เมื่อได้ยินคำว่า "เรา" ออกจากปากของเธอ หัวใจดวงน้อยของฟู่ยวี่ก็เต้นแรงขึ้น
“เรื่องนี้เรื่องใหญ่ คุณต้องให้ผมกลับไปคุยกับเถ้าแก่ที่บ้านก่อน”
หนานซ่งพยักหน้า “ได้สิ”
ฟู่ยวี่เงยหน้าขึ้นมองเธอ "โครงการใหญ่ขนาดนี้ จะเสี่ยงเกินไปไหมถ้ามีเพียงสองตระกูลของเรา การลงทุนไม่น้อยเลย”
“อืม ฉันเคยคำนึงถึงกำลังของตระกูลฟู่แล้วก่อนที่จะพาคุณเข้าร่วมลงทุน ถ้าคุณรู้สึกเสี่ยง เราสามารถหาคนอื่นได้” หนานซ่งเป็นคนใจดี
ดวงตาของฟู่ยวี่เป็นประกาย "ถ้างั้นเหล่ายวี่... "
"ยกเว้นยวี่จิ้นเหวิน" หนานซ่งรู้ว่าเขาจะพูดอะไร ขจัดความคิดของเขาโดยตรง
ฟู่ยวี่กล่าวว่า: "ทำไมล่ะ? ในธุรกิจคำนึงถึงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์หรือความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ บริษัทยวี่กรุ๊ปคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของเรา เหล่ายวี่เองก็มีความตั้งเหมือนเรา แบบนี้ยิ่งดีไม่ใช่เหรอ"
หนานซ่งหลับตาลงและพูดอย่างเฉยเมย: "ฉันไม่อยากร่วมงานกับเขา"
"คุณกำลังแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้"
ฟู่ยวี่ฉวยโอกาส ‘สอน’ เธอ " คนเราต้องแยกแยะได้ เหล่ายวี่เป็นคนที่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ผมเชื่อว่าคุณเองก็เหมือนกัน ลองคิดดูสิ ถ้าเราทั้งสามตระกูลสามารถร่วมมือกันได้ จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด”
หนานซ่งขมวดคิ้ว กำลังจะพูด แต่ฟู่ยวี่พูดขึ้นอีกครั้ง: "คุณเพิ่งกลับมาที่บริษัทตระกูลหนาน เป็นช่วงเวลาที่ต้องยืนหยัด ผมในยินมาว่าตอนแรกที่ดินนี้คุณอาทั้งสองคนคุณจะสร้างเป็นสนามกอล์ฟ ถ้าพวกเขากลับมา พบว่าคุณสร้างเป็นสนามแข่งม้า เขาต้องฟ้องคณะกรรมการให้คุณรับผิดชอบ เมื่อถึงเวลานั้นผมกับเหล่ายวี่ก็จะช่วยคุณได้”
“คุณคิดว่าฉันกลัวพวกเขาเหรอ?” หนานซ่งพูดออกมาอย่างดูถูก
ฟู่ยวี่กล่าวว่า: "แน่นอนคุณไม่กลัว แต่การมีส่วนร่วมของบริษัทยวี่กรุ๊ปจะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับพวกเขาไม่ใช่เหรอ? อีกอย่าง คุณจะได้เปรียบเทียบได้ว่าระหว่างผมกับเหล่ายวี่เวลาทำงานใครหล่อกว่ากัน”
เขาพูดคำจริงจังสักสองสามคำแล้วเริ่มเล่นมุขอีกครั้ง หนานซ่งมองเขาอย่างโกรธเคือง “ฉันต้องดูเหรอ?”
ราวกับว่าเธอไม่เคยเห็นยวี่จิ้นเหวินมาก่อน
ฟู่ยวี่ยิ้ม "ไม่ต้องกังวล ผมกับเหล่ายวี่ถือแค่30% สูงสุดยังเป็นคุณ เมื่อถึงตอนนั้นคุณจะเป็นนายใหญ่ เขาต้องฟังคำสั่งคุณ คิดดูว่ามันเจ๋งแค่ไหน งานเหนื่อยงานหนักเราจะปล่อยมันมันทำ”
หนานซ่งมองฟู่ยวี่ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "พวกคุณเป็นเพื่อนกันจริงๆหรือเปล่า?"
"เป็นเพื่อนสนิทเลยแหละ" ฟู่ยวี่พูดอย่างเคร่งขรึม: "เพื่อนมีไว้ใช้งานไม่ใช่เหรอ? จะแทงข้างหลังยังไงก็ได้ เพื่อผู้หญิงสวยเรายอมได้ทุกอย่าง ผู้ชายเขาก็เป็นเพื่อนกันแบบนี้แหละ”
หนานซ่งพยักหน้า เธอเห็นด้วย
อาหารค่อยๆมาเสิร์ฟ หัวสิงโตเนื้อปู เป็ดตุ๋น หมูตั้ง และผัดปลาไหล ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารหวยหยางสุดคลาสสิก แตงกวาที่แกะสลักตกแต่งบนจานรู้เลยว่าเชฟมีฝือมีดีในการใช้มีด
คุณชายน้อยฟู่เป็นคนที่รักการกิน อาหารทุกจานเต็มไปด้วยคำชม เช่นเดียวกับนักชิม
หนานซ่งหิว จดจ่อกับการกิน ฟังความคิดเห็นที่ไม่รู้จบของเขา และกินเงียบๆ
“ไม่ ทำไมรสชาตินี้ยิ่งกินยิ่งคุ้นเคย”
ฟู่ยวี่เม้มปากและจำคำพูดที่หนานซ่งพูดเมื่อเขาเข้ามาและอดไม่ได้ที่จะถามว่า "คนที่ทำอาหาร นามสกุลอะไร?"
หนานซ่งตอบเบาๆ : "นามสกุล ติง"
“ติง?” ฟู่ยวี่เบิกตากว้าง “อย่าบอกนะว่าเป็นเชฟชื่อดัง ทายาทรุ่นที่14ของตระกูลติง เชฟติงหมิงหยาง?”
“คุณชายน้อยฟู่ลิ้นดีจัง แค่ชิมก็รู้ว่าฝีมือใคร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...