สถานีตำรวจท้องที่และตำรวจต่างก็รีบร้อนมากันอย่างรวดเร็ว
หลังจากถามเรื่องราวทั้งหมดและถ่ายภาพบันทึกที่เกิดเหตุแล้ว หนานซ่งและโจ๋เยว่ต่างก็ไปยังสถานีตำรวจ
ยวี่จิ้นเหวินและฟู่ยวี่กำลังจะตามไปด้วย หนานซ่งหันกลับมาและชำเลืองมองพวกเขาพร้อมกับเอ่ยว่า "จะตามไปทำไม?"
ยวี่จิ้นเหวินเอ่ยว่า "ฉันก็เป็นหนึ่งในพยาน"
ฟูยวี่พูด "ฉันน่ะเห็นความไม่ยุติธรรม ฉันก็จะเข้าไปช่วย แต่เธอต้องบอกฉันก่อนว่าซูยินใส่อะไรลงไปในถั่วพิสตาชีโอ ฉันเกือบคิดว่าตัวเองเป็นบ้า น่ากลัวเกินไปแล้ว......"
เขาพูดและคำรามไปตลอดทาง ตลอดทั้งชีวิตนี้เขาไม่เคยสงสัยอะไรมากเท่านี้มาก่อน
หนานซ่งเอ่ยคำสองคำแก่เขา "สมควร"
ฟู่ยวี่ "........"
ไป๋ลู่ยวี๋เห็นว่าหนานซ่งหายไปนานแล้วและยังไม่กลับมา เขาโทรหาเธอและรู้ว่าเธอไปยังสถานีตำรวจ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที "เกิดเรื่องอะไรขึ้น?"
หนานซ่งไม่พูดอะไรมากนัก เธอบอกว่าเป็นเพียงเรื่องเล็ก อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว
ไป๋ลู่ยวี๋และซูรุ่ยรู้สึกไม่สบายใจและอยากจะไปหา
ซูรุ่ยผลักประตูห้องนอนและพูดกับซูยินที่ยังคงยืนอยู่ตรงมุมห้องและหันหน้าไปทางกำแพง "พวกเราจะไปสถานีตำรวจ เธอจะไปด้วยหรือว่าจะอยู่ที่บ้าน?"
"สถานีตำรวจ? เกิดอะไรขึ้น?" ซูยินเบิกตากว้าง
ซูรุ่ยเอ่ยเบาๆ "คุณอาของเธออยู่ที่นั่น เกิดเรื่องนิดหน่อย.."
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ใบหน้าของซูยินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เธอผลักซูรุ่ยออกไปทันที "ยังจะยืนงงอยู่อีก รีบไปช่วยคุณอา!"
ระหว่างทาง ซูยินก็ได้รู้ว่ามีคนพยายามที่จะฆ่าหนานซ่ง เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร จากนั้นจึงรู้สึกโล่งใจ "ตกใจแทบตาย ฉันคิดว่าคุณอาโกรธมากแล้วจะทำอะไรกับพี่ชาย...."
ได้ฟังเสียงกระซิบของเธอ ซูรุ่ยขี้เกียจเกินกว่าจะตอบ ไป๋ลู่ยวี๋ที่นั่งอยู่บนเบาะผู้โดยสารด้านหน้าหันกลับมามอง "ฉันคิดว่าในตอนนี้สมองของเธอเต็มไปด้วยเรื่องผู้ชาย ไม่มีเรื่องคุณอาแล้วเสียอีก"
"คุณอาพูดอะไรน่ะ?"
ซูยินเอ่ยอย่างไม่พอใจ "ฉันน่ะชอบฟู่ยวี่มากก็จริง แต่คนในครอบครัวก็สำคัญกว่า ไม่มีคุณอา ฉันจะอยู่ได้อย่างไร? ให้นายท่านซูคอยเลี้ยงดู ฉันก็อดอยากตายกันพอดี"
ซูรุ่ยหันมาและเหลือบมองเธอ
ซูยินจึงหันไป "มองฉันทำไม?"
"ก็มองหมาป่าตาขาวตัวน้อยที่ฉันเลี้ยงมา โตมาแล้วหน้าตาเป็นอย่างไร"
ซูรุ่ยคิดว่าอาหารของเขานั้นอาจจะใช้เลี้ยงหมา ไม่อย่างนั้นลูกสาวที่เลี้ยงมาอย่างยากลำบากคงจะมีมโนธรรมมากกว่านี้?
ซูยินฟึดฟัดและตอกกลับด้วยความไม่พอใจ "ฉันไม่ใช่หมาป่าตาขาวตัวน้อย ฉันรู้ว่าพ่อเป็นพ่อม่าย (ไม่มีภรรยา/ภรรยาตายจากไป) เลี้ยงฉันมาอย่างลำบาก พ่อวางใจเถอะ หลังจากนี้ฉันจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังและจะไม่ทำให้คุณโมโห"
เมื่อเริ่มเรียกว่า "พ่อ" ...
ซูรุ่ยได้ยินและเขาเองก็ไม่คุ้นชิน เขาลดกระจกลงปล่อยให้ลมพัดเข้ามาและเอ่ยถาม "อาของเธอพูดว่าไงบ้าง?"
ซูยินก้มศีรษะลงและบีบนิ้วของเธอ "พูดเยอะอยู่..."
หนานซ่งพูดเยอะจริงๆและเป็นคำพูดที่แทงใจทุกคำ
——"ฉันจะบอกให้นะซูยิน จะรักใครนั่นก็เป็นเรื่องของเธอ อย่าพูดว่าเธอตกหลุมรักผู้ชายที่อายุมากกว่าเธอสิบปี แม้ว่าเธอจะตกหลุมรักผู้ชายเฒ่าหัวงู เมื่อพวกเธอตกลงปลงใจจะคบกัน หากพวกเราค้านไปจะมีประโยชน์อะไร?"
——"เธอสามารถรักใครสักคนได้ แต่เธอไม่สามารถที่จะทำร้ายคนในครอบครัวที่รักเธอเพื่อคนที่เธอรัก สักวันเธอก็คงเข้าใจ ความรักเป็นเพียงส่วนเล็กๆในชีวิตของเธอ เพื่อความรัก ทำให้สูญเสียตัวเองและทำร้ายคนในครอบครัว มันไม่คุ้มค่าเลยสักนิด"
——"พวกเราเลี้ยงดูเธอมาอย่างดีดั่งไข่ในหิน บริสุทธิ์และไร้เดียงสา ไม่บังคับอะไรก็เพื่อความสุขของเธอ ไม่ใช่ให้เธอไปคาดหวังกับผู้ชาย เพื่อคนคนเดียวที่ไม่รักเธอ เธอละทิ้งศักดิ์ศรี ละทิ้งตัวตน ละทิ้งแม้กระทั่งร่างกายและใบหน้าของตัวเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...