ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 64

พอกวินเดินเข้ามาข้างใน ตรงด้านหน้าของสถานที่ถ่ายทำ เขาเห็นเพียงแผ่นหลังของนับหนึ่ง ที่ถูกเคธี่พาออกไปยังทางออกด้านหลัง

เลยเอ่ยสั่งเสียงแข็งด้วยไม่ไม่พอใจต่อการกระทำของเคธี่

" กร ไปพาตัวผู้หญิงคนนั้นกับคุณเคธี่กลับมาเดี๋ยวนี้ "

กรที่ตามมาก็เอ่ยตอบรับคำสั่งของเจ้านายอย่างเชื่อฟัง

" รับทราบครับ "

แล้วก็ก็รีบวิ่งตามนับหนึ่งกับเคธี่ออกไป

นับหนึ่งได้ยินกวินเอ่ยดังนั้น เธอก็หยุดชะงัก ไม่ยอมวิ่งหนีอีก เธอรู้ตัวแล้ว ว่ากำลังจะทำให้พี่เคธี่เดือดร้อนเพราะเธอ เธอมองหน้าพี่เคธี่แล้วเอ่ยขึ้น

" พี่เคธี่ หนูจะไม่หนี ให้ใครไล่ตามแล้วค่ะ ยังไงที่นี่มันก็ถิ่นของเขา หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอก "

กรมาหยุดลงตรงด้านหลังของทั้งสองแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุม

" คุณคิดถูกแล้ว เพราะต่อให้หนีออกไปได้ ก็หนีไม่พ้นหรอก "

นับหนึ่งกับเคธี่หันมามองหน้ากรพร้อมกัน ทันทีที่กรเห็นหน้านับหนึ่งก็ตะลึงเล็กน้อย

เขาจำได้ทันทีว่าเธอคือผู้หญิงที่เขาเคยเห็นตรงหน้ามหาลัย จึงเอ่ยขึ้น

" อ้อ ที่แท้คุณก็ชื่อนับหนึ่งเหรอ "

นับหนึ่งไม่แปลกใจที่เขารู้จักชื่อเธอ เพราะข้อมูล ของเธอคงถูกส่งไปให้เขาหมดแล้ว แต่ที่เธอแปลกใจคือเขาพูดเหมือนเคยรู้จักเธอ

" ใช่ค่ะ ฉันชื่อนับหนึ่ง ทำไมคะ คุณเคยรู้จักฉันมาก่อนเหรอ "

เธอเอ่ยตอบ ต่อด้วยถามอย่างเย็นชาโดยไม่มีทีท่าว่าเกรงกลัวเลย กรจึงเอ่ยปฏิเสธไปว่า

" เปล่าครับ "

จากนั้นเขาก็เอ่ยด้วยถ้อยคำสุภาพอย่างสุขุม

" เชิญคุณนับหนึ่งกับคุณเคธี่ ไปพบท่านประธานด้วยครับ "

กรเอ่ยเสียงเรียบด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วถอยทางให้นับหนึ่งกับเคธี่เดินกลับเข้าไปข้างใน

นับหนึ่งเดินกลับเข้าไปด้วยสีหน้านิ่งๆ ดวงตาโฉบเฉี่ยวดูเย็นชาอย่างน่ายำเกรง

ในชีวิตนี้ สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดคือคนที่ดูถูกและข่มเหงเธอ

กวินนั่งรอบนเก้าอี้ทำงานแบบหมุนได้ นับหนึ่งเดินเข้าไปยืนข้างหลังเขาแล้วเอ่ยขึ้นเสียงแข็งอย่างหนักแน่นเย็นชา

" ฉันขอยกเลิกสัญญาในการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าของคุณค่ะ

และฉัน จะไม่ขอร่วมงานกับบริษัทของคุณอีกต่อไป ต่อให้ฉันเป็นดาราหน้าใหม่

แต่ฉันก็มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่เห็นแก่เงินของคุณและจะไม่ยอมลดศักดิ์ศรีให้ใครมากดหัว ด่าฉอดๆแบบนี้

คุณฟังให้ดีนะ ฉัน ไม่คิดที่จะอยากเกาะสินค้าของคุณ เพื่อให้ตัวเองโด่งดัง

เพราะคนอย่างฉัน ถ้าจะดัง ต้องดังด้วยความสามารถของตัวเองค่ะ กรุณาฉีกสัญญาให้ด้วยค่ะ "

[ ผู้หญิงอวดดี เป็นแค่ดาราหน้าใหม่คนหนึ่งแต่กลับหยิ่งจองหอง หน้าตาจะซะแค่ไหนกัน ]

กวินพึมพำในใจด้วยความโมโห ก่อนจะหมุนเก้าอี้หันมาดูหน้าผู้หญิงอวดดีด้วยแววตาแข็งกร้าวพร้อมกับเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง

" แน่นอนว่าผมฉีก.....(สัญญาทิ้งแน่นอน) "

แต่ประโยคท้ายเขาไม่ได้เอ่ยออกมาแต่กลืนคำที่จะเอ่ยลงคอไป

เมื่อเห็นใบหน้างดงามขาวใสราวกับหิมะยืนอยู่ตรงหน้าและมีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาเตะจมูก

แววตาคมกริบของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นตะลึงอึ้งในความงามของหญิงสาวตรงหน้า

[ สวยมาก แววตาโฉบเฉี่ยว คมสวย ผิวขาวเนียนละเอียด ดูแล้วสบายตาดี ริมฝีปากอมชมพู กระจับอวบอิ่ม ดั้งจมูกเรียวเล็กโด่งสวยพอดีใบหน้า ตัวก็หอมอ่อนๆคล้ายสาวน้อยในคืนนั้นเลย ]

นับหนึ่งเป็นคนที่หุ่นดีมาก เธอเป็นคนผอมแบบอกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก บุคลิกมีเสน่ห์น่าค้นหา

เธอเอง แม้จะอยู่ใกล้บอสที่หน้าตาหล่อเหลาไร้ที่ติตลอด จนไม่เคยมองใครหล่อในสายตาอีก

แต่พอเจอชายตรงหน้าคนนี้ เธอก็ยังรู้สึกตะลึงในความหล่อเหลาและในความดูดีของเขาอยู่

[ ขนคิ้วเข้ม เรียงรายไปตามรูปคิ้ว นัยตาดำขลับเคร่งขรึมเย็นชาน่าค้นหา

ดวงตาคมทรงเสน่ห์ ราวกับเป็นหลุมดำที่สามารถดึงดูดคนได้

ดั้งจมูกโด่งเป็นสันดูยังไงก็ไร้ศัลยกรรม ริมฝีปากหยากสวยได้รูป

ช่วยส่งให้ใบหน้าเรียว คม ดูหล่อเหลาไร้ที่ติ

ผมก็จัดทรงได้ดูดีทีเดียว

เข้ากับรูปหน้าอย่างหาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ ช่างเป็นผู้ชายที่หุ่นดี รูปร่างสูงใหญ่ เพอร์เฟกต์ตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆ

แต่เสียดาย ที่ นิสัยไม่ได้ดีเหมือนหน้าตา ตรงสเปก แต่ไม่ตรงใจ ]

หลังจากที่จ้องกันอยู่สักพัก อยู่ๆกวินก็เอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบอย่างลืมตัว

" คุณใช้น้ำหอมอะไร "

พอทุกคนที่ยืนรอดูสถานการณ์อยู่รอบๆได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พากันมองหน้ากันด้วยความแปลกใจแล้วซิบซุบกันเบาๆ

" ทำไมท่านประธานถึงถามแบบนั้นล่ะ "

" ฉันก็ไม่รู้ "

" คุณนับหนึ่งสวยอ่ะน้อ ใครจะต้านไหว ดูท่านประธานสิ ตาเยิ้มเลย "

" จริง ขนาดคุณอิงฟ้า ยังไม่สามารถสะกดท่านประธานได้ขนาดนี้เลย "

" ใช่ๆ "

เคธี่แอบดีใจที่สีหน้าประธานกวินดูอ่อนลง แกหวังว่านับหนึ่งจะได้ถ่ายงานต่อ เพราะแกมั่นใจในความสวยของนับหนึ่งมาก

มีมี่ได้ยินกวินเอ่ยดังนั้น ก็กลัวว่าเขาจะจำนับหนึ่งได้ด้วยกลิ่นกายที่หอมเป็นพิเศษจากยีนส์ตัวหอมของเธอ

เลยเดินเข้าไปยืนข้างน้องแล้วสะกิดแขนน้องเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบแบบห้วนๆ

ด้วยสีหน้าเย็นชา แววตาจ้องไปยังกวินที่นั่งตรงหน้าด้วยแววตาไม่ปลื้ม

" ในเมื่อท่านประธานพูดแล้ว ว่าน้องเราไม่เหมาะกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่

ก็รีบๆยกเลิกสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้น้องเราสิ สัญญามันจะได้สิ้นสุดลงตอนนี้เลย "

เคธี่ได้ยินดังนั้นก็เข้าไปลากตัวมีมี่ออกมา แล้วเอ่ยดุ

" น้องหยุดเลยนะ นั่นมันเป็นโอกาสเงินโอกาสทองของน้องเลยนะ ไปพูดแบบนั้นทำไม มองไม่ออกเหรอ ว่าท่านประธานกำลังพิจารณาน้องอยู่ "

" แต่มีมี่ไม่.... "

มีมี่พูดไม่ทันจบ เคธี่ก็เอ่ยแทรกไม่ให้หล่อนพูดต่อ

" ไม่ต้องพูดแล้ว รูดซิปปากเลย "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก