วันต่อมา กวินมาส่งนับหนึ่งถ่ายทำฉากสุดท้ายด้วยตัวเอง พอมาถึงสถานที่ถ่ายทำ
นับหนึ่งกับมีมี่ก็เปิดประตูก้าวลงจากรถ แล้วมีมี่ก็พานับหนึ่งเข้าไปยังห้องแต่งหน้า ส่วนมีมี่ก็เดินไปนั่งรอในห้องรับรอง
พอแต่งหน้าทำผมให้นับหนึ่งเสร็จ ช่างคนหนึ่งก็เดินออกจากห้องเพื่อไปหากรที่รออยู่ในห้องรับรอง ส่วนนับหนึ่งก็เดินเข้าไปในห้องแต่งตัว
" คุณกรคะ น้องนับหนึ่งกำลังเข้าไปแต่งตัวในห้องแล้วค่ะ "
" อือ ขอบใจ "
กรเอ่ยขอบใจเสียงเย็น จากนั้นก็ยกโทรศัพท์กดโทรออกไปยังเบอร์เจ้านาย พอเจ้านายรับสายเขาก็เอ่ยขึ้น
" คุณนับหนึ่งกำลังไปแต่งตัวแล้วครับ "
" อือ "
กวินส่งเสียงสุขุมออกมาผ่านลำคอแล้วก็กดวางสายไป จากนั้นก็เปิดประตูก้าวลงจากรถ เดินเข้ามาด้านในแล้วผลักประตูก้าวเข้าไปในห้องแต่งหน้า
มีมี่รู้สึกได้ถึงแผนการของสองเจ้านายลูกน้อง หล่อนจึงลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องรับรองเพื่อไปดูน้อง แต่กรกลับตามไปจับแขนเขาไว้ แล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็น
" คุณะจะไปไหน "
หล่อนหันมามองหน้ากรแล้วเอ่ยตอบเสียงแข็ง
" ฉันจะไปหาน้องสาวฉัน ปล่อย "
" แบบนั้นยิ่งปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด "
เอ่ยจบเขาก็ลากมีมี่กลับมานั่งลงที่เดิมและจับมือหล่อนไว้ไม่ปล่อย
ภายในห้องแต่งหน้า เมื่อฝ่ายคอสตูมที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า กำลังจะเข้าไปแต่งตัวให้นับหนึ่ง
พอเห็นท่านประธานบริษัทผู้หล่อเหลามาดนิ่งเดินเข้ามาในห้อง
ด้วยสีหน้าสุขุม เคร่งขรึม สวมใส่ชุดสูทสีดำส่งให้บุคลิกดูสง่า องอาจ น่าเกรงขำ
มีความหล่อ ดูดี สุขุม เย็นชา จนคนดูแลเสื้อผ้า ต้องหลีกทางให้เขาเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวของนับหนึ่งอย่างสง่าผ่าเผย
นับหนึ่งที่อยู่ในห้อง เธอกำลังนั่งรอคนที่ช่วยแต่งตัวเข้ามารูดซิปข้างหลังให้
กวินเปิดประตูเข้าไป ดวงตาคมทรงเสน่ห์มองไปยังแผ่นหลังขาวเนียนใสตรงหน้า
จับจ้องบริเวณต้นคอที่มีผมปล่อยสยายลงมาบังไว้ แล้วเขาก็ก้าวเข้าไปหานับหนึ่งอย่างเงียบๆพร้อมกับพึมพำในใจเบาๆ
[ สาวน้อย จะใช่คุณหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้ ]
เขาเข้าไปหยุดลงตรงข้างหลังเธอแล้วยื่นมือออกไปรูดซิปให้เธออย่างเบามือ
นับหนึ่งที่ยืนหันหลังอยู่ก็ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยขึ้นตามความเคยชิน
" ขอบคุณค่ะ "
ในขณะที่เธอกำลังจะหมุนตัวหันมามองคนที่รูดซิปให้ ฝ่ามือใหญ่ก็จับลงตรงหัวไหล่ แล้วเอ่ยออกมาอย่างสุขุมข้างหูเธอ
" อย่าเพิ่งขยับ "
นับหนึ่งตกใจ เธอเอียงคอ แหงนมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ในขณะที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง ถูกฝ่ามือของชายหนุ่มจับเอาไว้แน่น ไม่ให้เธอหมุนตัวได้
" ทำไมถึงเป็นคุณ แล้วคุณเข้ามาได้ยังไง "
เธอเอ่ยถามขึ้นเสียงแข็ง อย่างหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย ลึกๆในใจก็แอบกลัวเขามากเช่นกัน
กวินรู้ว่าเธอกลัว เลยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เพื่อให้เธอสบายใจ แต่ก็ไม่วายที่จะเอ่ยขู่ทิ้งท้ายเพื่อให้เธอเชื่อฟัง
" ผมไม่คิดจะทำอะไรคุณหรอก แค่จะมาใส่สร้อยให้เท่านั้นเอง อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากให้ผมลวนลามคุณในห้องแต่งตัว "
" นี่คุณขู่ฉันเหรอ "
เธอเอ่ยถามเสียงดุอย่างไม่พอใจ ทำให้กวินกระตุกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ย
" หึ ผมขู่คุณหรือเปล่า ลองไม่อยู่เฉยๆดูสิ แล้วคุณจะรู้ ว่าผมขู่คุณหรือเปล่า "
ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งก็ได้แต่ยืนนิ่งด้วยความหวั่นกลัว เธอไม่ได้โง่นะ ที่จะทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงถูกลวนลาม
[ ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ รู้รักษาตัวรอเป็นยอดดี ฉลาดรู้สถานการณ์แบบนี้ จะไม่ใช่เธอได้ยังไง ]
ด้วยนิสัยที่ฉลาดรู้จักเอาตัวรอดของของหญิงสาวตรงหน้ากับกลิ่นหอมอ่อนๆบนตัวเธอ ทำให้เขามั่นใจว่าเธอคือสาวน้อยของเขา
เขายิ้มออกมาแล้วเอากล่องเครื่องประดับออกมาจากถุง มาเปิดกล่องแล้วหยิบสร้อยมาสวมใส่ให้นับหนึ่ง
แล้วค่อยๆปัดผมที่สยายลงมาปิดต้นคอออกไปด้านข้าง จนเผยให้เห็นแผ่นหลังเรียบเนียนของเธอ
ตรงบริเวณต้นคอ ขาวจั๊วะ หอมนุ่ม เรียบเนียน ไร้ซึ่งสิ่งสะดุดตาใดๆ
คิ้วหนาบนใบหน้าหล่อเหลากระตุกวูบแล้วขมวดเข้าหากันเป็นปม นัยน์ตาคมกริบดูแข็งกร้าว
จ้องมองแผ่นหลังอันเนียนนุ่มของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่กะพริบ
เพื่อมองหาร่องรอยของการลบรอยสัก แต่ก็ไม่เห็นร่องรอยใดๆเลย
[ เป็นไปได้ยังไง ทำไมเธอถึงไม่มีรอยสักชื่อเรา ทำไมถึงไม่มีร่องรอยอะไรเลย หรือว่าเธอจะไม่ใช่สาวน้อยของเรา ]
เมื่อคิดว่านับหนึ่งไม่ใช่สาวน้อยในคืนนั้นของเขา เขาก็รีบใส่สร้อยให้เธอแล้วหมุนตัวเดินออกไปด้วยสีหน้าเคร่งครึมอย่างถมึงทึง
นับหนึ่งหมุนตัวมามองแผ่นหลังของชายเอาแต่ใจมี่เดินออกไปพร้อมกับเอานิ้วมือมาจับสร้อยคอเบาๆ
" นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป เป็นผีบ้าหรือไง "
เธอบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ ที่เห็นเขาทำตัวเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างตามใจ
จากนั้น เธอก็ก้าวออกไป แต่ก้าวออกไปยังไม่ถึงประตู มีมี่ก็วิ่งเข้ามาหาเธออย่างหน้าตาตื่นพร้อมกับเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก