เฉวียนเยี่ยเชียนและลั่วโยวเมื่อเกิดเรื่องขึ้น ก็หยุดแผนการเที่ยวซีอานของหนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินไว้ชั่วคราว
เพื่อสะดวกในการดูแล ลั่วอินก็พาครอบครัวใหญ่มาอยู่ที่เมืองจิง
เดิมทีแล้วตระกูลลั่วตั้งใจจะจัดที่พักให้แก่พวกเขา แต่ถูกลั่วอินปฏิเสธ อย่างไรแล้วก็ยังไม่ได้แต่งงาน จะรบกวนว่าที่ครอบครัวอีกฝ่ายได้อย่างไร?
คิดพิจารณาแล้วว่าอาจจะต้องอยู่เมืองจิงเป็นเวลานาน อยู่โรงแรมไม่คุ้มค่านัก ลั่วอินก็พยายามพาหนานซ่งและซูยินหาบ้านใกล้ๆ โรงพยาบาล หามาสองวันเต็มๆ สุดท้ายก็จองบ้านเล็กๆ ในสวน ตกแต่งสไตล์จีนมาก ถือกระเป๋าเข้าไปพักได้ทันที
การเช่าครั้งนี้เช่าเป็นเวลาครึ่งปี ตอนต่อราคากับเจ้าของที่พัก หนานซ่งถือว่าได้เห็นความน่าเกรงขามของหญิงวัยกลางคนผู้ทรงเสน่ห์ของแม่เธอ
ในตอนปกติเป็นนางฟ้าที่ไม่ยุ่งเกี่ยวทางโลก การต่อราคาทำลายอารมณ์ของคุณแม่
หลังจากจองบ้านได้แล้ว ก็ไม่ว่าง
ลั่วอินพาทั้งครอบครัวไปตลาดซื้อของตกแต่งบ้าน ใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ซื้อชุดเครื่องนอน ของใช้ประจำวันและอื่นๆ กลับมา
พวกผู้ชาย ค่อยๆ กลายเป็นพี่น้องกันภายใต้คำสั่งลั่วอิน ย้ายกระเป๋าใบน้อยใหญ่ขึ้นชั้นบน
หนานซ่งบอกว่าแม่ของเธอชอบทรมาน
ลั่วอินพูดขึ้น “การใช้ชีวิตก็คือการทรมานไม่ใช่เหรอ อีกอย่าง บ้านก็ต้องทำให้เหมือนบ้าน ถึงจะอยู่แค่ครึ่งปีก็ต้องอยู่อย่างสะดวกสบาย พวกเธอว่าจริงไม่จริง?”
“ใช่!!!” พวกผู้ชายตอบรับกันเซ็งแซ่ แค่ตอบรับไปงั้นๆ
หนานซ่งอดขำไม่ได้ จู่ๆ ก็นึกถึงประโยคก่อนหน้านี้ที่เห็นเข้า บอกว่าผู้หญิงเกิดมามักอยากเป็นCEOสักครั้ง
ถึงจะไม่ใช่ครอบครัวใหญ่ การต้องบริหารจัดการครอบครัวเล็กของตัวเองอย่างครบถ้วน มันก็ไม่ง่ายเลย
ครอบครัวใหญ่ก็อาศัยเข้ามาเช่นนี้ จัดประชุมครอบครัวในห้องรับแขก
ก่อนจัดประชุม ซูยินอดไม่ได้จริงๆ เอียงศีรษะไปด้านข้าง มองฟู่ยวี่ที่นั่งอย่างสบายใจ
“นี่คือการประชุมครอบครัว ไม่ทราบว่าคุณคือ?”
ทุกคนต่างมองไปที่ฟู่ยวี่ โดยเฉพาะสายตาของซูรุ่ยนั้นแย่ที่สุด
ฟู่ยวี่ยอมรับสายตาทุกคนอย่างสงบ พูดด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง “ฉันเป็นเพื่อนร่วมรบของลั่วโยว พี่น้องร่วมสามบานของไอ้ยวี่ และคนสนิทของเสี่ยวซ่ง รวมๆ แล้วก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในตระกูลหนานล่ะมั้งครับ”
ซูยินกลอกตาสามร้อยหกสิบองศา เธอเคยเห็นคนหน้าหนามาก่อน แต่ไม่เคยเห็นคนหน้าหนาเหมือนฟูยวี่มาก่อน!
ยวี่จิ้นเหวินปฏิเสธเขาก่อน “ใครเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับนาย?”
หนานซ่งต่อทันที “นายเป็นคนสนิทของใคร?”
ฟู่ยวี่ไม่สนใจพวกเขา ดวงตามีเสน่ห์มองไปทางลั่วอิน “น้าลั่ว ขออยู่ด้วยคนนะครับ”
“อยู่ไปเถอะ จำเป็นต้องอยู่ ในบ้านมีตั้งหลายห้อง ห้องว่างก็ว่าง เพิ่มเขาอีกสักคน”
สองวันนี้ฟู่ยวี่ใช้เรี่ยวแรงไปไม่น้อย ช่วยเหลือลั่วอินไม่น้อย และปากเขาก็หวานมาก เอาแต่เรียกพี่สาวแสนสวย พี่สาวนางฟ้า พูดกล่อมลั่วอินให้จิตใจเบิกบาน จนเห็นเขาเป็นคนของตัวเองตั้งนานแล้ว
“และฟู่ยวี่เป็นชื่อที่ดี ฟู่ยวี่ ร่ำรวย เป็นความหมายร่ำรวยมั่งคั่งไม่ใช่เหรอ? ให้เขาอยู่ในบ้าน เงินทองไหลมาเทมาแน่”
ทุกคน: “……”
ฟู่ยวี่ไม่ได้ยินคำว่า “ร่ำรวย” มานานมาก ก็อึ้งไป อดไม่ได้ที่จะมองซูยิน
ยังจำได้ว่าตอนนั้นที่เพิ่งรู้จักเด็กผู้หญิง เธอมอบชื่อเล่นให้เขาโดยไม่รู้จักกาลเทศะ เรียกเขาว่า “พี่ร่ำรวย” ตอนนั้นเขารู้สึกว่าชื่อนี้มันเชยมาก ไม่น่าฟังเท่า “ปลาแห้งตัวน้อย” แต่ชื่อจะเชยแค่ไหนเมื่อถูกเธอเรียกด้วยเสียงหวาน ก็ดูน่าฟังขึ้น
เขาไม่ห้ามให้เธอเรียก แต่ตอนนี้ เขาอยากฟัง เธอก็ไม่เรียกเขาแบบนี้อีกแล้ว
ตอนนี้เรียกเขาชื่อเต็ม เฮ้อ
ฟู่ยวี่อยู่ด้วยความไร้ยางอาย เป็นคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในตระกูลหนาน ร่วมประชุมครอบครัว
ลั่วอินและหนานหนิงซ่งคบกันมาหลายปีแล้ว ไม่ได้แบ่งหน้าที่กันทำ ร่วมมือกันทุกอย่าง มีเรื่องอะไรก็ทำด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...
เนื้อเรื่องมี3-4ประโยค...เหมือนติดเหรียญ😂😂😂...