จัดการงานศพเจี่ยงฟานเสร็จแล้ว หลังจากไปส่งจี้อวิ๋นและเฉิงเซี่ยน หนานซ่งก็ล้มป่วย
ตอนแรกในคืนที่ฝนตกหนัก นึกว่าเป็นหวัดธรรมดา กินยาก็คงหาย ไม่คิดว่าไข้จะขึ้นสูงหลายวันไม่ยอมลด เกือบปอดบวม
มันทำให้ยวี่จิ้นเหวินเป็นห่วงมาก เฝ้าหน้าเตียงหนานซ่ง แทบไม่ออกห่างเลย
ยวี่เฟิ่งเจียวและติงเหมาก็มาที่เมืองหนานเพื่อเยี่ยม
ถ้าทุกคนไม่ห้ามไว้ สองผู้สูงอายุตระกูลยวี่ก็อยากมาที่เมืองหนาน
“เกิดเรื่องช่วงนี้เยอะมาก ทำให้เด็กคนนี้ลำบากใจมากจริงๆ”
ยวี่เฟิ่งเจียวเห็นหนานซ่งใบหน้าซีดเซียวนอนบนเตียง ก็สงสารมาก ทำหน้าจริงจังโทษลูกชายที่ไม่ดูแลเสี่ยวซ่งให้ดี
ยวี่จิ้นเหวินก้มศีรษะฟังคำสอนเป็นอย่างดี และรู้สึกโทษตัวเองอย่างหนัก
เขายอมให้ตัวเองทรมานจากการป่วยนี้แทนหนานซ่ง ไม่อยากให้เธอทรมานจากการป่วยแม้แต่นิดเดียว
ลั่วอินปกป้องยวี่จิ้นเหวิน “นี่มันเกี่ยวอะไรกับอาจิ้น ช่วงนี้เขาคอยปรนนิบัติ คอยวิ่งตามตูดน้องหกทุกวัน จะกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเธอแล้ว แม้แต่พ่อเธอก็ทนดูไม่ได้ ไม่กี่วันมานี้เกิดเรื่องไม่น้อยจริงๆ ผู้ใหญ่อย่างเรายังเอาไม่อยู่ นับประสาอะไรกับวัยรุ่นอย่างพวกเขา ไม่เจออุปสรรคก็ไม่เติบโต มีประสบการณ์ตอนอายุยังน้อยมันก็ดี ได้รู้ว่าโลกมันไม่เที่ยง อนาคตจะได้ทนทานกับภัยอันตรายได้ดีขึ้น นี่น้องหกกำลังป่วยใจ ก็แค่ผ่านมันไปให้ได้”
“ตอนเด็กๆ สาวน้อยคนนี้ป่วยบ่อย เป็นคนขี้โรค ต่อมาเรียนศิลปะป้องกันตัว การออกกำลังกายเลียนแบบสัตว์ 5 ชนิด ร่างกายก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมา แต่ร่างเล็กไม่มีกล้ามเนื้อของเธอก็น่าเป็นห่วง รอเธอหายดี ป้อนเนื้อให้เธอวันละสามมื้อ ให้เธอมีเนื้อมีหนัง เสริมสร้างความแข็งแกร่ง เด็กผู้หญิงต้องอุดมสมบูรณ์ถึงจะมีความสุข”
ติงเหมาพูดอย่างเคร่งครัด หลักๆ คือพูดกับยวี่จิ้นเหวิน
ช่วงนี้เขาก็พยายามขุนเฟิ่งหวาของเขาให้อ้วน เรียกได้ว่าเป็นความพยายามอุตสาหะ ถึงแม้ผลลัพธ์จะน้อย แต่ประสบการณ์ทางทฤษฎีแข็งแกร่งมาก
ยวี่จิ้นเหวินฟังข้อคิดเห็นที่เฉียบแหลมของพ่ออย่างรอบคอบแล้ว แค่ฟังยังเดียวไม่ได้ ยังหยิบปากกาออกมาจดด้วย
พ่อลูกมีเป้าหมายเดียวกัน——ก็คือทำให้ภรรยาหรือลูกสาวขาวจ้ำม่ำ!
*
ช่วงที่หนานซ่งป่วย คนที่มาเยี่ยมเธอก็ทยอยมาทีละคน
ไม่ต้องพูดถึงพวกพี่ชายของตัวเอง คนในครอบครัวยวี่ก็ผลัดกันมาเยี่ยม แม้แต่ครอบครัวสามคนของพี่สาวคนโตกู้เหิงก็มาเยี่ยม ผลไม้และดอกไม้เต็มห้องเช่นกัน
จนหนานซ่งฟื้นขึ้นมามองรอบๆ นึกว่าตัวเองอยู่งานศพ เอ่ยถามตรงไปตรงมา “ฉันตายไปแล้วเหรอ?”
ยวี่จิ้นเหวินหัวใจกระตุก ทุกคนตกตะลึง แล้วตอบกลับเธอพร้อมกัน “เฮ้ยๆๆ!”
หนานซ่งเพิ่งฟื้นขึ้นมา ก็ถูกด่าเต็มหน้า
ลั่วอินเฮ้ยดังที่สุด ฮึดฮัดพูดขึ้น “คนดีอายุไม่ยืน คนชั่วอายุยืนเป็นพันปี ไม่ต้องห่วง กษัตริย์พันปีเต่าแปดหมื่นปี ไม่ตายง่ายๆ ขนาดนั้น”
“แม่ วันนี้แม่กินกระเทียมใช่ไหม ปากเหม็น พูดจาก็ไม่น่าฟัง”
“ถึงฉันจะกินกระเทียม ก็หอมกว่าปากเธอที่ไม่ได้แปรงฟันหลายวัน” ลั่วอินพูดใส่เธออย่างฉุนๆ
หนานหนิงซงห้ามไม่ได้ เดินไปปิดปากลั่วอิน แล้วพูดกับหนานซ่ง “ฟื้นแล้วก็ดี พ่อจะจับแม่เธอไว้ให้ ลูกสาว หิวไหม?”
หนานซ่งเห็นคุณนายลั่วโดนพรากสิทธิในการพูด ก็ยิ้มอย่าง ‘คางคกขึ้นวอ’
ดวงตาเธอมองไปรอบๆ เห็นว่าในห้องไม่ได้เต็มไปแค่ดอกไม้ ผลไม้ แต่เต็มไปด้วยผู้คน ทุกคนจับจ้องมาที่เธอ สายตาเผยความเป็นห่วง
โดยเฉพาะยวี่จิ้นเหวิน การแสดงออกที่มองเธออยู่นั้น รู้สึกเหมือนจะร้องไห้เลย
ทำไมน่าสงสารขนาดนั้น?
เธอขยับปาก พูดออกมาสองคำ “หิวแล้ว”
ประโยคเดียว ทุกคนเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม ถอนหายใจตามกันทั้งหมด
ฟื้นแล้ว หิวแล้ว แสดงว่าใกล้จะดีขึ้น
“อยากกินอะไร ฉันจะไปทำให้” ยวี่จิ้นเหวินอ้าปาก เสียงเขาแหบกว่าหนานซ่งที่เป็นคนป่วยอีก
หนานซ่งมองเขา จับข้อมือเขาไว้ “นายอย่าไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...