้นมาทำงานบ้านตั้งแต่ตี สี่ เสร็จแล้วก็ทานข้าวเป็นเพื่อนบอส

จากนั้นก็ไปมหาลัย เรียนเสร็จ ก็กลับมาทำงานพาร์ทไทม์ต่อ

ตอนเย็นก็ทานข้าวเป็นเพื่อนบอสเหมือนเดิม ค่ำก็ทำงานบ้านตามปกติ

ดึกก็ทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้ในแต่ละวิชา แล้วก็นอน

ชีวิตเธอวนเวียนอยู่แบบนี้ทุกๆวัน จากวันกลายเป็นเดือน จากเดือนกลายเป็นปี

ส่วนอิงฟ้าหลังจากเกิดเรื่อง เธอก็ไม่เคลื่อนไหวอะไรบนโซเชียลอีก แต่ก็ยังคงมีแฟนคลับบางส่วนที่ชื่นชอบเธออยู่

ในทุกๆวันเธอจะถูก ทราย ผู้จัดการสาวอบรมสั่งสอนใหม่ ให้เธอฝึกควบคุมอารมณ์ ฝึกการวางตัวที่เหมาะสม

จนเธอไม่มีเวลาออกไปชอปปิง( Shopping ) หรือดินเนอร์กับกวินบ่อยๆเหมือนเคย นานๆทีจะได้ออกไปทานข้าวด้วยกัน

ส่วนในสายตาของทรายแล้ว อิงฟ้าเป็นเครื่องประดับชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของกวิน ที่กวินชื่นชอบมากเป็นพิเศษ

ส่วนแกก็มีหน้าที่เจียระไน คอยขัดเกลาเครื่องประดับชิ้นนั้นให้เงาใส ดูสบายตาตามที่กวินต้องการ เพื่อให้เป็นที่ชื่นชมต่อผู้พบเห็น

ส่วนธำรงหลังจากที่ตบหน้าลูกในวันนั้น เขาก็ไปขอโทษลูกสาวด้วยความรู้สึกผิด

กลับมาทำดีต่อลูกกับภรรยามากขึ้น พยายามเอาอกเอาใจ เลี่ยงที่จะพูดถึงนับหนึ่งต่อหน้าภรรยากับอิงฟ้า

เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะ หรือผิดใจกันจนหมางเมินต่อกันอีก

ในเมื่อนับหนึ่งหนีออกไปแล้วและแม่ของเธอก็จากไปแล้ว

เขาที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องเดินหน้าต่อ เลือกรักษาครอบครัวที่เหลืออยู่ให้เป็นครอบครัวที่อบอุ่น

อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีสามคน พ่อแม่ลูก ตามที่อิงฟ้าต้องการ

ส่วนกวินในตอนตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาก็เก็บตัวทำงานของตัวเองไป

โดยไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับนับหนึ่งอีก ตั้งแต่เปิดหน้ามา เขาก็ไม่ค่อยซื้อผู้หญิงมาบำเรอบ่อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

วันไหนว่างกับนัดอิงฟ้ามานอนด้วย ส่วนชายสวมหน้ากากที่ถูกกล่าวถึงนั้น

พอเป็นข่าวดัง ก็หายสาบสูญไป พร้อมกับคนขับรถข้างกาย

บรรดาดาราและนางแบบสาวหลายคนที่เคยนอนกับชายสวมหน้ากากพอเห็นข่าว

ต่างก็อยากที่จะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของชายสวมหน้ากาก

ที่มีเรือนร่างเพอร์เฟกต์ให้ความรู้สึกเสียวซ่านหัวใจและร้อนแรงในทุกท่วงท่าคนนั้น

พวกหล่อนถึงกับส่งนักสืบตามหาชายสวมหน้ากาก แต่ตามยังไงก็ตามไม่เจอ

ไม่เหลือร่องรอยให้เจอเบาะแสใดๆเลย ติดต่อคนใกล้ตัวของชายสวมหน้ากากก็ไม่ได้

ราวกับไม่เคยมีชายสวมหน้ากากกับคนขับรถคนนั้นมาก่อน

นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่กวินต้องส่งกฤตไปไกลตัว ก่อนหน้านี้ เขาได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าต้องมีคนตามสืบเรื่องของเขา

แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จนหนึ่งปีผ่านไปเรื่องราวของชายสวมหน้ากากก็เริ่มเงียบลง ค่อยๆหายไปจากหน้าสื่อ

กวินเห็นว่าได้โอกาสปล่อยข่าวใหม่กลบข่าวเก่าของตัวเองแล้ว เลยเรียกผู้ช่วยกรเข้ามาหาแล้วพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการปล่อยข่าว

" คุณกร ตอนนี้โฆษนาตัวใหม่ของอิงฟ้าถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยหรือยัง "

" เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ "

ผู้ช่วยกรเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม กวินได้ยินดังนั้นก็กระหยิ่มยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วเอ่ยต่อ

" ดีมาก งั้นก็ให้ทางรายการโฆษณาปล่อยโฆษณาตัวนี้ออกมาเลย ลองมาวัดกันสักหน่อย ว่าคนจะแบนอิงฟ้ากี่ส่วน "

" อือ หลังจากข่าวนี้สงบลง คุณก็ให้ทางผํ้จัดปล่อยโฆษณาตัวล่าสุดของอิงฟ้าได้เลย แล้วก็ปล่อยข่าวที่เธอเดตกับผม "

" ครับ หากท่านประธานยินดีใช้ชื่อเสียงของตัวเองสร้างกระแสให้คุณอิงฟ้ากลับมาเป็นที่พูดถึงบนสื่อสังคมโซเชียลอีกครั้ง ผมจะไปเตรียมการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ "

" มันไม่ใช่การสร้างกระแสเพื่ออิงฟ้าอย่างเดียว แต่จุดประสงค์หลัก

เพื่อกลบข่าวเก่าของชายสวมหน้ากากต่างหาก

มีเพียงข่าวใหม่ที่น่าสนใจเท่านั้นที่จะล้างสมองชาวโซเชียลได้ เข้าใจมั้ย "

" เข้าใจแล้วครับ "

" ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปทำตามที่ผมบอกเถอะ "

" ครับ "

กรเอ่ยตอบรับคำ จากนั้นก็หมุนตัวหันหลังเดินออกไป กวินนั่งหน้านิ่งแล้วเปิดคลิปไฟล์ของนับหนึ่งขึ้นมาดูอย่างเงียบๆแล้วเอ่ย

" สาวน้อย สักวัน คุณต้องรับผิดชอบ ชดเชย ในสิ่งที่ได้ทำลงไปนะ รู้มั้ยว่าผมอดออกไปหาสาวๆเพราะคุณ ดังนั้น คุณจะต้องชดเชยความอยากทางกายของผมเมื่อถึงเวลา "

เขาเอ่ยพึมพำออกมาอย่างสุขุมพร้อมกับจ้องหน้าหญิงสาวหน้าบวมช้ำอย่างเงียบๆ

ด้วยความที่อยากจะดูหน้าเธอชัดๆ เลยซูมเข้าไป แล้วเขาก็ไปสะดุดตาตรงกระดาษทิชชูที่เธอใช้ซับน้ำตา

พอซูมเข้าไปดูดีๆ ก็เห็นว่า บนทิชชูมีคราบสีติดอยู่ หากไม่สังเกต ไม่หยุดภาพ ซูมดูใกล้ๆ จะมองไม่เห็นเลย

จากนั้นเขาก็ซูมดูใบหน้าของเธอ แล้วเอามาเปรียบเทียบกับจุดที่ถูกตบจริง

" ตรงบริเวณกะพุ้งแก้มกับมุมปากมีช้ำเลือดชัดเจน "

เขาเพ่งสายตามองที่ละจุดๆแล้วพึมพำออกมาเบาๆ

" แต่บริเวณเบ้าตา ลงมาถึงโหนกแก้ม...เขียวช้ำขนาดนั้น กลับไม่บวมเหมือนส่วนอื่นเลย แถมยังมีเมคอัพ(Makeup)ติดทิชชูอีก

หึ สาวน้อย คุณแสดงละครได้เก่งจริงๆ สามารถทำให้คนรุมด่าอิงฟ้ากันทั้งประเทศได้

ถือว่าแผนของคุณ ยอดเยี่ยมมากจริงๆ ทำให้ผมหลงเชื่อมาตั้งนาน

แต่จากนี้ไป คุณตบตาคนอื่นได้ แต่คุณจะไม่สามารถตบตาผมได้อีก เข้าใจมั้ย สาวน้อยตัวแสบ "