หนานซ่งโมโหง่าย แต่ก็หายง่าย
ในตอนที่ยวี่จิ้นเหวินพาเธอมาส่งที่ประตูหมู่บ้าน อารมณ์โมโหของหนานซ่งเกือบจะหายแล้ว อย่างน้อยสีหน้าก็เรียบเฉยแล้ว
ผู้ช่วยหลู่เหิงยืนถือร่มรอหนานซ่งอยู่ที่ประตูหมู่บ้านนานแล้ว เมื่อเห็นรถเข้ามา ก็เข้าไปเปิดประตูรถในทันที แล้วบังแดดแรงให้หนานซ่ง จากนั้นก็ทักทายยวี่จิ้นเหวินอย่างสุภาพ “ขอบคุณประธานยวี่นะครับ ที่พาประธานหนานของพวกเรามาส่ง”
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับยวี่จิ้นเหวินและหนานซ่งในอดีต รู้เพียงแต่ยวี่จิ้นเหวินกำลังตามจีบหนานซ่ง และเพราะว่าวันนั้นในตอนที่โจ๋เยว่จะทำร้ายหนานซ่ง เป็นยวี่จิ้นเหวินช่วยเธอเอาไว้ เพราะเหตุนี้หลู่เหิงจึงมีความรู้สึกที่ดีกับประธานยวี่คนนี้ ท่าทางก็เป็นมิตรอย่างมาก
ยวี่จิ้นเหวินพูดกับหนานซ่ง “เสี่ยวซ่ง วันไหนเรียกคุณหมอซูกับพวกคุณชายไป๋ชี ไปทานข้าวด้วยกัน”
“ค่อยว่ากัน”
หนานซ่งท่าทางเฉยชา ปิดประตูรถ จากนั้นก็เดินเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับหลู่เหิง
แม้แต่หันหน้ากลับไปดูสักหน่อยก็ไม่มี มีแต่ถือโทรศัพท์มือถือ แล้วขมวดคิ้วแน่นเป็นปม
หลู่เหิงตามหลังหนานซ่ง เดินตามไปทีละก้าว อึดอัดใจเป็นอย่างมาก
ถึงเขาจะติดตามหนานซ่งไม่นานเท่ากู้เหิง แต่ก็ค่อนข้างรู้นิสัยของเธอ
หนานซ่งดูเย็นชา โอหัง แต่เธอมีระเบียบวินัย มีมารยาท ปกติปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความสุภาพ ไม่เคยที่จะเป็นเพราะสถานะยศศักดิ์ของอีกฝ่ายปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมกัน ทำท่าทางไม่เหมือนกัน แต่กับคุณชายยวี่คนนี้ กลับไม่เหมือนกัน
ไม่เพียงแค่เย็นชา แม้กระทั่งเผยท่าทางหงุดหงิดออกมาอยู่บ่อย ๆ
เป็นเรื่องยากมากที่จะได้พบเห็น
เธอเกลียดจริง ๆ หรือว่า...ตั้งใจไม่สนใจอีกฝ่ายเพื่อที่จะควบคุมเขาได้ง่ายขึ้น?
หลู่เหิงผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ความรักอะไรครุ่นคิด แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรเยอะ แค่แกล้งหัวเราะแล้วพูดขึ้น “ประธานยวี่นิสัยดีจริง ๆ หาได้ยากที่จะเห็นลูกคนรวยสุขุมขนาดนี้ ดูแวบแรกก็รู้แล้วว่าเป็นสุภาพบุรุษอ่อนโยนมาก ๆ”
นิ้วมือที่จับโทรศัพท์ของหนานซ่งสั่น จู่ ๆ ก็หยุดฝีเท้าลง แล้วเหลือบมองเขา “นายตาบอดเหรอ?”
หลู่เหิง “...”
หนานซ่งพูดอีก “สายตามีปัญหาก็ไปหาหมอแผนกจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลดูหน่อย อย่ากระทบกับชีวิตประจำวัน”
หลู่เหิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ไม่กล้าพูดอะไรอีก
หนานซ่งไม่ได้ขยับเขยื้อน เพียงแค่จับโทรศัพท์มือถือ ตอบข้อความของหนานหลิน
ในตอนที่เกือบจะถึงตึก ไม่รู้ว่าจู่ ๆ มีคนไม่รู้ออกมาจากไหน “ประธานหนานระวังครับ!”
หนานซ่งเพิ่งจะเงยหน้า หลู่เหิงได้จับคนไว้ จากนั้นก็ตะโกนขึ้น “ใครน่ะ?!”
คนที่มาสวมใส่กระโปรงสีดำกลางวันแสก ๆ สวมหมวกกันแดด แว่นกันแดด หน้ากาก อุปกรณ์ครบครัน
หนานซ่งแวบเดียวก็มองออก “โจ๋เซวียน”
ถึงจะเป็นแบบนี้ หลู่เหิงออมแรงไม่อยู่ ได้ยินเสียง “แกร่ก” เสียงหนึ่ง แขนของโจ๋เซวียน ข้อต่อกระดูกเคลื่อน
“ว้าย”
เธอร้องอย่างตกใจ จากนั้นก็ปวดจนกระโดดโลดเต้น หน้ากากแว่นกันแดดอะไรก็ตกลงมา เผยให้เห็นใบหน้าที่อัดอั้นจนแดง กับน้ำตาที่ไหลออกมา โจ๋เซวียนพยุงแขนที่หักของตัวเอง เจ็บจนหาทิศทางไม่เจอ น้ำตาไหลออกมา “ฉันเองฉันเอง แขนของฉัน...”
ข้างหมู่บ้านมีร้านกาแฟร้านหนึ่ง ถูกโจ๋เซวียนคนมีเงินอำนาจบาตรใหญ่ควบคุมหมดแล้ว
ร้านกาแฟขนาดใหญ่ว่างเปล่า มีแต่พวกเขาลูกค้ากลุ่มนี้
ในเมื่อตอนนี้โจ๋เซวียนชื่อเสียงอยู่มาก เดินตามถนนมีคนมากมายจำเธอได้ ได้สัมผัสกับความมีหน้ามีตาของดาราระดับสูง เมื่อพวกชาวบ้านเห็นเธอ ไม่ได้สรรเสริญ แต่เป็นการเยาะเย้ย ไม่ใช่ชมเชย แต่พูดกระทบกระเทียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...