หนานหลินกำลังคิดประโยคหลังที่กู้เหิงพูด"มีลูกสิบขวบที่ต้องดูแล"อยู่ พอได้ยินคำว่า"คืนดี" จึงอดเบิกตาโตไม่ได้
คืนดี?
หรือว่า คนที่นั่งอยู่ในรถ คือแฟนเก่าของพี่ใหญ่?
หนานซ่งขมวดคิ้วแน่น "จะตื่นตระหนกทำไม"
กู้เหิงรีบปรับอารมณ์ แล้ววางมือไว้ข้างหน้า "ขอโทษครับ ผมตกใจเกินไป"
หนานหลินเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดี จึงรีบเดินก้าวไปข้างหน้า "พี่ใหญ่คะ หนูไม่รบกวนพี่ทำงานดีกว่า ให้รุ่นพี่กู้พาหนูไปส่งที่แผนกจิวเวลรี่เถอะค่ะ หนูจะได้ทำความคุ้นชินด้วย"
"อื้อ" หนานซ่งเอ่ยอย่างนิ่งเฉย "มีอะไรไม่เข้าใจเธอก็ถามเขา ไปที่นั่นก็ถ่อมตัวหน่อย พูดให้น้อย แล้วทำให้มาก"
หนานหลินพยักหน้าให้อย่างเป็นเด็กดี "ค่ะพี่ใหญ่"
จากนั้นมือเล็กก็ดึงแขนเสื้อกู้เหิง พอกู้เหิงหันกลับมาแล้วเห็นเธอเกร็ง จึงแอบยิ้ม : สมกับเป็นรุ่นน้องของเขา ยังรู้ที่จะปกป้องเขาด้วย
……
ยวี่จิ้นเหวินพักอยู่ในห้องสูทที่ฟู่ยวี่เช่าระยะยาวในบาร์ซุ่ยอวิน
ไม่รู้เพราะว่านอนไม่สบายในรถหรือเปล่า จึงรู้สึกสมองวุ่นวาย ครึกครื้นเหมือนอยู่ในงานเต้นรำ
คำพูดของหนานซ่ง เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างหู รวมถึงสีหน้าตอนที่เธอพูดด้วย แล้วก็แววตาของเธอ ทั้งหมดนั้นเขาลืมไม่ได้เลย
เธอพูดว่า เธอไม่รักเขาแล้ว
มุมปากยวี่จิ้นเหวินยิ้มอย่างขมขื่น ไม่ว่าจะเป็นใคร โดนเขาเมินเฉยใส่มาสามปี ความรักที่รุ่มร้อน ก็คงจะสลายไปแล้ว
แล้วอีกอย่างเธอเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลหนานที่มีศักดิ์ศรี
แค่คิดก็รู้ ตอนที่เขาพูดว่าจะหย่ากับเธอ เธอยืนถามเขาด้วยน้ำตาว่า"ไม่หย่าได้ไหม" ตอนนั้น เธอคงเอาศักดิ์ศรีตัวเองมาเดิมพันแล้ว
แต่เสียดาย ตัวเองในตอนนั้น เหมือนตาบอด ในสายตามีแต่โจ๋เซวียน มองไม่เห็นผู้หญิงคนอื่น
รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองใจดำ แต่ก็ยังตัดสินใจเด็ดขาด แล้วทำลายชีวิตคู่ของพวกเขา
แต่ตอนนี้ เขาอยากหวนกลับไป
แต่ผู้หญิงที่คอยเฝ้ารอเขา จริงใจกับเขานั้น กลับไม่หยุดรอเขาแล้ว
ทั้งหมดเขาเป็นคนรนหาที่เอง จะโทษใครได้ล่ะ?
……
ตอนบ่าย สี่โมงตรง ยวี่จิ้นเหวินไปเยือนบริษัทตระกูลหนานอีกครั้ง
มีเหตุการณ์ที่ฮวงยียีโดนไล่ออก ครั้งนี้พนักงานเคาน์เตอร์ต้อนรับจึงเข้มงวดกันมาก จะไม่ยอมให้อภิสิทธิ์พิเศษกับใบหน้าที่หล่อเหลาของยวี่จิ้นเหวิอีก
ผู้ชายสำคัญอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับผู้ชาย สิ่งที่สำคัญกว่าคืองานของพวกเธอ จะตกงานไม่ได้!
ไม่รอให้ยวี่จิ้นเหวินเอ่ยพูด พนักงานต้อนรับก็แสดงสีหน้าเข้มงวด "ขอโทษนะคะคุณผู้ชาย ถ้าไม่มีนัดคุณขึ้นไปไม่ได้ เพราะไม่เป็นไปตามกฎของบริษัทค่ะ"
เหอจ้าวเดินไปคุย แล้วพูดอย่างมีมารยาทว่าครั้งนี้พวกเขามีนัดแล้ว เหล่าพนักงานกลับหวาดระแวงมาก แต่ละคนเข้มงวดมาก แล้วไม่ปล่อยให้พวกเขาขึ้นไป
พอเห็นว่ากำลังจะโดนปฏิเสธเป็นครั้งที่สามแล้ว ยวี่จิ้นเหวินจึงเริ่มหงุดหงิด แล้วกำลังจะโทรหาหนานซ่ง แต่ทันใดนั้นลิฟต์ของผู้บริหารก็เปิดออก แล้วกู้เหิงก็เดินออกมา
เขาเดินตรงมาหายวี่จิ้นเหวิน พร้อมเอ่ยอย่างมีมารยาท "ประธานยวี่ ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ ประธานหนานรอคุณอยู่ที่ห้องทำงานแล้ว เชิญตามผมมาครับ"
ท่ามกลางสายตาที่ตื่นตกใจของพนักงานต้อนรับ ยวี่จิ้นเหวินจึงเดินตามขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกู้เหิง
เหอจ้าวยืดอกเชิดหน้า รู้สึกว่าได้รับเกียรติสักที
กับสามีเก่า หนานซ่งทำแตกต่างจากการคุยงานทั่วไป
ลิฟต์ขึ้นตรงไปที่ชั้นสิบเจ็ด ตอนที่ยวี่จิ้นเหวินเดินตามกู้เหิงออกมา พนักงานในห้องทำงานผู้บริหารต่างก็ยืนขึ้น แล้วทักทายกับเขาอย่างมีมารยาท "สวัสดีค่ะ/ครับประธานยวี่"
การต้อนรับแบบนี้ยวี่จิ้นเหวินไม่ใช่ไม่เคยเจอ จึงไม่รู้สึกแปลก แต่การที่ได้รับเกียรติในที่ของหนานซ่งแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก
ยวี่จิ้นเหวินยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง รู้สึกเป็นเกียรติมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...
เนื้อเรื่องมี3-4ประโยค...เหมือนติดเหรียญ😂😂😂...