ตอนนี้ตระกูลโจ๋ตกต่ำเป็นอย่างมาก
โจ๋เจิ้งเหยาวัน ๆ หนึ่งไม่มีอะไรทำ จึงไปเรียนการลงทุน ผลปรากฏว่าถูกคนอื่นหลอก
ตอนแรกเริ่มขาดทุนนิดหน่อย เขาไม่สนใจ เพราะการลงทุนมีได้มีเสีย เป็นเรื่องปกติ
ต่อมาถูกเพื่อนเก่าคนหนึ่งชวนไปลงทุน ได้เงินมาก้อนหนึ่ง ก็ดีใจเป็นอย่างมาก เขาลำพองใจขึ้นมา รู้สึกว่าตัวเองคือเป็นพ่อมดวงการธุรกิจจริง ๆ จึงเอาเงินที่โจ๋เยว่กับโจ๋เซวียนฝากไว้ที่เขาไปลงทุน ก็ได้เงินมาอีกก้อนหนึ่ง
ในตอนแรกโจ๋เยว่กับโจ๋เซวียนไม่ยินยอม แต่ต่อมาเห็นว่าได้กำไรจริง ๆ จึงวางใจเอาเงินให้โจ๋เจิ้งเหยาไปใช้
กลับกลายเป็นว่าสภาวะการตลาดหุ้นไม่ดี หุ้นและเงินทุนที่เขาซื้อขาดทุนทั้งหมด หดตัวไปครึ่ง ร้านที่ลงทุนไปก็ล้มละลาย
เงินที่โจ๋เยว่กับโจ๋เซวียนให้เขาไปลงทุนก็ลอยไปกับน้ำ เขากลัวพวกเธอรังเกียจเขา อยากจะพลิกผันตัว จึงฟังคำแนะนำของเพื่อน ไปกู้เงินด้านนอก อยากจะมีหน้ามีตาต่อหน้าคนในครอบครัวต่อ ผลปรากฏว่ายิ่งลงทุนยิ่งขาดทุน ขาดทุนยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ ดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบยังคงหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ค่อย ๆ กลายเป็นรูรั่วที่อุดไม่ได้
ตอนนั้นเขาเป็นเพราะปัญหาสินเชื่อทำให้กลายเป็นบุคคลล้มละลาย กลัวว่าจะถูกพวกเงินกู้นอกระบบตามฆ่า จึงต้องไปลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ
บุคคลล้มละลายออกนอกประเทศไม่ได้ ตระกูลโจ๋คิดหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะลักลอบออกไป ส่วนโจ๋เซวียนก็กลัวว่าถ้าอยู่ในประเทศต้องแบกหนี้ก้อนโต จึงจำใจต้องเลิกกับยวี่จิ้นเหวิน หนีไปต่างประเทศ พูดให้ดูดีว่าไปเรียนต่อต่างประเทศ อันที่จริงอยากจะไปจับลูกเขยต่างชาติสักคน ใครจะไปรู้ว่าเสียแรงเปล่า
เพื่อเป็นการใช้หนี้สินแทนพี่น้อง หลายปีมานั้นโจ๋เยว่ทำงานอย่างหนัก โชคดีที่เธอเป็นหัวหน้าของช่องหวนย่าไถ เงินเดือนไม่น้อย บวกกับเสิ่นหลิวซูใช้เส้นสายให้เธอ จึงได้รับเงินและโฆษณาพิเศษมากมาย สร้างชื่อเสียงให้เธอ เหนื่อยเกือบจะตายในที่สุดก็ใช้หนี้หมด โจ๋เจิ้งเหยาถึงได้กลับประเทศ
ใครจะไปคิด ว่าหลังจากกลับประเทศโจ๋เจิ้งเหยาก็ยังไม่หยุด ไปเรียนรู้การบริหารเงิน ซื้อประกันมากมาย ผลปรากฏว่าถูกคนอื่นหลอก เป็นหนี้ก้อนโตอีก
ครั้งนี้เขาแรงยิ่งกว่าเดิม ไปยืมเงินนอกระบบ คนพวกนั้นตามทวงหนี้ไม่มีการอ่อนข้อ ไม่มีเงินใช้หนี้? ได้เลย
งั้นก็หักขาก่อน ดูสิว่าจะหนีไปไหนได้?!
ขาของโจ๋เจิ้งเหยา ก็โดนท่อเหล็กหนาตีจนขาหัก
เขาเจ็บจนร้องไห้ออกมา แล้วตะโกนออกมา “ไม่ต้องสนใจฉัน ให้ฉันตายไปเถอะ ตายไปเลย...”
ตอนนี้คนที่อยากจะตายคือโจ๋เยว่!
เธอเพิ่งสูญเสียลูก สามีก็กลายเป็นคนยากไร้ ธุรกิจก็ไม่มีแล้ว ท้องฟ้ากลายเป็นสีเทา ในเวลาแบบนี้พี่ใหญ่ของเธอยังมาเพิ่งความวุ่นวายให้อีก ครั้งนี้เธอไม่อยากสนใจแล้วจริง ๆ แต่พี่สะใภ้คุกเข่าขอร้องให้เธอช่วย เธอเห็นพี่ใหญ่ที่ดูแลเธอมาจนโตขนาดนี้ ก็อดใจไม่ได้
ไม่มีทางอื่น จึงทำได้เพียงฟังคำแนะนำจากคุณหมอ จึงพาเขาส่งไปที่คลินิกแพทย์แผนจีนซูฉือ
หมอในโรงพยาบาลรัฐบาลพูดว่า “ขาหักรุนแรงเกินไป ถึงแม้จะต่อด้วยตะปูเหล็กกับเข้าเฝือก เกรงว่าจะกลับไปเดินปกติได้ยาก ต่อไปต้องใช้ไม้ค้ำหรือรถเข็น บางทีพวกคุณอาจจะส่งเขาไปที่คลินิกแพทย์แผนจีนซูฉือ หมอที่เหมยซูต่อกระดดูกได้เก่งมาก ล่าสุดมีหมออัจฉริยะมารักษาด้วย”
โจ๋เยว่เชื่อเครื่องไม่เชื่อครึ่ง “หมออัจฉริยะ? จริงหรือเปล่าคะ?”
“หมออัจฉริยะที่รับรองโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พวกคุณพูดจริงหรือคะ?”
คุณหมอถูกถาม แล้วตอบอย่างไม่ค่อยพอใจ “ฝีมือทางการแพทย์ที่เหมยซูได้รับการสืบทอดมาเป็นร้อยปี การฝังเข็ม ต่อกระดูก การดูแลรักษาสุขภาพเป็นจุดเด่นสามอย่างของเหมยซู สืบทอดรุ่นต่อรุ่น ถึงแม้จะถูกซ่อนไว้ แต่ก็ยังโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น คุณหนูใหญ่ตระกูลยวี่เมืองเป่ยพวกคุณเคยได้ยินใช่ไหม? นั่งรถเข็นอยู่หลายปี ก็ถูกหมออัจฉริยะติงที่เหมยซูรักษาจนหาย ตอนนี้สามารถลงเดิน เหมือนกับคนปกติได้แล้ว นี่ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ในวงการแพทย์เลยนะ”
พูดถึงหมออัจฉริยะติง คุณหมอคนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความเลื่อมใส แทบอยากจะย้ายไปที่เหมยซู แต่เสียดายที่เขาไม่รับลูกศิษย์จากภายนอก
โจ๋เยว่ฟังอยู่นาน เธอตะลึงจนพูดไม่ออก
แน่นอนว่าเธอรู้จักยวี่เฟิ่งเจียว ไม่เพียงรู้จัก เธอยังเห็นยวี่เฟิ่งเจียวยืนหยิ่งผยองอยู่ตรงหน้าเธอ เหมือนกับสิบปีก่อนไม่มีผิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...