ภายใต้การจ้องมองอันเงียบงันของลั่วจวินหังอย่างกดขี่ ห้องทำงานก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
ไม่มีใครพูดและไม่มีใครตอบ
ไป๋ลู่ยวี๋อยากที่จะพูดดังๆ แต่มองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของลั่วจวินหังและเลือกที่จะหุบปาก
ณ เวลานี้ รอดูกันต่อไปดีกว่า
หนานซ่งก็ยังคงคุกเข่าลงกับพื้น
มีพรมอยู่ข้างโต๊ะกาแฟ แม้ว่าเธอจะคุกเข่า เข่าของเธอก็ไม่เจ็บมาก แต่ทัศนคติของพี่ชายของเธอทำให้เธอรู้สึกทรมานมากกว่าอีก
เธอไม่กลัวว่าพี่ใหญ่จะทำกับเธอยังไง เพราะนี่คือพี่ใหญ่แท้ๆของเธอ แม้ว่าจะโกรธเธอมากแต่ก็เย็นชากับเธอได้แค่สองสามวัน แต่ยวี่จิ้นเหวินนั้นไม่เหมือนกัน
หลังจากวางแผนมาเป็นเวลานาน เธอนึกถึงสถานการณ์ต่างๆนานา และไม่เคยคาดหวังว่าพวกเขาจะได้พบกันในสถานการณ์ที่น่าอับอายเช่นนี้ และเธอก็ยิงปืนใส่เธออย่างกะทันหัน
ขณะที่เธอสงสัยว่าจะช่วยยวี่จิ้นเหวินให้รอดจากใต้จมูกของพี่ชายคนโตของเธอได้ยังไงดี ลั่วจวินหังพูดขึ้นทันทีว่า "ลุกขึ้นเถอะ"
"?"
จู่ๆหนานซ่งก็เงยหน้าขึ้นมองเขา คิดว่าได้ยินเสียงหลอน
ลั่วจวินหังนั่งอยู่ที่นั่นอย่างมั่นคงดั่งภูเขา จิบกาแฟพลางมองดูอย่างสงบ "อย่าทำเหมือนกับฉันเป็นระบบศักดินานิยมสิ"
"......."
สีหน้าของหนานซ่งมืดลงและกระซิบว่า "ไม่ใช่ว่าพี่จะเป็นคนแบบยึดระบบศักดินานิยมหรอกเหรอ......."
"พูดอะไร?" ลั่วจวินหังพูดอย่างฉุนเฉียว
ดวงตาของหนานซ่งสั่นและทันใดนั้นร่างกายของเขาก็สว่างขึ้น ยวี่จิ้นเหวินช่วยพยุงเธอให้ยืนขึ้น มีเสียงจากชายคนหนึ่งกล่าวขอบคุณแทนเธอ "ขอบคุณครับพี่ใหญ่"
ลั่วจวินหังเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองยวี่จิ้นเหวินด้วยความระมัดระวัง
รูม่านตาสีน้ำเงินชนกับรูม่านตาสีดำสนิท เกิดประกายไฟเหมือนแสงไฟฟ้าดั่งหินเหล็กไฟ
สนามรบที่มองไม่เห็นถูกสร้างขึ้นระหว่างคนสองคน
เมื่อยืนอยู่ข้างหนึ่งไป๋ลู่ยวี๋รู้สึกถึงรัศมีปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา รูม่านตาของเขาหดตัวลงทันที และเขาประหลาดใจที่พบว่ายวี่จิ้นเหวินและพี่ใหญ่ของเขาเข้ากันได้อย่างเท่าเทียมกัน
ในตอนนี้ แม้ว่ายวี่จิ้นเหวินจะคุกเข่าอยู่บนพื้น แต่หลังของเขาตั้งตรง เคร่งขรึมราวกับว่าเขากำลังมีการประชุมที่สำคัญโดยไม่มีสีอ่อนน้อมถ่อมตนแม้แต่น้อย
ความเย่อหยิ่งของคนบางคนสลักอยู่ในกระดูก และจะไม่บรรเทาด้วยการคุกเข่า
ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าลั่วจวินหัง กีดขวางหนานซ่ง รัศมีที่จงใจระงับไว้ก็ฉายแสงออกมาอย่างสมบูรณ์ ห่อหุ้มหนานซ่งไว้แน่น
ในเวลานี้เองที่ดวงตาของลั่วจวินหังเป็นประกายด้วยความสนใจ
เขาเริ่มเผชิญหน้ากับชายผู้กล้าปกป้องน้องสาวของเขาต่อหน้าเขา
หลังจากนั้นไม่นาน ลั่วจวินหังก็พูดว่า "เสี่ยวอู่"
ไป๋ลู่ยวี๋ตกตะลึงและตระหนักว่าพี่ใหญ่ของเขากำลังเรียกตัวเองและรีบตอบ แล้วเดินไปข้างหน้าสามก้าวในสองก้าว "พี่ใหญ่"
"พาเสี่ยวลิ่วออกไป" ลั่วจวินหังพูด
ไป๋ลู่ยวี๋เหลือบมองหนานซ่งและพูดว่าโอเค เขากำลังจะพาเธอไป หนานซ่งตกตะลึง "พี่ นี่เป็นห้องทำงานของฉัน......."
ยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นสายตาของลั่วจวินหังเลยเอามือปิดปาก
ยวี่จิ้นเหวินรู้ว่าลั่วจวินหังต้องการพูดคุยกับเขาตามลำพัง และมองไปที่หนานซ่งอย่างสบายใจ "ไม่เป็นไร ออกไปเถอะ"
หนานซ่งจะวางใจได้ยังไงกันล่ะ เมื่อไป๋ลู่ยวี๋กำลังจะลากเธอออกไป เธอลดเสียงลงและพูดกับยวี่จิ้นเหวิน "ถ้าเขาต่อยคุณ คุณตะโกนเรียกฉันนะ"
เมื่อเห็นท่าทางของเธอที่จะสนับสนุนเขา ยวี่จิ้นเหวินก็หัวเราะในใจและพูดเบาๆว่า "โอเค"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...