สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 332

สรุปบท บทที่ 332 หนานซ่งริเริ่มที่จะเพิ่มเขาเป็นเพื่อน: สอนรักอดีตภรรยา

อ่านสรุป บทที่ 332 หนานซ่งริเริ่มที่จะเพิ่มเขาเป็นเพื่อน จาก สอนรักอดีตภรรยา โดย ลู่เสี่ยวเช่อ

บทที่ บทที่ 332 หนานซ่งริเริ่มที่จะเพิ่มเขาเป็นเพื่อน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet สอนรักอดีตภรรยา ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลู่เสี่ยวเช่อ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หนานซ่งให้พี่เล็กช่วยจับตาดูโจ๋เซวียน

"เฉียวเหลิ่งไม่มีทางปล่อยตัวเดินหมากอย่างโจ๋เซวียนไปง่ายๆหรอก เขาจะต้องทำเรื่องเลวร้ายอย่างอื่นอีกแน่ อีกไม่กี่วัน อีกไม่กี่วันเขาจะถูกส่งตัวไปยังประเทศT เรื่องนี้คงไม่ราบรื่นแน่"

ไป๋ลู่ยวี๋เอ่ย "อืม เธอวางใจ พวกเรากำลังจับตาดูอยู่ จะไม่ให้คลาดสายตา"

หนานซ่งตอบรับ อืม เบาๆ จากนั้นเธอก็กำลังจะวางสาย

ไป๋ลู่ยวี๋เอ่ยเรียก "น้องหก"

"ว่า?"

หนานซ่งหยิบคุกกี้ออกจากเตาอบ "มีเรื่องอะไร?"

ไป๋ลู๋ยวี๋ดูลังแลและเอ่ยว่า "เรื่องนี้ ฉันว่าทางที่ดีเธอควรจะคุยกับยวี่จิ้นเหวิน เธอและเขาต่างก็กำลังสืบหาเบาะแส หากใครคนใดคนหนึ่งถูกหวังผิงจับได้ ฉันว่าคุ้มได้ไม่คุ้มเสียเลย ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ยังคงเกี่ยวข้องกับเสิ่นหลิวซูพ่อของเขา เธอกับเขาก็ลองคุยกันดู ฉันว่ามันคงจะดีกว่าที่ต่างคนต่างแยกกันทำแบบนี้ อีกอย่าง หลังจากเครื่องบินตกตอนนั้นเธอก็ไม่ได้ติดต่อกับเขาเลยใช่ไหม?"

หนานซ่งเม้มริมฝีปาก เธออยากจะบอกว่าไม่มีอะไรที่จำเป็นจะต้องติดต่อกัน

ไป๋ลู่ยวี๋จึงเอ่ยอีกว่า "ฉันพูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าให้เธอไปคืนดีกับเขา เพียงแค่ปรึกษาปัญหากันเท่านั้น พูดกันอย่างสุภาพ แลกเปลี่ยนปัญหากันอย่างสงบ ตระกูลยวี่เป็นห่วงเธอมาก"

เมื่อวางสายโทรศัพท์ หนานซ่งก็ถือโทรศัพท์ไว้อย่างเหม่อลอย

จริงๆแล้วเธอเองก็อยากจะถามเขาเรื่องศีรษะของเขาด้วยว่าเป็นอย่างไรแล้วบ้าง

เธอหาวีแชทของยวี่เจ๋ออวี่ จากนั้นหนานซ่งก็ส่งข้อความไป

--

อีกทางหนึ่ง ยวี่จิ้นเหวินเห็นรอยแผลตรงปากของโจ๋เซวียนแล้วก็ไม่มีคำจะพูด

หากว่าผู้หญิงคนหนึ่งเต็มใจที่จะตกต่ำแล้วล่ะก็เทพเจ้าเองก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีอะไรจะพูด

เหอจ้าวมองสีหน้าของยวี่จิ้นเหวิน เขาอยู่ข้างกายและเอ่ยอย่างระมัดระวัง "หลังจากที่ผมได้สืบหาข้อมูลแล้วจึงได้รู้ หัวหน้าหวังคนนี้มีนิสัยค่อนข้างซาดิสม์กับเรื่องแบบนั้น ภรรยาของเขายังสาวยังสวย เธอไม่ยินยอมให้ความร่วมมือ เธอจึงหลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและปล่อยอิสระให้เขาในเรื่องเพศสัมพันธ์ ก่อนหน้านี้หวังผิงได้เด็กนักศึกษาคนหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็สนุกและทำร้ายเด็กคนนั้น..."

ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้ว เขาไม่เต็มใจที่จะรับฟังสิ่งเหล่านี้ สีหน้าของเขาไม่แยแส

"จิวยี่สู้รบกับอุยกาย คนหนึ่งเต็มใจต่อสู้ อีกคนเต็มใจทนทุกข์ พวกเราไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้"

เหอจ้าวเห็นว่าประธานยวี่ไม่ได้คิดจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ ภายในใจของเขาก็สงบลง เขาเกรงว่าป้าและหลานตระกูลโจ๋ ทั้งสองคนนั้นจะสามารถทำได้จริงๆ

หญิงสาวที่ไม่รู้จักเคารพตนเองและสามารถเป็นมือที่สามของคนอื่นได้ ทั้งชีวิตนี้ก็คงไม่มีทางเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายได้หรอก

"ประธานยวี่ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง"

เหอจ้าวพูดว่า "นักสืบของเราบอกว่าในช่วงที่เขากำลังสะกดรอยตามอยู่นั้น เขาพบนักสืบอีกคนหนึ่งกำลังสะกดรอยตามอยู่ด้วย เขาเป็นนักสืบที่มีชื่อเสียงในวงการเช่นกันและทั้งสองคนก็ได้เผชิญหน้ากัน"

ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ใครกัน?”

"เหมือนว่าจะเป็นคุณชายเจ็ดตระกูลไป๋"

"ไป๋ลู่ยวี๋?"

คิ้วที่ขมวดแน่นของยวี่จิ้นเหวินคลายลง หากว่าเป็นคนของไป๋ลู่ยวี๋นั่นหมายความว่าเป็นคนที่หนานซ่งส่งมา

เธอเองก็กำลังสืบเบาะแสเรื่องของโจ๋เซวียนและหวังผิง

ดูเหมือนว่าแม้ว่าเธอจะอยู่ต่างประเทศ แต่เธอก็ให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวในประเทศ

ในขณะที่ครุ่นคิด โทรศัพท์ก็ดังขึ้น ติ๊ดติ๊ด เป็นโทรศัพท์เครื่องสำรอง

โทรศัพท์เครื่องนั้นมีไว้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้นก็คือการผูกบัญชีวีแชทของยวี่เจ๋ออวี่และส่งข้อความหาหนานซ่ง

แต่ในวันนี้ จู่ๆมันก็ดังขึ้นเอง!

ในครั้งแรกยวี่จิ้นเหวินคิดว่าตัวเองโดนผีหลอกเข้าให้ แต่เมื่อได้เห็นข้อความที่หนานซ่งส่งมา ร่างกายของเขาผงะไปชั่วขณะและรีบเปิดอ่านข้อความ

เสี่ยวซ่ง : [เสี่ยวอวี่ ส่งบัญชีวีแชทของพี่ใหญ่นายให้ฉันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องอยากจะถามเขาหน่อย]

เธอถามบัญชีวีแชทของเขาจากยวี่เจ๋ออวี่!!!

สมองของเขาว่างเปล่า เขาคิดว่าตัวเองตาฝาดไป

จนกระทั่งเหอจ้าวรู้สึกว่าอารมณ์ของเจ้านายดูผิดปกติ เขาโน้มตัวไปด้านหน้าและชำเลืองดู เขาอดไม่ได้ที่จะแปลกใจและรู้สึกยินดี "ประธานยวี่ ประธานหนานขอเพิ่มคุณเป็นเพื่อน"

"คุณจะชักช้าไปทำไมกัน? รีบให้ไปเลยสิ!"

ก็เห็นกันอยู่ว่าไปต่างประเทศได้ไม่นาน แต่อาจเป็นเพราะระยะห่างที่ไกลกันและมีเรื่องต่างๆมากมายเกิดขึ้นจึงทำให้รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเนิ่นนาน มากเสียจนเธอรู้สึกมึนงงเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของยวี่จิ้นเหวิน

เธอตั้งสติและเอ่ยว่า "ฉันก็โอเคดี มีเรื่องอยากจะคุยกับนายหน่อย"

ยวี่จิ้นเหวินสงบลงและพูดว่า "เธอพูดมา"

"คนของนาย ตอนนี้สืบเรื่องของโจ๋เซวียนเหรอ?"

ยวี่จิ้นเหวินเดาไว้แล้วว่าเธอจะต้องคุยกับเขาเรื่องนี้ เขาจึงตอบรับอืมเบาๆ "ฉันรู้ว่าคนของเธอก็กำลังสืบอยู่ แต่สถานะของหวังผิงนั้นเขามักจะไหวตัวทันอยู่เสมอ พวกเราทั้งสองต่างก็กำลังสะกดรอยตามเขา เป้าหมายของเรานั้นใหญ่เกินไป เธอให้คนของเธอเลิกสะกดรอยตามเขาเถอะ การเคลื่อนไหวของโจ๋เซวียนและหวังผิงเดี๋ยวฉันจะคอยบอกเธอเอง"

เขาเอ่ยอีกว่า "ฉันสะกดรอยตามเธอก็เพื่อเฉียวเหลิ่ง ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด"

เขาเกรงว่าเธอจะเข้าใจผิด เขารู้สึกประหม่าและรีบอธิบายในทันใด

"โอเค งั้นก็ตามนี้"

หนานซ่งรู้ว่าเธอไม่สามารถหยุดเขาได้และเธอก็จะไม่ห้ามเขา "ฉันรู้มาว่าพ่อของนาย ผู้อำนวยการเสิ่นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้..."

ยวี่จิ้นเหวินเอ่ยว่า "เขาต้องการจับโจ๋เยว่ ไม่รู้ว่าตัวเองจะกลายเป็นเบี้ย ฉันจะเตือนให้เขาวางมือจากเรื่องนี้ จะฟังหรือไม่ก็แล้วแต่เขา"

"อืม"

หนานซ่งไม่ได้คิดว่าจะปล่อยโจ๋เยว่ไป หากเสิ่นหลิวซูต้องการจะกระโดดลงไปในน้ำโคลนนี้ เธอเองก็ไม่มีทางทำอะไรได้

ทั้งสองพูดคุยกันอีกสองสามประโยค เธอถามว่าสุขภาพของยวี่เฟิ่งเจียวเป็นอย่างไรบ้าง เขาตอบว่าดีมาก

พวกเขาเป็นเหมือนกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ถามถึงสมาชิกในครอบครัวของกันและกัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเว้นระยะห่างไว้มากพอสมควร

เมื่อคุยธุระเสร็จ หนานซ่งก็เอ่ยว่า "หากไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางล่ะ"

"เสี่ยวซ่ง..."

ยวี่จิ้นเหวินรีบเอ่ยชื่อเธอ

เขากระแอมในลำคอ จากนั้นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "เมื่อไหร่เธอจะกลับมา?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา