ลั่วอินเห็นท่าทางที่ประมาทเลินเล่อของลูกสาว เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "พื้นเรียบยังสะดุดล้มได้ มีอะไรผิดปกติกับสมองหรือเปล่าเนี่ย?"
ยังไม่ทันที่เสี่ยวซ่งจะเอ่ยอะไร แพทย์ลั่วก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึม "มันอาจจะเป็นปัญหาทางระบบประสาท"
"แม่ไว้หน้าฉันบ้างก็ได้!"
หนานซ่งอดไม่ได้ที่จะกลอกตาและชำเลืองมองแม่ของเธอ จากนั้นเธอทรงตัวภายในอ้อมแขนของยวี่จิ้นเหวินพร้อมกับเอ่ย "ทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่?"
"ก็มาสนับสนุนเธอไง"
ลั่วอินเอ่ย "บริษัทเกิดเรื่องขึ้นใหญ่ขนาดนั้นกล้าปิดบังกันได้อย่างไร เห็นพวกเราตายไปแล้วหรือไงหรือว่าเห็นพวกเราแก่แล้วไร้ประโยชน์งั้นหรือ?"
"........"
เธอไม่เคยได้ยินคำพูดที่ดีและจริงจังจากปากแม่ของเธอเลย หนานซ่งเคยชินกับมันแล้วและขี้เกียจจะใส่ใจ
เธอเงยหน้ามองยวี่จิ้นเหวิน "นายบอกพวกเขาเหรอ?"
คำพูดของหนานซ่งนั้นดูธรรมดาและไม่ได้แฝงความโกรธเลยแม้แต่น้อย แต่ยวี่จิ้นเหวินนั้นรีบส่ายหน้าอย่างประหม่า "เปล่า"
"เขาไม่ได้บอกพวกเราแถมยังแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเห็นข่าว ฉันกับพ่อของแกก็ยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่"
ลั่วอินยืนกอดแขนพร้อมด้วยสีหน้านิ่งเรียบ หนานซ่งคิดว่าเธอกำลังจะโดนสั่งสอนอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงก้มศีรษะให้และพร้อมจะโดนสั่งสอน แต่คำพูดของลั่วอินก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากนั้นเธอหัวเราะออกมา "แต่สามารถปกปิดพวกเราได้นั้นก็คือความสามารถของเธอ นั่นหมายความว่าตอนนี้คนภายในบริษัทก็เป็นคนของเธอแล้ว 'จักรพรรดินีองค์ใหม่' ได้ขึ้นครองบัลลังก์ 'พระจักรพรรดิสูงสุด' พ่อของเธอและฉัน 'จักรพรรดินีสูงสุด' สละบัลลังก์แล้ว แบบนี้ก็เกษียณอายุอย่างเป็นทางการและสามารถออกไปใช้ชีวิตได้แล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ ใช่ไหมคุณสามี?"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เส้นเลือดบนหน้าผากหนานซ่งถึงกับกระตุก จักรพรรดินี พระจักรพรรดิสูงสุด จักรพรรดินีสูงสุด ช่วงนี้แม่ของเธอคงดูละครจักรๆวงศ์ๆมากไปแล้ว
หนานหนิงซงนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาสวมแว่นสายตาและมองดูรายงานการตรวจสอบอัญมณี คิ้วของเขาขมวดแน่น "ตรวจพบอะไรบ้างหรือยัง?"
เขานั้นไม่ได้ใจกว้างเหมือนลั่วอิน ไม่สามารถวางมือได้
"กำลังตรวจสอบกันอยู่"
หนานซ่งเดินเข้าไปหาหนานหนิงซงพร้อมกับสีหน้าจริงจัง "ข้อมูลลับนั้นตรวจสอบได้ไม่ยาก มีคนจำนวนมากที่อยากจะรับผิดชอบโปรเจ็กต์ Rose Show สามารถตรวจสอบได้เสมอ แต่ปัญหาที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือจะบรรเทาความสูญเสียและรักษาชื่อเสียงได้อย่างไร ฉันได้วางแผนไว้ว่าจะมีการส่งคืนสินค้าชุดนี้"
"การประชุมผู้บริหารระดับสูงเมื่อกี้นี้ไม่ราบรื่นใช่ไหม?" หนานหนิงซงเงยหน้ามองลูกสาว
หนานซ่งเอ่ยเบาๆว่า "ยังโอเค ฉันยังควบคุมได้"
หนานหนิงซงถอดแว่นสายตาออกและเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ "อุตสาหกรรมของเรา คนของเรา ต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกันจะสามารถพูดอะไรก็ได้ การส่งคืนสินค้านั้นก็ถูกต้องแล้ว จากมุมมองระยะยาวของการพัฒนาบริษัท การขาดทุนเพียงเล็กน้อยไม่สำคัญ การรักษาชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ก็ถือเสียว่าจ่ายเงินเพื่อซื้อบทเรียนก็แล้วกัน"
หนานซ่งยกเปลือกตาขึ้น พ่อเธอพูดเช่นนี้ทำให้ความรู้สึกภายในใจของเธอสั่นคลอน
เพราะเธอรู้สึกว่าสิ่งที่พ่อพูดนั้นมีความหมาย ราวกับว่าเขาพูดออกมาเพียงครึ่งหนึ่งและยังมีส่วนสำคัญอีกครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ได้พูดออกมา
ลั่วอินที่อยู่ด้านข้างเอ่ยว่า "โปรเจ็กต์ใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านหยวน คุณเรียกสิ่งนี้ว่า 'การขาดทุนเพียงเล็กน้อย' หรือ? ทำลายธุรกิจครอบครัวได้แต่ห้ามพ่ายแพ้"
หนานหนิงซงยิ้มเบาๆ "วัยหนุ่มสาว ใครบ้างที่เติบโตมาโดยไร้ซึ่งความผิดพลาด เมื่ออยู่ในโคลนตมก็ต้องค่อยๆก้าวเติบโตออกมา? เมื่อเราเริ่มธุรกิจครั้งแรก เราได้พบการทรยศหักหลังน้อยหรือ? กี่ครั้งแล้วที่เกือบจะล้มละลาย เพียงเพราะความประมาทเล็กน้อยก็ทำให้แพ้ทั้งเกม การทำธุรกิจก็เป็นแบบนี้ มีกำไร มีขาดทุน เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบนั้นมันไม่จริง พวกเราในวัยของหนานซ่ง พวกเรายังไม่มีความกล้าหาญเช่นเธอเลย แบบนี้ก็ดีมากแล้ว"
ลั่วอินตอบรับเบาๆ
"คุณคุ้นเคยกับเธอ ในขณะที่มา ฉันครุ่นคิดเป็นสิบวิธี คิดมาตลอดทางแต่กลับเงียบงัน แล้วแผนการของคุณล่ะ?"
หนานหนิงซงที่กำลังดื่มชาอย่างสบายๆเกือบจะสำลักเพราะภรรยาของเขา "แผนการอะไรกัน เห็นได้ชัดว่าของฉันเป็นเคล็ดลับและเทคนิค"
"ฉันไม่สนใจหรอก พูดออกมามันก็คือเคล็ดลับและเทคนิค ไม่พูดออกมามันก็คือแผนการ" ตรรกะของคุณนายลั่วชัดเจนมาเสมอ
หนานซ่งฟังพ่อและแม่ของเธอเอ่ย เธอตกตะลึงเล็กน้อย
แต่สิ่งหนึ่งที่เธอเข้าใจคือสำหรับวิธีการจัดการเรื่องนี้พ่อของเธอนั้นมีวิธีการมากมาย แต่เขาไม่พูดออกมา
บางทีเขาตั้งใจจะพูด แต่เห็นท่าทางที่แน่วแน่ของเธอ เขาเลยตัดสินใจไม่พูด
ถือเสียว่าเงินพันล้านนั่นซื้อประสบการณ์ให้แก่เธอ
........
แต่ประสบการณ์นี้ เธอไม่อยากจะซื้อมัน!
เธอไม่เคยตระหนี่กับเงินที่เธอควรจะใช้ แต่อะไรที่ไม่ควรจะจ่าย แม้แต่สลึงเดียวก็ไม่ควรจะจ่าย
เงินน่ะมันไม่ได้หล่นลงมาจากฟ้าหรอกนะ!
หนานซ่งเม้มริมฝีปากแน่น ความรู้สึกโกลาหลที่ทำให้รู้สึกโมโหในช่วงก่อนหน้านี้ค่อยๆสลายหายไป อารมณ์หุนหันพลันแล่นค่อยๆสงบลงและสมองของเธอก็ฟื้นคืนสติเช่นกัน
เธอคิดว่ายังคงจำเป็นต้องมีการส่งคืนสินค้า แต่ความจริงแล้วการส่งคืนสินค้าทั้งหมดนั้นจะทำให้บริษัทหนานขาดทุนอย่างหนักหน่วง แล้วจะทำอย่างไรให้ขาดทุนน้อยลง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...