สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 170

การเอาตัวเองมาถวายถึงที่ ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว แต่จ้าวจิ้งก็ยังคงเกร็งอยู่ดี

เหมือนการปรนนิบัติเจ้าป่า ขอแค่เป็นคนที่มีอำนาจเหนือคนอื่น นิสัยก็จะแตกต่างกับคนทั่วไป นิสัยแปลกประหลาด อารมณ์แปรปรวนมีเยอะแยะ ถ้าปรนนิบัติดีก็จะมีอนาคต แต่ถ้าปรนนิบัติไม่ดี คงต้องตกนรก

เมื่อก่อนจ้าวจิ้งเกลียดแล้วรังเกียจวงการนี้มาก รู้สึกว่ามันสกปรกมาก พวกศิลปินที่ดูดีต่อหน้ากล้อง ลับหลังก็ไม่ได้ใสสะอาดหรอก แต่พอนานเข้า เขากลับกลายเป็นหนึ่งในนั้น ไม่ได้เป็นคนโชคดีที่รอดพ้น

เพราะถึงแม้จะเป็นความดูดีแค่ชั่วคราว แต่ก็ดีกว่าการเป็นคนทั่วไป ไม่มีชื่อเสียง แล้วโดนคนอื่นกดขี่ไปทั้งชีวิต "อยากดัง ก็ต้องยอมแลกอะไรบางอย่าง เป็นเรื่องที่เต็มใจทั้งสองฝ่าย มองโลกให้กว้างหน่อยเถอะ" นี่เป็นคำพูดที่บอสต่งพูดกับเขาเอง

ใต้ฝักบัว จ้าวจิ้งทำความสะอาดทุกอณูบนร่างกาย แล้วล้างตัวเองให้สะอาด แต่หัวใจกับร่างกายนี้สกปรกไปแล้ว จะล้างไปเพื่ออะไร?

เขายิ้มอย่างเย็นชา อยู่ๆก็นึกถึงบทพูดที่น่าขมขื่นในหนัง : สุดท้ายคนจะกลายเป็นแบบที่ตัวเองเกลียด

แต่แล้วยังไงล่ะ ขอแค่ปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้ แล้วได้อยู่เหนือคนอื่น จากที่โดนรังแกกลายเป็นไปรังแก ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรเขาก็ยอม ถึงแม้จะต้องกลายเป็นหมาที่เลี้ยงขา เขาก็ไม่สนใจ

อารมณ์ความรู้สึกในใจจ้าวจิ้งเยอะมาก เพิ่งปิดฝักบัว เขาก็ได้ยินเสียงล็อกประตู มองผ่านกระจกใสในห้องอาบน้ำ เขาเห็นเงาของร่างบางเดินเข้ามา : กลับมาแล้ว!

พอนึกถึงประธานหนาน ใจที่เพิ่งใจเย็นลง ตอนนี้ก็เต้นแรงอีกครั้ง แล้วไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อ

เขาแอบกำหมัด แล้วให้กำลังใจตัวเอง : ก็แค่ออกกำลังกาย ทำกับใครก็เหมือนกันนั่นแหละ จะกลัวทำไม!

จากนั้น ก็ดึงผ้าขนหนูมาผูกที่เอว แล้วเดินออกไป

วินาทีที่เดินออกไป จ้าวจิ้งกลับรู้สึกอึ้ง

เพราะหนานซ่งไม่ได้รีบร้อนรอให้เขาปรนนิบัติ หรือว่ารอที่จะลิ้มลองเขา แต่กลับถือโน้ตบุ๊กทำงานบนโซฟา เสื้อผ้าก็ไม่ได้ถอด แล้วแค่เปลี่ยนรองเท้า

เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ดูแล้วทั้งทางการ แล้วก็เย็นชา

เห็นเขาออกมา เธอก็ไม่ได้เมินเฉย แค่มองเขาอย่างนิ่งเฉย "มาแล้วเหรอ? นั่งสิ"

จ้าวจิ้งงงเล็กน้อย แล้วไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไง

เขาเคยเจอผู้หญิงเอาการเอางานมาไม่น้อย แล้วรวมถึงผู้หญิงที่เก่งๆด้วย แต่ต่อหน้ากับลับหลังเป็นคนละคนกันเลย ต่อหน้าดูสง่า เป็นผู้หญิงที่พึ่งพาตัวเอง ลับหลังก็แอบมีชู้บ้าง สูบบุหรี่บ้าง แล้วปากมีแต่คำหยาบ ปล่อยตัวยิ่งกว่าผู้หญิงในไนต์คลับอีก

เขาเตรียมใจที่จะโดนพุ่งเข้าใส่ หรือว่าให้คุกเข่าเลี้ยงขาตอนที่ออกมาแล้ว แต่หนานซ่งกลับเอ่ยให้เขานั่ง

นี่คืออะไรกันเนี่ย?

จ้าวจิ้งไม่เข้าใจ อึ้งจนบื้อไปเลย

เขาไม่นั่ง หนานซ่งก็ไม่ได้เอ่ยอีก สายตาแค่มองลงที่แป้นพิมพ์แล้วเคาะ จากนั้นก็ถามว่า "นายจบด้านพลศึกษา?"

จ้าวจิ้งอึ้งอีกรอบ ค่อยตั้งสติได้ว่าเธออาจจะกำลังดูประวัติของเขา จึงรีบตอบว่า "ครับ กระ กระโดดสูงครับ"

"อื้อ เป็นนักกีฬาทีมชาติสำรองด้วย แล้วเคยแข่งขันรายการระดับประเทศมาไม่น้อย เคยได้เหรียญทอง ผลงานก็ใช้ได้เลย"

น้ำเสียงของหนานซ่งเรียบนิ่งมาก "ทำไมไม่พยายามต่อล่ะ แล้วเข้าทีมชาติ?"

จ้าวจิ้งเข้าวงการมาหลายปี จนเกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยเป็นนักกีฬา แล้วไม่ค่อยพูดถึงกับคนอื่น แค่ตอนที่ร่วมรายการวาไรตี้ ผู้จัดการไม่มีอะไรจะโปรโมทเขา ก็จะยกเรื่องนี้มาพูด พิธีกรก็จะพูดถึงบ้าง แล้วก็จะเล่นเกมกระโดดสูงกับดาราคนอื่น

โดนหนานซ่งถามแบบนี้ เขาจึงตอบว่า "ซ้อมเหนื่อยมากเกินไป แล้วฐานะที่บ้านก็ไม่อำนวย พรสวรรค์ของผมก็ไม่ค่อยดี เข้าทีมชาติไม่ได้ เลยไม่ได้เดินทางนี้ต่อ เลยมาเข้าวงการบันเทิงแทนครับ"

คำพูดนี้ผู้จัดการเป็นคนเรียบเรียงให้เขา เมื่อก่อนใช้ตอบคำถามตอนสัมภาษณ์ แล้วเขาที่เป็นแค่นักแสดงกิ๊กก๊อก ไม่ค่อยได้รับสัมภาษณ์ นานไปจึงเกือบจะลืม แล้วลืมเหตุผลที่ตัวเองยอมแพ้กับการเป็นนักกีฬาด้วย

เขาลืม แต่ในโซเชียลจำได้

น้ำเสียงหนานซ่งนิ่งเฉย "ไม่ใช่หรอกมั้ง ถึงแม้นายจะมาจากชนบท แต่พ่อเปิดโรงงาน แล้วแม่ก็ทำธุรกิจ เป็นลูกคนเดียวด้วย ฐานะที่บ้านจะไม่อำนวยได้ยังไง? ส่วนเรื่องทีมชาติ ในนี้เขียนไว้ว่าครูฝึกทีมชาติหวังหย่งเคยเชิญนายไปฝึกในทีมชาติ แต่ระหว่างการฝึกซ้อมกับการถ่ายโฆษณา นายเลือกโฆษณา แล้วเข้าวงการบันเทิง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา