สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 367

สรุปบท บทที่ 367 อดีตสามีที่ล่วงรู้อนาคต: สอนรักอดีตภรรยา

ตอน บทที่ 367 อดีตสามีที่ล่วงรู้อนาคต จาก สอนรักอดีตภรรยา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 367 อดีตสามีที่ล่วงรู้อนาคต คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet สอนรักอดีตภรรยา ที่เขียนโดย ลู่เสี่ยวเช่อ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อเห็นว่าหนานซ่งเข้ามา ยวี่เจียหางและยวี่เจ๋ออวี่รีบลุกขึ้นทันใด

"พี่หนาน!"

ยวี่เจ๋ออวี๋รีบก้าวไปด้านหน้า "พี่กลับมาแล้ว! คิดถึงแทบตาย!"

"ไม่เจอแค่ไม่กี่วันคิดถึงแทบตายเลยเหรอ?"

หนานซ่งยืนมือออกมาเพื่อสกัดกั้นยวี่เจ๋ออวี่ จากนั้นชำเลืองมองไปทางยวี่เจียหาง "พวกพ่อๆของนายส่งพวกนายมา?"

ยวี่เจียหางและยวี่เจ๋ออวี่พยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง

"มาแล้วก็เที่ยวให้สนุก ฉันจะคอยดูแลเรื่องที่พักเรื่องอาหารให้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น"

หนานซ่งทำลายความหวังของพวกเขาด้วยประโยคเดียวจากนั้นเธอหันไปหาพ่อบ้านจ้าว "พ่อบ้าน รบกวนช่วยทำความสะอาดห้องสองห้องด้วยนะคะ"

"..........."

ยวี่เจียหางและยวี่เจ๋ออวี่มองหน้ากัน ภารกิจล้มเหลว

งั้นก็คงต้องเรียกพ่อ

ลูกชายนั้นแพ้พ่าย เมื่อได้เห็นสถานการณ์ของยวี่กรุ๊ปที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ยวี่เจี้ยนกั๋วและคุณท่านยวี่สามต่างก็ร้อนรน พวกเขารีบไปหายวี่เฟิ่งเจียวเพื่อขอคำแนะนำ

ตั้งแต่ยวี่จิ้นเหวินจากไป ยวี่เฟิ่งเจียวก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย เธอนั้นอยู่เพียงแต่ในคฤหาสน์

หลังจากที่เธอได้พักฟื้นที่เหมยซู สภาพร่างกายของเธอก็ดีขึ้นมาก แต่เนื่องจากการสูญเสียลูกชายสุดที่รัก อาการของเธอจึงซ้ำซากและขาของเธอเจ็บมากจนต้องนวดตลอดเวลา

น้าเว่ยนั้นได้เรียนรู้ทักษะเล็กน้อยจากอาจารย์ติงในตอนที่อยู่เหมยซู เธอนั่งบนม้านั่งเล็กๆนวดให้กับยวี่เฟิ่งเจียว

ยวี่เฟิ่งเจียวดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของน้องชายทั้งสองคนของเธอ สีหน้าของเธอดูไร้ซึ่งความรู้สึก ในมือของเธอนั้นพลิกหน้าสมุดบันทึกเล่มเก่า เป็นการบ้านประจำสัปดาห์ที่ครูมอบหมายให้ในตอนที่ยวี่จิ้นเหวินอยู่โรงเรียนประถมศึกษา

อาจิ้นตอนที่เป็นเด็ก เขาใช้ชีวิตอย่างร่าเริงและสดใส เป็นลูกชายที่ดี แล้วทำไมการเลี้ยงดูของเธอทำให้ภายหลังของเขาเป็นเช่นนั้น?

ยวี่เจี้ยนกั๋วและคุณท่านยวี่สามนั้นพูดจนปากแห้งคอแห้ง แต่เวลาผ่านไปเนิ่นนานกลับไม่ได้รับคำตอบเลยแม้แต่คำเดียว พวกเขาร้อนใจจนควันแทบออกจากลำคอ

"พี่ใหญ่ พวกเราพูดไปตั้งมากตั้งมาย พี่ก็ต้องตอบอะไรกลับมาบ้างสิ"

คุณท่านยวี่สองหยิบพัดของนายหญิงยวี่มาพัดให้กับตัวเอง สีหน้าของเขานั้นร้อนใจ เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ยังไม่พูดอะไร เขาก็รีบขยิบตาให้กับคุณท่านยวี่สาม

คุณท่านยวี่สามเอ่ยว่า "พี่ใหญ่ พวกเราอยากจะแก้ไขด้วยใจจริง ฉันไม่สามารถทนดูโปรเจ็กต์ 'ไม่ลืมเลือน' ของพวกเราตกไปอยู่ในมือของตระกูลหนานได้หรอกพี่ พี่ลองไปพูดดู หนานซ่งจะไม่ไว้หน้าพี่ได้อย่างไร"

ยวี่เฟิ่งเจียวยังคงก้มหน้าอยู่อย่างนั้นและไม่พูดไม่จา

น้าเว่ยจ้องมองสีหน้าของยวี่เฟิ่งเจียวและอดไม่ได้ที่จะพูดมา "คุณชายสอง คุณชายสาม ขอฉันพูดอะไรหน่อยเถอะ เป็นเพราะว่าคุณหนูใหญ่มีเกียรติดังนั้นเธอจึงไม่ยอมไปหาหนานซ่ง"

“หมายความว่าไง?” คุณท่านยวี่สองและคุณท่านยวี่สามทำหน้างงงวย

น้าเว่ยเอ่ยว่า "ต้นตอของเรื่องตอนนี้ไม่ได้อยู่กับโปรเจ็กต์ 'ไม่ลืมเลือน' หรอก แต่มันอยู่ที่การพัฒนาของบริษัทยวี่กรุ๊ป ฉันขอพูดอะไรที่ไม่น่าฟังหน่อยเถอะ คุณทั้งสองไม่สามารถพายวี่กรุ๊ปออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ ไม่อย่างนั้นนายท่านยวี่ก็คงไม่ให้พวกคุณไปอยู่ฝ่ายบริหารแล้วให้พี่จิ้นขึ้นเป็นประธานหรอก ที่ผ่านมา คุณสองคนไม่พอใจและรู้สึกว่านายท่านยวี่ลำเอียง แต่ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วการบริหารที่ไม่สำเร็จของยวี่กรุ๊ปเป็นปัญหาที่แท้จริง"

คุณท่านยวี่สองและคุณท่านยวี่สามได้ยินคำเหล่านี้ ใบหน้าของชายชราทั้งสองคนนั้นเจื่อนลงในทันที

ประโยคที่ไม่น่ารับฟังนั้น พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ การได้มาครอบครองนั้นมันเป็นเรื่องง่าย แต่การรักษาไว้เป็นเรื่องยาก ถ้าหากว่ายวี่กรุ๊ปอยู่ในมือของพวกเขา เกรงว่าสถานการณ์วันนี้จะเกิดเมื่อสองสามปีที่แล้วและไม่อาจรักษายวี่กรุ๊ปเอาไว้ได้

"พวกเราจะไม่พอใจได้อย่างไร? พวกเราน่ะเคารพและเข้าใจอยู่แล้ว!"

คุณท่านยวี่สามกล่าวว่า “ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่ดีต่อยวี่กรุ๊ปและเป็นสิ่งที่ดีต่อตระกูลยวี่ พวกเราไม่เคยปฏิเสธ พวกเราเชื่อว่าอาจิ้นนั้นมีความสามารถ แต่อาจิ้นได้จากไปแล้ว ยวี่กรุ๊ปจะต้องไม่พังทลายในมือของเรา”

"ดังนั้นพี่จิ้นจึงได้เตรียมพินัยกรรมไว้แล้วและยังจัดการแผนเตรียมรับมือที่ดีที่สุดไว้"

น้าเว่ยกล่าวว่า "พี่หางและพี่อวี่ต่างก็ยังเด็กและต้องเติบโตขึ้นในทุกๆวัน นายท่านยวี่เองก็แก่ชราลง คุณหนูใหญ่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ตอนนี้ต้องการที่จะลงมือก็มีเพียงแค่แผนแต่ไม่มีอำนาจ สถานการณ์ของยวี่กรุ๊ปในตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หลายโปรเจ็กต์ที่พี่จิ้นได้ดำเนินการก่อนที่เขาจะเสียชีวิต พวกคุณไม่สามารถรับหน้าที่ต่อไป เงินที่ลงทุนในระยะแรกนั้นสูญเสียไปแล้ว ต้องหาผู้จัดการที่เป็นมืออาชีพ"

"งั้นต้องก็เป็นหนานซ่งหรือเปล่า?"

คุณท่านยวี่สองเอ่ยด้วยสีหน้าบึ้งตึง "สำหรับเธอฉันไม่คัดค้าน แต่เธอเป็นใคร เธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหนานและเธอเป็นประธานบริษัทหนานคนปัจจุบัน! คนในตระกูลหนานรับช่วงดูแลบริษัทยวี่ต่อ นี่มันเป็นเรื่องที่ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะไหม?"

"แล้วถ้าหากยวี่กรุ๊ปล้มละลาย คนอื่นไม่หัวเราะเยาะเรายิ่งกว่าเหรอ?"

โปรโมชั่นกิจกรรมในห้างสรรพสินค้าก็ต้องรีบดำเนินการ หนานซ่งและรองประธานเจี่ยงฝานเยี่ยมชมเคาน์เตอร์ของห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในเมืองหนาน พวกเขาให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับทุกๆรายละเอียด

"ห้างที่เมืองอื่นก็ต้องจับตาดูไว้ด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่อื่นก็ต้องมีอย่างแน่นอน ปัญหาที่ได้พบเจอในวันนี้จะต้องได้รับการแก้ไขและห้ามมีข้อผิดพลาดเด็ดขาด"

หนานซ่งเดินไปพลางพูดไปด้วย เจี่ยงฝานตอบรับ "ฉันจะดำเนินการให้ทันที"

เมื่อเธอลงจากบันไดเลื่อน ภาพตรงหน้าของหนานซ่งก็ดับวูบไปชั่วขณะ เธอเกือบจะตกลงไป ยังดีที่เจี่ยงฝานประคองเธอไว้ได้ทันเวลา

"ระวัง!"

เจี่ยงฝานก้าวลงบันไดและคว้าหนานซ่งเข้ามาในอ้อมกอด สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลใจ "ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"

หนานซ่งคว้ามือเขาไว้ สีหน้าซีดเซียวและส่ายศีรษะ "ไม่เป็นอะไร"

หลังจากลงจากบันไดเลื่อนแล้ว เจี่ยงฝานก็ประคองหนานซ่งมานั่งพักบนม้านั่งและผู้ช่วยก็ส่งน้ำให้กับเธอ

เจี่ยงฝานมองใบหน้าที่ซูบผอมของหนานซ่ง ใบหน้าของเธอนั้นไร้สีเลือดแม้ว่าเธอจะแต่งหน้าก็ตาม เมื่อได้เห็นก็รู้สึกทุกข์ใจจึงเอ่ยถามผู้ช่วยว่า "วันนี้ประธานหนานทานข้าวหรือยัง?"

"เมื่อเช้าดื่มกาแฟไป แล้วก็ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ทานอะไรเลย" ผู้ช่วยตอบอย่างระมัดระวัง

เมื่อเจี่ยงฝานได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็บูดบึ้งทันที "ตลอดทั้งวันยังไม่ทานอะไรเลย ไม่น่าแปลกใจที่จะมึนหัวแล้วก็วูบไป เธอมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำไม่รู้บ้างเหรอ? ทำไมทำแบบนี้?!"

รองประธานเจี่ยงนั้นเป็นคนที่นิสัยอ่อนโยนและไม่เคยก้าวร้าว ผู้ช่วยตัวน้อยตกใจจนตัวสั่น แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

"พอได้แล้ว อย่าดุเธอเลย เธอเตรียมไว้ให้ฉันแล้ว แต่ฉันเองที่กินไม่ลง"

หนานซ่งดื่มน้ำไปครึ่งขวดและนั่งพักอยู่ครู่หนึ่ง เธอลุกขึ้นและเอ่ยว่า "ยังมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่งที่ยังไม่ได้ไป เราไปกันเถอะ"

"ฉันส่งคนไปแล้ว เรื่องใหญ่แค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับสุขภาพร่างกายหรอกนะ ไปกินข้าวก่อนค่อยคุยกัน!"

หาได้ยากที่เจี่ยงฝานจะใช้อำนาจเหนือหนานซ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา