อ่านสรุป ตอนที่ 57 จะให้นับหนึ่งรู้ไม่ได้ จาก ริษยาร้ายซ่อนรัก โดย Paizay
บทที่ ตอนที่ 57 จะให้นับหนึ่งรู้ไม่ได้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ริษยาร้ายซ่อนรัก ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Paizay อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เช้าวันต่อมา ทุกคนพากันออกไปพายเรือเล่น ธีร์นั่งลำเดียวกันกับนับหนึ่ง ส่วนมีมี่ก็ฉายเดี่ยวคนเดียว ส่วนอีกสองสาวก็นั่งลำเดียวกัน
พวกเขาเดินเล่นถ่ายรูป เก็บภาพ ถ่ายวีดีโอกันบนเกาะอย่างสนุกสนานทั้งวัน
ตอนเย็นก็กลับมาที่พัก พอค่ำๆก็ออกมาทานบุฟเฟต์(Buffet)อาหารทำเลริมชายหาด
พร้อมกับนั่งฟังเสียงคลื่นซัดเข้ามากระทบฝั่งไปเพลินๆขณะนั่งทานอาหาร
โดยมีพนักงานมาคอยบริการพวกเขา ส่วนพวกเขาก็มีหน้าที่ทานอย่างเดียว
วันต่อมาก็ไปดำน้ำเล่น อีกวันก็ไปตกหมึกกลับมาทำอาหารกินเล่นกันอย่างมีความสุข
และในเช้าวันต่อมา นับหนึ่งตื่นตั้งแต่เช้ามืดออกมาเดินเล่นกับธีร์ริมชายหาด เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าริมทะเล
สองฝ่าเท้าเนียนนุ่มของเธอเหยียบลงบนผืนทรายสีขาวสะเอียด ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเท้าในอีกแบบ
จากนั้นก็ไปนั่งกินลมชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งตอนนี้พระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นจากขอบทะเลอันไกลพ้นที่เชื่อมระหว่างขอบฟ้า
แสงอาทิตย์สาดส่องแสงสีทองอร่ามอมส้มใต้ขอบฟ้า ช่างเป็นภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอร่ามตระการตาหาชมยาก
นับหนึ่งอ้าแขนรับแสงอุ่นๆจากพระอาทิตย์กับรับลมทะเลเย็นๆที่พัดมาเอื่อยๆในยามเช้าที่เงียบสงบแล้วหลับตาลงฟังเสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งดังเป็นระลอกๆ
มันทำให้เธอรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย สบายใจและมีความสุขอย่างไม่เคยมีมาก่อน
[ แบบนี้สินะ ที่เรียกว่า ธรรมชาติบำบัด ]
ธีร์นั่งมองใบหน้างดงามที่กำลังหลับตาพริ้ม อมยิ้มหน่อยๆ ด้วยแววตาอบอุ่น จากนั้นก็แอบพึมพำในใจอย่างเงียบๆ
[ นับหนึ่ง ผมชอบคุณ เมื่อไหร่คุณจะยอมรับรู้ความรู้สึกผมสักทีนะ คุณรู้บ้างมั้ย ยิ่งรู้ว่าคนที่ต้องการตัวคุณ
เปิดเผยตัวออกสื่อ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกกลัวที่จะเสียคุณไปแบบแปลกๆ ]
เขารู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ คล้ายว่าจะต้องเสียเธอไปในไม่ช้า
แค่คิดว่าจะเสียเธอไป ภายในจิตใจเหมือนจะว่างเปล่า รู้สึกโหวงเหวงอย่างใจหายแบบไม่มีความสุข
เพราะนับหนึ่งคือรักแรกและรักเดียวของเขา ดังนั้นเขาจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ
อย่างน้อยๆในวันที่ต้องไกลห่าง ก็หวังแค่ให้เธอคิดถึงเขาบ้าง ไม่ลืมเขาคนนี้ที่เคยอยู่ข้างกายเธอ
นั้งสองนั่งบนเก้าอี้ริมหาดจนพระอาทิตย์ขึ้นสูงแดดเริ่มจ้า อากาศเริ่มร้อน
นับหนึ่งจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆแล้วหันมามองธีร์ที่นั่งเฝ้าเธออย่างเงียบๆ
" เราเข้าไปทานอาหารเช้ากันเลยมั้ยคะ "
" อื้ม "
จากนั้นทั้งสองก็ลุกจากเก้าอี้ เดินกลับขึ้นไปล้างเท้าที่เปื้อนทราย แล้วกลับเข้าไปในโรงแรม ไปนั่งทานอาหารเช้าต่อ
วันนี้เป็นวันสุดท้าย ทุกคนเลยนอนพักกันอย่างเต็มที่ บ่ายๆก็ออกมาเล่นน้ำทะเล แล้วกลับไปเล่นน้ำต่อในสระว่ายน้ำ
ตอนเย็นก็จัดปาร์ตี้กุ้งริมสระ หลักๆจะมีกุ้งล็อบสเตอร์ กุ้งมังกร กั้งแก้ว กั้งกระดาน และกุ้งน้ำจืดตัวใหญ่ๆรสชาติหวานๆ รวมถึง หมึกและหอยต่างๆ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟูด(Seafood)รสรสเด็ด เผ็ด เปรี้ยว หวาน ลงตัว
ทางพนักงานคอยจัดให้ทั้งแบบนึ่ง แบบต้ม และแบบเผา ธีร์จัดเต็มให้ทุกคน ได้ทานกันอย่างจุกๆ
แบบอิ่มหนำสำราญใจ มีความสุขปาร์ตี้อาหารทะเลในมื้อนี้
เช้าวันต่อมา พวกเขาก็พากันขนกระเป๋าออกจากเกาะ เดินทางไปดำน้ำชมปะการังต่อ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปขึ้นเครื่อง
พวกเขาใช้เวลาไปเกือบสองอาทิตย์กับทริปเที่ยวสุดฟิน กินอิ่ม นอนอุ่น โดยไม่ต้องควักเงินของตัวเองออกมาสักบาท
ระหว่างนั่งเครื่องกลับ นับหนึ่งก็พิงไหล่ธีร์อย่างอุ่นใจ แล้วหลับไปโดยไม่สนใจอะไร
ทริปเที่ยวในครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับธีร์มีความสนิทสนมกันมากขึ้น
ไม่นานเครื่องบินที่เคลื่อนตัว ลอยอยู่เหนือก้อนเมฆ ก็ค่อยๆร่อนลงจอด
พอเครื่องบินจอดนิ่งสนิทแล้ว ธีร์ก็ปลูกนับหนึ่งโดยเอ่ยเรียกเธอเสียงเบา
" นับหนึ่ง นับหนึ่ง ถึงแล้วครับ "
นับหนึ่งค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วก็สบตาเข้ากับธีร์ที่ใบหน้าห่างเธอเพียงไม่กี่นิ้ว
เธอตกใจรีบกลับมานั่งหลังตรง กะพริบตาปริบๆอย่างมึนงง เพราะเพิ่งตื่น สมองยังประมวลผลได้ไม่ดี
[ นี่บอสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ คงไม่ได้คิดที่จะจูบหรือลวงลามเราใช้มั้ย...หรือว่าเราคิดมากไปเอง ]
" คุณเป็นอะไรหรือเปล่า "
ธีร์เอ่ยถามขึ้นเสียงอ่อนอย่างเป็นห่วง นับหนึ่งหันมามองเขาแล้วเอ่ยตอบเสียงค่อยอย่างตะกุกตะกัก สองพวงแก้มขาวเนียนเริ่มแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด
" ปละ เปล่าค่ะ เรา เราลงไปกันเถอะค่ะ "
" อื้อ "
ธีร์พยักหน้าเบาๆ จากนั้นพวกเขาก็ลุกขึ้น เดินออกไปจากตัวเครื่องบิน พอออกมาแล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
ส่วนธีร์ก็ขับรถไปส่งนับหนึ่งที่ร้าน พอไปถึงนับหนึ่งก็หันไปเปิดประตูเพื่อลงจากรถ ธีร์เลยเอ่ยขึ้น
" ให้พักผ่อนนะ ห้ามทำงาน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มทำ เข้าใจนะ "
เธอหันมามองหน้าเขาแล้วเอ่ยตอบไปอย่างหน้านิ่งๆ
ธีร์นั่งฟังมีมี่เอ่ยอย่างเงียบๆ ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า เรื่องมันเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆร้อยเปอร์เซ็นต์
" ผมว่าไม่ใช่หรอก ยิ่งคุณบอกว่านับหนึ่งปฏิเสธเรื่องการสัก แสดงว่าเธอไม่รู้จริงๆ
ผมคิดว่า คนที่สักชื่อลงบนตัวเธอ จะต้องวางยาเธอก่อน แล้วค่อยสักชื่อลงบนตัวเธอ
ในตอนที่เธอหลับ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว และไม่เคยรู้มาก่อน ว่าตัวเองมีรอยสักบนแผ่นหลัง "
สีหน้ามีมี่ดูเคร่งเครียดเมื่อได้ยินดังนั้น จากนั้นหล่อนก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความโมโห
" ใครกันที่ทำแบบนั้นกับน้องได้ลงคอ ทำไมจิตใจมันช่าง เลวทราม ต่ำช้า แบบนั้น "
ได้ยินดังนั้น ธีร์เลยพิมพ์ค้นหาข่าวของอิงฟ้ากับกวินแล้วซูมชื่อของกวิน จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้มีมี่ดู
มีมี่มองหน้าบอสอย่างไม่เข้าใจ แล้วรับโทรศัพท์มาดูด้วยความสงสัย ว่าบอสให้หล่อนดูอะไร
พอเห็นชื่อ กวิน ธนินกุล Kawin Thaninkul หล่อนถึงได้เข้าใจว่าบอสกำลังจะบอกอะไร
จากนั้นหล่อนก็ทำการซูมออก แล้วเข้าไปอ่านข่าวฉบับเต็ม ดวงตาหล่อนเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง
" นี่บอสกำลังจะบอกว่า ผู้ชายคนนี้คือคนที่สักชื่อลงบนตัวน้องนับหนึ่งเหรอคะ โอ้ แม่เจ้า หล่อวัวตายความล้ม พอๆกับบอสเลยค่ะ "
หล่อนเอ่ยอย่างตะลึงในความหล่อของกวิน จนลืมสนใจอิงฟ้าไปเสียสนิทเลย
ธีร์เห็นดังนั้นจึงมองเขาด้วยแววตาเย็นชาแล้วหยิบโทรศัพท์คืนมาจากคนบ้าผู้ชายตรงหน้าอย่างรำคาญแล้วเอ่ย
" ผมให้คุณดู เพื่อที่จะได้ช่วยกันระมัดระวังผู้ชายคนนี้ ไม่ให้เข้าใกล้นับหนึ่ง
ส่วนเรื่องรอยสักกับผู้ชายคนนี้ จะให้นับหนึ่งรู้ไม่ได้ แล้วคุณก็รู้เอาไว้ว่า อิงฟ้า กับคนชื่อกวิน แล้วก็นับหนึ่ง พวกเขามีความเกี่ยวข้องกันมาก่อน
และนับหนึ่งเองก็เกลียดพวกเขามาก ดังนั้น คุณจะต้องคอยดูแลและปกป้องนับหนึ่งเสมือนบอดี้การ์ดส่วนตัวคนหนึ่ง
ผมจะเพิ่มเงินเดือนให้คุณเป็นสามเท่าของเงินเดือนเดิม
แล้วจะส่งคุณกับนับหนึ่งไปเรียนยิงปืน และเรียนต่อสู้ป้องกันตัว
เพราะทางฝั่งโน้นมีแต่บอดี้การ์ดมีฝีมือ หากรู้ว่านับหนึ่งคือหญิงสาวที่เป็นข่าวกับอิงฟ้า
เขาอาจจะส่งคนมาจับตัวนับหนึ่งไปก็ได้ เราต้องกันไว้และเตรียมพร้อมแต่เนิ่นๆ "
" ค่ะ บอส เดี๋ยวมีมี่จะขนเสื้อผ้ามานอนกับน้องนับหนึ่งเลยค่ะ "
" อือ อาทิตย์หน้าก็เริ่มไปเรียนยิงปืนเรียนต่อสู้ป้องกันตัวได้เลย "
" รับทราบค่ะบอส "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก