ยวี่จิ้นเหวินรู้ดีว่า พวกเขา ที่ออกมาจากปากของหนานซ่งนั้นหมายถึงใคร
เพียงแต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะกลับมาไวขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องของเซียวเอินนั้นจะผ่านไปด้วยดีและจบลงก่อนที่จะถึงเวลา
เขาเอ่ยอย่างไม่ลังเล "ฉันจะกลับไปเมืองหนานกับเธอด้วย"
“ไม่ต้องหรอก”
หนานซ่งเอ่ย “ไม่ง่ายเลยกว่านายจะกลับมาได้ อยู่กับครอบครัวนายไปเถอะ มาถึงแล้วก็จะไปเลยงี้เหรอ?”
"แต่ว่าเธอ..."
ยวี่จิ้นเหวินขมวดคิ้วแน่น "ให้เธอกลับไปคนเดียว ฉันไม่สบายใจ"
"พี่ใหญ่ส่งเครื่องบินส่วนตัวมารับแล้วก็พี่รุ่ยอยู่เมืองเป่ยพอดี เขาจะกลับพร้อมฉัน"
"แต่ว่า...."
"ไม่ต้องแต่แล้ว"
หนานซ่งถอนหายใจ "การรวมญาติของเราไม่อบอุ่นเหมือนของนายหรอก การพบกันอาจเป็นพายุนองเลือด นายไม่ต้องเห็นคงจะดีกว่า"
ยวี่จิ้นเหวินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
สิ่งนี้ลั่วอินเองก็เคยพูด เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าการพบปะญาติมิตรนั้นร้ายแรงถึงขั้นนองเลือดได้อย่างไร
แม้ว่ายวี่จิ้นเหวินจะยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่า หนานซ่งก็ยังไม่ยอมให้เขากลับไปเมืองหนาน หากว่ายังดื้อด้านต่อไปมีหวังเธอได้โกรธเขาแน่ ยวี่จิ้นเหวินจึงรับฟังแต่โดยดี
"งั้นฉันอีกสองสามวันค่อยตามไปเมืองหนาน"
เมื่อเห็นหนานซ่งขมวดคิ้ว เขาก็รีบพูดว่า "เรื่องงานน่ะ ฉันอยากจะคุยกับเธอหน่อย"
เมื่อได้ยินคำว่าเรื่องงาน คิ้วของหนานซ่งก็ค่อยๆคลายปม
เมื่อยวี่จิ้นเหวินกลับมา ภาระของบริษัทยวี่ก็เบาลง ทันทีที่พ่อแม่ของเธอกลับมา ภาระของบริษัทหนานก็เบาลงเช่นกัน
เมื่อเธอคิดได้ว่าเธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลาย อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้น สีหน้าของเธอก็ดูดีขึ้นโดยธรรมชาติ
เธอตอบรับ 'อืม' และไม่ได้ห้ามเขา
"งั้นช่วงสองสามวันนี้นายก็อยู่ที่นี่อยู่เป็นเพื่อนตากับยายเถอะแล้วก็คุณน้ายวี่ด้วย อย่าไปเที่ยวเล่นที่ไหน ส่วนเรื่องงานไม่ต้องเร่งรีบขนาดนั้น"
ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้า "ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะเชื่อฟังเธอ"
อาจเป็นเพราะเคยชินกับการเล่นกับเด็ก เมื่อได้ยินยวี่จิ้นเหวินพูดเช่นนั้น หนานซ่งก็ตอบโดยไม่รู้ตัวว่า "เด็กดี"
"...."
ปากเร็วกว่าสมอง
หลังจากพูดจบ เธอรู้สึกว่าบรรยากาศเงียบไปชั่วขณะ แต่ยวี่จิ้นเหวินยังดูเป็นปกติ
หากคนอื่นไม่ได้รู้สึกอึดอัด ความอึดอัดนั้นก็จะอยู่ที่ตัวเอง
เธอโบกมือลาตระกูลยวี่ หนานซ่งพาหนานซานไฉขึ้นรถและตรงไปยังสนามบิน
หนานซานไฉเม้มริมฝีปาก "เฮ้? ทำไมฉันรู้สึกว่ายวี่จิ้นเหวินกลับมาครั้งนี้ ท่าทางระหว่างเธอและเขานั้นดูแปลกๆไปนะ?"
หนานซ่งเงยหน้าขึ้นทันที "แบบนั้นเหรอ? แปลกเหรอ?"
"ใช่แปลก"
หนานซานไฉดูดท่อยาสูบพร้อมกับพยักหน้าและเอ่ยอย่างจริงจัง "แต่ชายคนนี้ หลักจากผ่านช่วงชีวิตหลังความตายมาแล้วเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนจริงๆ ฉันคิดว่าไอ้เจ้าเด็กยวี่นี้ช่างดูเป็นผู้เป็นคนกว่าเมื่อก่อนมาก เขาดูมีตะกอนความคิด เหมือนเขาได้กลับไปหลอมตัวเองและสร้างตัวเองขึ้นใหม่ แต่เหมือนฉันเห็นเงาพ่อของเธอทับซ้อนกับเขา เธอว่าเกิดอะไรขึ้น?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหนานซ่งก็ตื่นตระหนกไปชั่วขณะ แต่ปมภายในใจของเธอกลับดูคลายลง
ยวี่จิ้นเหวินอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเธอมานานกว่าครึ่งปีแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีความคล้ายคลึงกับพ่อและแม่ของเธออยู่บ้าง
แต่ปู่ก็พูดอ้อมค้อม วนไปวนมา ทั้งที่อยากจะได้ยินนั้นก็คือเรื่องของพ่อและแม่ของเธอ
"เด็กน้อยซ่ง บนศีรษะของยวี่จิ้นเหวินนั้นคำว่า 'ซ่ง' มันเป็นลายมือของพ่อเธอ ลายมือของเขานั้นในตอนเด็กๆเป็นฉันเองที่ถือไม้หวายสอนเขา เป็นสไตล์ของตัวเองและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แค่แวบเดียวฉันก็มองออกแล้ว!"
หนานซานไฉพ่นลมหายใจ "ทักษะฝีมือการตัดผมก็เป็นเอกลักษณ์ของอินอิน เธอชอบตัดลวดลายลงบนศีรษะของผู้คน ก่อนหน้านี้เธอเคยตัดเป็นรูปดอกกุหลาบลงบนศีรษะพ่อของเธอและยังคิดจะตัดรูปท่อยาสูบลงบนศีรษะฉัน ฉันเลยไล่ตะเพิดเธอไป!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...