"ยินดีต้อนรับค่ะ"
ในเที่ยวบินระหว่างประเทศ มีผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างก็มาจากในหลายๆประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารชาวจีน
หนานซ่งและบอดี้การ์ดนั่งตั๋วชั้น First Class บอดี้การ์ดคนหนึ่งนั่งข้างหนานซ่ง อีกคนหนึ่งนั่งข้างหลังหนานซ่ง พวกเขาคอยระวังคนทุกประเภทและปกป้องเธออย่างเคร่งครัด
"พวกนายไม่จำเป็นจะต้องเคร่งขนาดนั้นก็ได้"
หนานซ่งหยิบหนังสือจากกระเป๋าสะพายของเธอออกมาแล้วพูดกับบอดี้การ์ดว่า "สงบอารมณ์ลงหน่อย จัดการกับสีหน้าพวกนายด้วย"
เธอทำนิ้วมือ 'เครื่องหมายถูก' ไว้ใต้ริมฝีปากของเธอ จากนั้นเธอก็แสดงท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส
12ชั่วโมงหลังจากนี้เธอจะได้พบกับพี่ใหญ่แล้ว หนานซ่งรู้สึกว่าร่างกายของเธอนั้นกระฉับกระเฉง ราวกับว่าร่างกายไปย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นอย่างไรอย่างนั้น
บอดี้การ์ดสองคนพยายามปรับสีหน้าให้กับคุณหนูใหญ่ เขายิ้มอย่างเหยเกและส่งเสียงฮะๆ
นี่คือรอยยิ้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา
"เอาเถอะ ฉันรู้ว่าพวกนายพยายามอย่างที่สุดแล้ว"
หนานซ่งส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ "ต้องโทษนายเค เขามักจะเข้มงวดกับพวกนายจนมากเกินไป"
บอดี้การ์ดเป็นพี่น้องฝาแฝด คนโตชื่อเซี้ยงจั่ว คนเล็กชื่อเซี้ยงโย่ว นายเครับพวกเขามาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า รับเข้ามาฝึกมาสอนและเลี้ยงดูโดยตัวเขาเอง
เซี้ยงจั่วที่นั่งด้านข้างหนานซ่งพูดกับเซี้ยงโย่วผู้เป็นน้องว่า "นายลองไปตรวจสอบดูหน่อยว่าบนเครื่องบินมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
เซี้ยงโย่วตอบรับ เขาพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจากนั้นก็เดินออกไป
เซี้ยงจั่วต้องการรายชื่อผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้ เพื่อดูว่าการสอบสวนครั้งก่อนมีความคลาดเคลื่อนหรือไม่ เขาถูกฝึกในการตรวจดูข้อมูลอย่างละเอียดภายในเวลาไม่กี่วินาที บนเครื่องบินลำนี้มีรายชื่ออยู่ประมาณ300คนที่เขาจำได้อย่างแม่นยำ
เรื่องเหล่านี้ก่อนที่จะออกเดินทาง นายเคได้ย้ำนักย้ำหนา พวกเขาไม่กล้าประมาทหรือละเลยแม้แต่น้อย ความปลอดภัยของคุณหนูใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง
จะมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ในความจริงแล้วหนานซ่งอยากจะบอกว่าเครื่องบินที่พี่ใหญ่ได้จัดจองไว้ให้จะไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน คาดหวังว่าพวกเขาคงไม่ทำตัวเหมือนกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู ตื่นตระหนกขนาดนั้น
ว่ากันว่ากัปตันในวันนี้ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นคนทิ้งระเบิดในกองทัพ มีประสบการณ์มากล้น ไม่จำเป็นจะต้องกังวล
แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ออกมากับเธอ ความประหม่าและตื่นตระหนกนี้ไม่อาจเลี่ยงได้เลย
หนานซ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
พี่ใหญ่บอกว่าจะมีคนมารับเธอ ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนมารับเธอ เธอล่ะอยากเห็นคนที่พี่ใหญ่เรียกว่า'เพื่อน'จนใจจะขาด
หลังจากที่รออยู่นาน ชั้น First Class ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาเลย คงเป็นเพราะว่าพี่ใหญ่ได้จองไว้ทั้งหมดแล้ว
ไม่อาจพูดคำว่าจองได้ สายการบินนี้ดูเหมือนจะเป็นอุตสาหกรรมที่ตระกูลShelbyร่วมลงทุนด้วย
"ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ยินดีต้อนรับขึ้นเที่ยวบินนี้ โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยดังต่อไปนี้..."
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประกาศสองภาษาว่าเครื่องบินกำลังจะเทคออฟ ขอให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัย เก็บโต๊ะบริเวณที่นั่ง ปิดโทรศัพท์มือถือหรือไม่ก็ปรับเป็นโหมดเครื่องบิน
หนานซ่งส่งข้อความหาพี่ใหญ่ : [เครื่องบินกำลังจะเทคออฟแล้ว]
[ทำไมคนที่พี่บอกว่าจะมารับฉันยังไม่ปรากฎตัวอีกล่ะ?]
[หรือว่าเขารอฉันที่สนามบินเบอร์มิงแฮมแล้วเหรอ?]
ก่อนที่พี่ใหญ่จะตอบ เหนือศีรษะของเธอก็มีเสียงลุ่มลึกและเคร่งขรึมดังขึ้น "เครื่องบินกำลังจะเทคออฟแล้ว เก็บโทรศัพท์ด้วย"
เมื่อหนานซ่งเงยหน้าขึ้น เธอเห็นชายร่างสูงใหญ่ปรากฎตัวขึ้น เขาสวมเครื่องแบบกัปตันและไว้ผมทรงสกินเฮด สูงประมาณ188เซนติเมตร หุ่นนายแบบ เขาดูแข็งแกร่งและดูเย็นชามาก
ดวงตาคู่หนึ่ง ลุ่มลึกและสง่างาม เขากวาดมองด้วยแววตานิ่งสงบ มีออร่าที่น่าตื่นตระหนกออกมา
บอดี้การ์ดทั้งสองสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก จิตใต้สำนึกของพวกเขาบอกว่าต้องคุ้มกันหนานซ่ง
หนานซ่งมองดูรูปร่างหน้าตาและออร่าของชายผู้นี้ เขาไม่ใช่กัปตันธรรมดาอย่างแน่นอน เขาดูมีระเบียบที่คล้ายกับทหารและไม่น่าจะใช่ทหารในยศธรรมดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...