สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 288

หนานซ่งนิ่งไป จากนั้นก็รีบลุกขึ้นมาจากตัวของยวี่จิ้นเหวิน

ในใจเธอแอบเขินอายอยู่ในที

น่าอายจริง ๆ

เธอยังคงมึนหัวอยู่เล็กน้อย เลยทำให้ใบหน้าของเธอดูซีดเซียวตามไปด้วย หนานซ่งยกมือขึ้นไปแตะหน้าผากของตัวเอง เพื่อทำให้อาการมึนหัวลดลง

ยวี่จิ้นเหวินมองสีหน้าของหนานซ่งด้วยสายตาเป็นห่วง "เป็นอะไรไป? อาการน้ำตาลในเลือดต่ำเหรอ?"

ได้ยินแบบนั้น หนานซ่งก็เอามือลงทันที จากนั้นก็มองยวี่จินเหวินอย่างสงสัย

"คุณรู้ด้วยเหรอว่าฉันมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ?"

เธอนั้นมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำจริง ๆ แต่ว่าปกติแล้วค่อนข้างจะระวัง น้อยมากจึงจะมีอาการ บางครั้งถ้าเหนื่อยมาก ๆ อาจจะมีอาการเวียนหัวเล็กน้อย ใจสั่น กินของหวานเข้าไปหน่อยก็อาการดีขึ้น

ในความทรงจำ อาการพวกนี้ไม่เคยแสดงต่อหน้ายวี่จิ้นเหวิน เขารู้ได้ยังไง?

ยวี่จิ้นเหวินเอ่ย: "แม่เป็นคนบอกผม"

หนานซ่งเข้าใจได้ทันที "ในความทรงจำของเธอ สามปีก่อนตอนที่เธอคอยดูแลยวี่จิ้นเหวิน ช่วงนั้นเธอค่อนข้างเหนื่อย ก็เลยมีอาการน้ำตาลตก เกือบจะเป็นลมไป แล้วก็โดนยวี่เฟิ่งเจียวเห็นเข้า

บอกตามตรง ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะความเป็นห่วงของคนตระกูลยวี่ที่ช่วยปลอบประโลมหัวใจของเธอ เธอก็คงจะทนไม่ได้นานถึงสามปี

ยวี่จิ้นเหวินเลื่อนลิ้นชักออกมา แล้วหาลูกอมรสนมกับนมอัดเม็ดที่ยวี่เจ๋ออวี่เคยเอามาให้เขา ที่จริงคือของที่หมอนั่นใช้ง้อแฟนสาวต่างหาก

แต่ว่าจะมาเยี่ยมมือเปล่าก็ไม่เหมาะสม ดังนั้นก็เลยเอาลูกอมมาด้วย เลยพอให้ยวี่จิ้นเหวินได้ย้อนระลึกถึงวัยเด็กบ้าง

"กินลูกอมสักเม็ดสิ" ยวี่จิ้นเหวินหยิบลูกอมยัดใส่เข้าไปในมือของหนานซ่งกำหนึ่ง

หนานซ่งไม่คิดว่าในห้องของผู้ป่วยจะมีลูกอมรสนมอยู่ด้วย พอรู้ว่ายวี่เจ๋ออวี่เป็นคนเอามาให้ก็ไม่แปลกใจอีกต่อไป เลยแกะเปลือกลูกอมแล้วเอามันใส่เข้าไปในปาก

พอได้เติมน้ำตาลเข้าไปในเส้นเลือด สีหน้าของหนานซ่งก็ดูดีขึ้นมาก จากนั้นก็เอาส่วนเหลือคืนให้เจ้าของ "ขอบคุณค่ะ"

"เก็บเอาไว้กินระหว่างทางสิ"

"ไม่ต้องหรอก มันหวานไป"

หนานซ่งยัดลูกอมเข้าไปในมือของยวี่จิ้นเหวิน จากนั้นก็ออกไปจากห้องพักผู้ป่วย

ยวี่จิ้นเหวินมองตามร่างกายโค้งเว้าของหนานซ่งที่กำลังเดินออกไป จากนั้นดวงตาก็หลุบลงมามองลูกอมในมือ ถือว่าเธอให้เขาก็แล้วกัน จากนั้นก็กำมันเอาไว้

*

ยวี่เฟิ่งเจียวกับน้าเว่ยยังคงรออยู่ด้านนอก

พอหนานซ่งเดินออกมา "คุณน้ายวี่ น้าเว่ย เข้าไปเถอะค่ะ หนูกำลังจะกลับพอดี"

"นี่ เสี่ยวซ่ง รอเดี๋ยวสิ"

ยวี่เฟิ่งเจียวเรียกเธอเอาไว้ จากนั้นก็เข้าไปจับมือเธอ แล้วหันไปบอกกับน้าเว่ย: "อาเหมียน เธอเข้าไปก่อนเถอะ ฉันขอคุยกับเสี่ยวซ่งสักเดี๋ยว"

"ได้ค่ะ" น้าเว่ยส่งยิ้มให้หนานซ่ง จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไปในห้อง เพื่อจะเอาอาหารเย็นกับเสื้อผ้าเข้าไปไว้ด้านใน

หนานซ่งเข็นยวี่เฟิ่งเจียวไปที่ข้าง ๆ เก้าอี้ตัวยาว

ใบหน้าที่ดูดุของยวี่เฟิ่งเจียวเมื่อมาอยู่ต่อหน้าหนานซ่งดูหลงเหลือเพียงแต่ความใจดี "นั่งสิ"

หนานซ่งนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาว จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "คุณน้า ขาของคุณน้าเป็นยังไงบ้างคะ?"

"ฟื้นฟูได้ดีพอสมควรเลย ตอนนี้เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว"

ขายังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ทำให้ชีวิตของเธอมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง ช่วงนี้ยวี่เฟิ่งเจียวดูอารมณ์ดีขึ้นมาก

อารมณ์ของคนเราส่งผลกระทบไปยังทุกส่วนของร่างกาย ถ้าจิตใจสงบผ่อนคลาย ร่างกายเองก็พลอยแข็งแรงไปด้วย

"คุณหมอซูมีฝีมือดีจริง ๆ นะ แต่ได้ยินมาว่าอีกสองสามวันท่านก็จะกลับไปที่เหมยซูแล้วเหรอ น้ากำลังคิดอยู่ว่า ควรจะไปอยู่เหมยซูสักช่วงดีไหม?"

ยวี่เฟิ่งเจียวมองว่าหนานซ่งก็คือลูกสาวคนหนึ่งของตัวเอง ก็เลยถามความเห็นจากเธอ

หนานซ่งคิดอยู่แป๊บหนึ่งจากนั้นก็บอกออกมา: "หนูรู้ว่าคุณน้ากำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ การรักษาที่สำคัญ ๆ ก็ได้ทำการรักษาไปจนเกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือคือพวกกายภาพบำบัด คุณหมอท่านไหนที่สำนักแพทย์แผนจีนก็สามารถรักษาต่อได้ทั้งนั้น พอพี่รุ่ยไปแล้ว น่าจะส่งต่อเคสของคุณน้าให้กับอวิ๋นชิงลูกศิษย์ของเขา คุณหมอคนนั้นถึงจะดูเด็กไปหน่อย แต่ว่าฝีมือการรักษาดีเยี่ยมเลยค่ะ เรื่องนี้คุณน้าวางใจได้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา