พอกวินเดินเข้ามาข้างใน ตรงด้านหน้าของสถานที่ถ่ายทำ เขาเห็นเพียงแผ่นหลังของนับหนึ่ง ที่ถูกเคธี่พาออกไปยังทางออกด้านหลัง
เลยเอ่ยสั่งเสียงแข็งด้วยไม่ไม่พอใจต่อการกระทำของเคธี่
" กร ไปพาตัวผู้หญิงคนนั้นกับคุณเคธี่กลับมาเดี๋ยวนี้ "
กรที่ตามมาก็เอ่ยตอบรับคำสั่งของเจ้านายอย่างเชื่อฟัง
" รับทราบครับ "
แล้วก็ก็รีบวิ่งตามนับหนึ่งกับเคธี่ออกไป
นับหนึ่งได้ยินกวินเอ่ยดังนั้น เธอก็หยุดชะงัก ไม่ยอมวิ่งหนีอีก เธอรู้ตัวแล้ว ว่ากำลังจะทำให้พี่เคธี่เดือดร้อนเพราะเธอ เธอมองหน้าพี่เคธี่แล้วเอ่ยขึ้น
" พี่เคธี่ หนูจะไม่หนี ให้ใครไล่ตามแล้วค่ะ ยังไงที่นี่มันก็ถิ่นของเขา หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอก "
กรมาหยุดลงตรงด้านหลังของทั้งสองแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุม
" คุณคิดถูกแล้ว เพราะต่อให้หนีออกไปได้ ก็หนีไม่พ้นหรอก "
นับหนึ่งกับเคธี่หันมามองหน้ากรพร้อมกัน ทันทีที่กรเห็นหน้านับหนึ่งก็ตะลึงเล็กน้อย
เขาจำได้ทันทีว่าเธอคือผู้หญิงที่เขาเคยเห็นตรงหน้ามหาลัย จึงเอ่ยขึ้น
" อ้อ ที่แท้คุณก็ชื่อนับหนึ่งเหรอ "
นับหนึ่งไม่แปลกใจที่เขารู้จักชื่อเธอ เพราะข้อมูล ของเธอคงถูกส่งไปให้เขาหมดแล้ว แต่ที่เธอแปลกใจคือเขาพูดเหมือนเคยรู้จักเธอ
" ใช่ค่ะ ฉันชื่อนับหนึ่ง ทำไมคะ คุณเคยรู้จักฉันมาก่อนเหรอ "
เธอเอ่ยตอบ ต่อด้วยถามอย่างเย็นชาโดยไม่มีทีท่าว่าเกรงกลัวเลย กรจึงเอ่ยปฏิเสธไปว่า
" เปล่าครับ "
จากนั้นเขาก็เอ่ยด้วยถ้อยคำสุภาพอย่างสุขุม
" เชิญคุณนับหนึ่งกับคุณเคธี่ ไปพบท่านประธานด้วยครับ "
กรเอ่ยเสียงเรียบด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วถอยทางให้นับหนึ่งกับเคธี่เดินกลับเข้าไปข้างใน
นับหนึ่งเดินกลับเข้าไปด้วยสีหน้านิ่งๆ ดวงตาโฉบเฉี่ยวดูเย็นชาอย่างน่ายำเกรง
ในชีวิตนี้ สิ่งที่เธอเกลียดที่สุดคือคนที่ดูถูกและข่มเหงเธอ
กวินนั่งรอบนเก้าอี้ทำงานแบบหมุนได้ นับหนึ่งเดินเข้าไปยืนข้างหลังเขาแล้วเอ่ยขึ้นเสียงแข็งอย่างหนักแน่นเย็นชา
" ฉันขอยกเลิกสัญญาในการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าของคุณค่ะ
และฉัน จะไม่ขอร่วมงานกับบริษัทของคุณอีกต่อไป ต่อให้ฉันเป็นดาราหน้าใหม่
แต่ฉันก็มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่เห็นแก่เงินของคุณและจะไม่ยอมลดศักดิ์ศรีให้ใครมากดหัว ด่าฉอดๆแบบนี้
คุณฟังให้ดีนะ ฉัน ไม่คิดที่จะอยากเกาะสินค้าของคุณ เพื่อให้ตัวเองโด่งดัง
เพราะคนอย่างฉัน ถ้าจะดัง ต้องดังด้วยความสามารถของตัวเองค่ะ กรุณาฉีกสัญญาให้ด้วยค่ะ "
[ ผู้หญิงอวดดี เป็นแค่ดาราหน้าใหม่คนหนึ่งแต่กลับหยิ่งจองหอง หน้าตาจะซะแค่ไหนกัน ]
กวินพึมพำในใจด้วยความโมโห ก่อนจะหมุนเก้าอี้หันมาดูหน้าผู้หญิงอวดดีด้วยแววตาแข็งกร้าวพร้อมกับเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง
" แน่นอนว่าผมฉีก.....(สัญญาทิ้งแน่นอน) "
แต่ประโยคท้ายเขาไม่ได้เอ่ยออกมาแต่กลืนคำที่จะเอ่ยลงคอไป
เมื่อเห็นใบหน้างดงามขาวใสราวกับหิมะยืนอยู่ตรงหน้าและมีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาเตะจมูก
แววตาคมกริบของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นตะลึงอึ้งในความงามของหญิงสาวตรงหน้า
[ สวยมาก แววตาโฉบเฉี่ยว คมสวย ผิวขาวเนียนละเอียด ดูแล้วสบายตาดี ริมฝีปากอมชมพู กระจับอวบอิ่ม ดั้งจมูกเรียวเล็กโด่งสวยพอดีใบหน้า ตัวก็หอมอ่อนๆคล้ายสาวน้อยในคืนนั้นเลย ]
นับหนึ่งเป็นคนที่หุ่นดีมาก เธอเป็นคนผอมแบบอกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก บุคลิกมีเสน่ห์น่าค้นหา
เธอเอง แม้จะอยู่ใกล้บอสที่หน้าตาหล่อเหลาไร้ที่ติตลอด จนไม่เคยมองใครหล่อในสายตาอีก
แต่พอเจอชายตรงหน้าคนนี้ เธอก็ยังรู้สึกตะลึงในความหล่อเหลาและในความดูดีของเขาอยู่
[ ขนคิ้วเข้ม เรียงรายไปตามรูปคิ้ว นัยตาดำขลับเคร่งขรึมเย็นชาน่าค้นหา
ดวงตาคมทรงเสน่ห์ ราวกับเป็นหลุมดำที่สามารถดึงดูดคนได้
ดั้งจมูกโด่งเป็นสันดูยังไงก็ไร้ศัลยกรรม ริมฝีปากหยากสวยได้รูป
ช่วยส่งให้ใบหน้าเรียว คม ดูหล่อเหลาไร้ที่ติ
ผมก็จัดทรงได้ดูดีทีเดียว
เข้ากับรูปหน้าอย่างหาที่ติไม่ได้เลยจริงๆ ช่างเป็นผู้ชายที่หุ่นดี รูปร่างสูงใหญ่ เพอร์เฟกต์ตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆ
แต่เสียดาย ที่ นิสัยไม่ได้ดีเหมือนหน้าตา ตรงสเปก แต่ไม่ตรงใจ ]
หลังจากที่จ้องกันอยู่สักพัก อยู่ๆกวินก็เอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบอย่างลืมตัว
" คุณใช้น้ำหอมอะไร "
พอทุกคนที่ยืนรอดูสถานการณ์อยู่รอบๆได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พากันมองหน้ากันด้วยความแปลกใจแล้วซิบซุบกันเบาๆ
" ทำไมท่านประธานถึงถามแบบนั้นล่ะ "
" ฉันก็ไม่รู้ "
" คุณนับหนึ่งสวยอ่ะน้อ ใครจะต้านไหว ดูท่านประธานสิ ตาเยิ้มเลย "
" จริง ขนาดคุณอิงฟ้า ยังไม่สามารถสะกดท่านประธานได้ขนาดนี้เลย "
" ใช่ๆ "
เคธี่แอบดีใจที่สีหน้าประธานกวินดูอ่อนลง แกหวังว่านับหนึ่งจะได้ถ่ายงานต่อ เพราะแกมั่นใจในความสวยของนับหนึ่งมาก
มีมี่ได้ยินกวินเอ่ยดังนั้น ก็กลัวว่าเขาจะจำนับหนึ่งได้ด้วยกลิ่นกายที่หอมเป็นพิเศษจากยีนส์ตัวหอมของเธอ
เลยเดินเข้าไปยืนข้างน้องแล้วสะกิดแขนน้องเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบแบบห้วนๆ
ด้วยสีหน้าเย็นชา แววตาจ้องไปยังกวินที่นั่งตรงหน้าด้วยแววตาไม่ปลื้ม
" ในเมื่อท่านประธานพูดแล้ว ว่าน้องเราไม่เหมาะกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่
ก็รีบๆยกเลิกสัญญาการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้น้องเราสิ สัญญามันจะได้สิ้นสุดลงตอนนี้เลย "
เคธี่ได้ยินดังนั้นก็เข้าไปลากตัวมีมี่ออกมา แล้วเอ่ยดุ
" น้องหยุดเลยนะ นั่นมันเป็นโอกาสเงินโอกาสทองของน้องเลยนะ ไปพูดแบบนั้นทำไม มองไม่ออกเหรอ ว่าท่านประธานกำลังพิจารณาน้องอยู่ "
" แต่มีมี่ไม่.... "
มีมี่พูดไม่ทันจบ เคธี่ก็เอ่ยแทรกไม่ให้หล่อนพูดต่อ
" ไม่ต้องพูดแล้ว รูดซิปปากเลย "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก