หนานซ่งรู้สึกผิดมากเมื่อถูกยวี่จิ้นเหวินถาม เธอไม่สามารถพูดได้ว่าเธอเป็นตะคริวในสมองโดยคิดว่าเขามีใครบางคนอยู่ข้างนอก
ถ้าหากไม่มีความไว้วางใจในคู่ตัวเอง?
เธอหลบสายตาเขา “ไม่ ฉันไม่ได้คิดอะไร”
“ไม่คิดอะไรเหรอ อืม?”
ยวี่จิ้นเหวินเป็นพยาธิตัวกลมในท้องของเธอ เมื่อเห็นใบหน้าที่รู้สึกผิดของเธอ เธอรู้ว่าเธอไม่อยากคิดเกี่ยวกับมัน เธอต้องการนำความยุติธรรมกลับมาสู่เธอ!
“ก็… ฉันผิด ฉันเสียสติไปแล้ว”
หนานซ่งรีบขอความเมตตาด้วยน้ำเสียงต่ำ
ยวี่จิ้นเหวินกรนเสียงเบาๆ 'คนไม่มีเหตุผลยอมให้อภัยกันไม่ได้' "ผมจะทำให้คุณมีสติ"
...
หนานซ่งถูกจูบอย่างหนักหน่วงรู้สึกว่าออกซิเจนในสมองของเขาถูกทำให้ว่างเปล่า
มันยากมากที่เธอพยายามลุกขึ้นเพื่อโทรหายวี่ฟานยิน โดยส่วนมากแล้วยวี่ฟานยินเป็นฝ่ายพูดอย่างตื่นเต้น เธอพูดเพียงไม่กี่คำ แต่สำหรับยวี่ฟานยินนั้นถ้าพี่สะใภ้สามารถตกลงรับงานครั้งนี้ได้ ต้องขอบคุณพระเจ้า ไม่มีอะไรดีมากว่านี้แล้ว!
หลังกำหนดเวลาที่ต้องไปเมืองจิงหลังปีใหม่ ไม่ใช่แค่ต้องร่วมอภิปรายในที่ประชุม แต่ต้องตั้งใจอบรมเป็นพิเศษ
กระบวนการเหล่านี้ไม่ได้แตกต่างไปจากปีก่อนๆ มากนัก และไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับหนานซ่ง
ดังนั้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หนานซ่งมักจะอยู่ในห้องหนังสือดูรายละเอียดเนื้อหางาน และเวลาที่เหลือก็เพื่อติดต่อเพื่อนจากอีกสี่ประเทศและทำการฝึกพูดให้เป็นธรรมชาติ เธอไม่มีปัญหาด้านภาษาอังกฤษ แต่ใช้เป็นข้ออ้างเพื่อโทรลั่วจวินหังหลายสาย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้เขาเบื่อ
“ไม่ใช่แค่การประชุมระดับนานาชาติ แทนที่จะเสียเวลากับพี่ เอาเวลาไปฝึกภาษา T ดีกว่า”
ลั่วจวินหังถูกหนานซ่งบังคับว่าเธอต้องพูดภาษาอังกฤษตอนเธอโทรไปทุกครั้ง เนื่องจากเป็นภาษาแม่ของเขา เขาพูดอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่หยุดชะงัก สำเนียงลอนดอนแท้ๆออกมาจากปากของพี่ชายและเสียงที่กลมกล่อมเป็นแม่เหล็ก ฟังดูเหมือนวิสกี้ที่ถูกฝังไว้เป็นเวลานาน
หนานซ่งจำได้ว่าพี่สะใภ้เหยียนซีเคยพูดกับเธอด้วยรอยยิ้ม "เสียงพี่ชายของคุณเหมือนถูกนางฟ้าจูบด้วยเวทมนตร์บางอย่าง ทุกครั้งที่ฉันโกรธ เขาจะมาเกลี้ยกล่อมฉัน ฉันโกรธมาก ฉันไม่อยากคุยกับเขาเลย แต่ทันทีที่เขาพูด หัวใจของฉันก็อ่อนลงและฉันก็ยอมจำนน โดยไม่สามารถช่วยอะไรได้จริงๆ”
ก่อนที่หนานซ่งจะจมอยู่ในน้ำเสียงของเขา ลั่วจวินหังกล่าวว่า "ถ้าคุยได้ไม่ดีในที่ประชุม อย่ามาเรียกว่าพี่เป็นพี่ของเธอ"
"..."
หนานซ่งรู้ว่าพี่ใหญ่นั้นโหดเหี้ยมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาจึงพูดเสียงแผ่วเบา ๆ “ไม่ต้องกังวล ฉันไมทำให้พี่เสียหน้า อีกอย่างพี่ก็ไม่มา”
ลั่วจวินหังไม่ใส่ใจในเรื่องนี้ เพราะช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิในประเทศ Y เขาไม่ว่างเลย และมีงานไม่รู้จบทุกวัน
“โอเค ไม่ต้องพูดมาก ถ้าอยากฝึกภาษา T ให้ถามเหยียนยวน”
หนานซ่งต้องการติดต่อ เหยียนยวนแต่อายเกินไป "พี่ใหญ่เหยียนยุ่งอยู่หรือเปล่า"
“พี่จะรู้ได้ยังไง”
ลั่วจวินหังพูดอย่างเย็นชา: พี่ไม่ได้ติดต่อเขา"
หนานซ่ง : "..."
หลังจากวางสาย หนานซ่งยังคงพูดไม่ออก เธอได้ยินร่องรอยของความขุ่นเคืองต่อเหยียนยวนที่ไม่ได้ติดต่อกับเขาจากคำพูดของพี่ชายของเธอได้อย่างไร
เธอเปิดคอมพิวเตอร์ ส่งอีเมลถึงเหยียนยวนอธิบายสถานการณ์สั้นๆ และถามเขาว่าเขาจะแนะนำครูสอนพูดที่น่าเชื่อถือให้เธอได้ไหม
เหยียนยวนตอบอย่างรวดเร็วและกระชับ "ผม"
หนานซ่งตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อมีสายเรียกเข้าจากเหยียนยวน เธอตกใจมากจนเกือบจะโยนโทรศัพท์ออกแล้วหยิบขึ้นมา
“เสี่ยวหนานซ่ง”
เสียงของเหยียนยวนข้ามมหาสมุทรเข้าหูเธอที่ยังคงชัดเจนเช่นเคย "คุณเป็นอย่างไรบ้าง"
หนานซ่งยิ้ม “สบายดีค่ะ พี่เหยียน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...