สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 38

กลุ่มผู้หญิงที่สร้างปัญหาโดนไล่ออกไปจากงาน ส่วนหนานซ่งที่เป็นคนสาดไวน์กลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เธอจะไป แต่ไป๋ลู่ยวี๋กับไป๋ยีถิงไม่ให้ แล้วพูดเกลี้ยกล่อมให้หนานซ่งอยู่ต่อ ไป๋ชีก็พูดปลอบใจเธอว่า "พอแล้วพอแล้ว ไม่อารมณ์เสียนะ เดี๋ยวถึงช่วงประมูลของ เธอชอบชิ้นไหน เดี๋ยวฉันซื้อให้!"

จากนั้นก็พยุงเธอเดินไปข้างนอก แล้วพูดตำหนิ "ต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้เรียกฉันก่อนได้ไหม อย่าลงมือเอง เดี๋ยวบาดเจ็บจะทำยังไง? เธอจะให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่ออีกไหม?"

การเอาอกเอาใจที่ไร้หลักการแบบนี้ ทำให้คนที่มุงดูอยู่ต่างพากันอึ้ง

คนที่ไม่รู้เรื่องก็เริ่มซุบซิบเดาว่าคุณชายเจ็ดตระกูลไป๋กับคุณหนูใหญ่ตระกูลหนานเป็นอะไรกัน ถ้าคนที่รู้ก็ต้องรู้ว่าตระกูลไป๋กับตระกูลหนานสนิทกัน แต่สนิทกันยังไง พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

ผ่านเหตุการณ์ที่วุ่นวายอย่างสาดไวน์แล้ว จึงมีผลกระทบโดนตรงกับคนที่……เมื่อกี้ที่ยังนินทาหนานซ่งต่างก็พากันสงบปากสงบคำ ไม่กล้าพูดอะไรเลย

พอผู้คนแยกย้ายแล้ว ยวี่จิ้นเหวินมองการท่าทีที่ไป๋ชีกอดไหล่หนานซ่ง แววตาจึงเข้มขรึม แล้วแฝงไปด้วยความมืดมน

เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม "พวกเขาเกี่ยวข้องทางสายเลือดกันเหรอ?"

ฟู่ยวี่จึงเอ่ยตอบว่า "ไม่แน่ ยังไม่รู้สถานการณ์ฝั่งหนานซ่ง ส่วนคุณชายไป๋ชี ได้ข่าวว่าไม่ใช่ลูกของคุณหญิงไป๋ แต่แม่ของเขาเป็นใครตอนนี้ยังไม่เปิดเผย ไม่ใช่พ่อคนเดียวกัน แล้วก็ไม่ใช่แม่คนเดียวกันเหรอ หรือว่าเป็นพี่น้องบุญธรรม?"

มุมปากยวี่จิ้นเหวินกระตุก

พี่ชายที่ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกัน เขาไม่อนุญาต!

……

งานเลี้ยงครึกครื้นมาก นิตยสารจุดศูนย์จ้างนางแบบชื่อดังหลายคนมาเดินแบบ บวกกับเสียงดนตรีที่เร้าใจ บรรยากาศจึงครึกครื้นมาก

แล้วยังมีดาราขึ้นโชว์บนเวทีอีก ดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งโด่งดังก็ขึ้นไปโชว์ร้องเต้นบนเวที มีคุณหนูผู้ดีไม่น้อยกรี๊ดกร๊าดเขาอยู่ข้างล่าง แล้วกลายเป็นแฟนคลับของเขา

หนานซ่งนั่งอยู่แถวแรก ทีท่าดูสง่า สีหน้านิ่งเฉย แต่ดวงตาที่เป็นประกายก็มองออกว่าเธอกำลังชื่นชมอยู่

ไป๋ชีคอยเล่าให้เธอฟังอยู่ข้างๆ "คนนี้ชื่อซือตั๋ว เป็นนักแสดงบริษัทซิงยวี่เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ทีแรกจะเป็นไอดอลร้องเต้น แต่วงไม่ดัง เลยหันมาเป็นนักแสดง ไม่คิดเลยว่าจะดัง"

"ฝีมือร้องเต้นไม่เลวเลย เสียดายที่ไม่ได้เป็นนักร้อง"

หนานซ่งเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง

ไป๋ชีเหลือบมองเธอ แล้วเอ่ยถามว่า "ชอบเหรอ? เดี๋ยวช่วยเธอดึงตัวมาไหม?"

หนานซ่งส่ายหน้า "ตอนนี้การงานของเขาอยู่ช่วงขาขึ้น ดึงตัวมาก็ไม่ได้จะดีกว่าเดิม เขาก็อาจจะไม่สนใจบริษัทหนานซิงก็ได้ แล้วอีกอย่าง บริษัทซิงยวี่จะยอมปล่อยตัวทำเงินได้ยังไง?"

"บริษัทหนานซิงคงต้องจบเพราะหนานหนิงจู๋ กี่ปีนี้ข่าวเสียๆหายๆเยอะมาก ไม่ปฏิวัติคงไม่ได้ แต่ว่าพี่สามเป็นคนพยุงอยู่ เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"

หนานซ่งส่ายหน้าอีกครั้ง แววตาก็มีความแหลมคม "ตอนนั้นคุณแม่สร้างบริษัทหนานซิงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ให้พี่สาม แต่ตอนนี้กลับเป็นตัวถ่วงการงานในวงการบันเทิงของพี่สามแทน นี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณแม่ต้องการ ฉันก็จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ด้วย"

ไป๋ชีพยักหน้า "ตอนนี้พี่สามยังถ่ายละครอยู่ในป่า น่าจะใกล้ถ่ายเสร็จแล้ว ถึงเวลาเราพี่น้องจะได้รวมตัวกันสักที"

พอพูดถึงพี่ชาย ใบหน้าที่เย็นชาของหนานซ่งก็ดูอ่อนโยนขึ้นมา แล้วตอบรับ"อื้อ"อย่างเป็นเด็กดี

ไป๋ลู่ยวี๋ยิ้มแล้วขยี้ศีรษะหนานซ่ง จึงได้รับสายตาที่รังเกียจบวกไม่พอใจจากเธอ

ยวี่จิ้นเหวินนั่งอยู่ตรงข้ามหนานซ่ง เห็นท่าทางที่ใกล้ชิดสนิทสนมของพวกเขา แล้วเห็นหนานซ่งดูมีความสุข จึงทำให้เขาไม่สบอารมณ์ อารมณ์ย่ำแย่มาก

ท่าทางของเธอเมื่อกี้ กลับไปอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน แต่ท่าทางชิลล์ๆที่แสดงต่อหน้าไป๋ชี เธอไม่เคยแสดงกับเขาเลย

พวกเขาสองคน เป็นอะไรกันแน่!

พอจบงานเลี้ยงแล้ว ไป๋ยีถิงก็เป็นตัวแทนบรรณาธิการของนิตยสารจุดศูนย์ขึ้นไปกล่าว เป็นถึงเจ้าแม่วงการแฟชั่นที่ถูกขานเรียกว่าเจ้าแม่ยียี เธอไม่ใช่แค่เป็นตัวแทนของวงการแฟชั่น แต่ยังเป็นนักบุญด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา