บรรยากาศรอบข้างเงียบไปชั่วขณะ
"ไอยา ฉันมีนัดกับหมอซูนี่นา เกือบลืมไปแล้วเชียว"
นายหญิงยวี่เอ่ยว่า "ตาเฒ่า พวกเราไปกันเถอะ ไม่ใช่ว่าคุณจะไปพิพิธภัณฑ์หรอกหรือ?"
นายท่านยวี่พยักหน้า "โอ้ อ่อ ใช่ๆ ใช่แล้ว! งั้น เสี่ยวซ่ง พวกเราไปก่อนนะ!"
คุณท่านยวี่สองและคุณท่านยวี่สามยกข้อมือขึ้นและมองดูนาฬิกาในเวลาเดียวกัน
"ที่บริษัทยังมีงานอีกมาก พวกเราเองก็ต้องไปแล้ว อาจิ้น ดูแลตัวเองด้วย"
ยวี่เจ๋ออวี่ก็เอ่ยอีกว่า "พี่ใหญ่ ที่โรงเรียนผมมีเรื่องนิดหน่อย ผมต้องไปแล้ว พี่หนาน บาย!"
ยวี่เจียหางและยวี่ฟานยินก็กล่าวลายวี่จิ้นเหวินและหนานซ่งเช่นกัน
ยวี่เฟิ่งเจียวยิ้มตาหยีและค่อยๆปิดประตูห้องพักผู้ป่วย
ภายในเวลาอันรวดเร็ว ตระกูลยวี่ต่างก็แยกย้ายกันไป จากที่เมื่อครู่นี้มีผู้คนอยู่จนเต็มห้อง ตอนนี้ภายในห้องกลับว่างเปล่า
ท่าทีของหนานซ่งยังคงงุนงง แต่เธอกลับสัมผัสได้ถึงข้อมือที่ถูกรัดแน่น
เธอก้มศีรษะลง จากนั้นเธอพบว่ายวี่จิ้นเหวินยังคงจับมือเธอไว้ เธอขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
"ขอโทษด้วย"
ยวี่จิ้นเหวินกลัวว่าเธอจะโกรธ เขาจึงรีบเอ่ยขอโทษและปล่อยมือเธอ
อุณหภูมิของมือเขายังคงอยู่บริเวณข้อมือ เธออดไม่ได้ที่จะขยับมัน
หนานซ่งก้มลงมองเขา "มีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ?"
"อืม"
ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้าและแสดงท่าทีบอกเธอว่า 'นั่งสิ'
หนานซ่งนั่งลงอย่างสงบและเริ่มเอ่ยก่อนว่า "สำหรับเรื่องนี้ขอบคุณ"
"เรื่องเล็กไม่ต้องขอบคุณหรอก"
ยวี่จิ้นเหวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ปกป้องเธอ ไม่ให้เธอได้รับอันตราย ฉันก็สมควรทำแล้ว"
“ไม่มีคำว่าสมควรหรือไม่หรอกนะ นายไม่ได้ติดหนี้อะไรฉัน”
หนานซ่งเอ่ย "ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ ฉันเองเป็นคนทำให้นายต้องโดนทุบตีถึงสองครั้งแล้วก็เจอเรื่องราวอันตรายอีกมาก ฉันได้ทำการรักษาการอุดตันของเลือดในสมองของนายแล้ว แต่ความเสี่ยงของการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะนั้นสูงมาก โอกาสของการติดเชื้อหลังผ่าตัดก็สูงเช่นกัน นายต้องดูแลตัวเองและดูแลร่างกายของนายให้ดี"
"ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะทำตามที่เธอบอก"
ยวี่จิ้นเหวินจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกล้ำ "ขอบคุณเธอด้วย เธอช่วยชีวิตฉันไว้อีกครั้งหนึ่งแล้ว"
ครานี้นี้ถึงคราวของหนานซ่งเอ่ยว่า "เป็นเรื่องที่สมควรทำแล้ว นายเป็นคนที่รับไม้แทนฉัน ฉันติดหนี้นาย หากนายมีอะไรที่ต้องการให้ฉันทำ นายก็บอกมาได้เลย ถ้าฉันทำให้นายได้ ฉันจะทำให้อย่างสุดความสามารถ"
เมื่อเธอเอ่ยคำพูดที่ให้ความเคารพเช่นนี้ทำให้หัวใจของยวี่จิ้นเหวินพองตัว
สิ่งที่สมาชิกในครอบครัวพูดกับเขา กำลังใจทั้งหมดที่เขามีก็หลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา
เขารู้ว่าเขาไม่ควรเอาเปรียบคนอื่น ได้ไม่คุ้มกับการสูญเสีย แต่ว่า แต่....
หลังจากที่หย่ากับเธอ เขาก็เข้าใกล้เธอมากยิ่งขึ้น!
จอแสดงผลด้านข้างเผยให้เห็นการเต้นของหัวใจของผู้ป่วยและอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หนานซ่งเหลือบมอง เธอขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ "นายตื่นเต้นอะไร?"
เธอรินน้ำให้เขาดื่มหนึ่งแก้ว เธอสัมผัสบริเวณหัวใจของเขาพร้อมกับเอ่ยว่า "คนที่เพิ่งทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะต้องเลี่ยงอาการตื่นเต้น อุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นสามารถทำให้ติดเชื้อได้ง่าย นายช่วยควบคุมอารมณ์ของนายด้วย..."
ยวี่จิ้นเหวินเองก็อยากควบคุมอารมณ์ของเขาเช่นกัน แต่เมื่อมือของเธอสัมผัสบริเวณหัวใจของเขา ราวกับว่าฝ่ามืออุ่นๆกำลังจับหัวใจของเขาไว้อย่างนุ่มนวล หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นอย่างไม่อาจควบคุมได้
เมื่อเห็นว่าอัตราการเต้นของหัวใจบนจอแสดงผลเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หนานซ่งก็ตระหนักถึงบางสิ่งได้และรีบดึงมือของเธอออกอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่กำลังจะดึงมือออก ยวี่จิ้นเหวินก็คว้ามือเธอไว้อีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่ใช่ข้อมือ แต่เป็นนิ้วมือของเธอ
แววตาที่ลึกล้ำของเขาแดงระเรื่อ เขาเอ่ยกับหนานซ่งว่า "อย่าขยับเลย แบบนี้แหละ ให้ฉันได้ผ่อนคลายหน่อย"
เขารู้สึกสบายใจเมื่อจับมือเธอและสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของเธอ
อัตราการเต้นของหัวใจค่อยๆคงที่
หนานซ่งจ้องมองไปยังจอแสดงผล การเต้นของหัวใจและอุณหภูมิร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติ จากนั้นเธอจึงโล่งใจ
เธออยากจะดึงมือกลับ แต่กลัวจะกวนใจเขาจึงจำเป็นที่จะต้องปล่อยไว้อย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...