ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หนานซ่งกลายเป็นกำลังหลักของอาหารค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าของตระกูล
ธรรมเนียมของเมืองหนานคือทานเกี๊ยวตอนเที่ยง ทานอาหารมื้อใหญ่ตอนเย็น เมื่อถึงตอนเที่ยงคืนก็ทานเกี๊ยวอีกมื้อหนึ่ง มีหัวมีหาง รักใคร่กลมเกลียว
ตอนเที่ยงทุกคนร่วมกันทำเกี๊ยว แต่เมื่อถึงมื้อค่ำ ไม่มีคนเข้าครัว พวกเขายกห้องครัวให้หนานซ่งโดยอัตโนมัติ เฮ่อเสี่ยวเหวินทำอาหารไม่เป็น ช่วยหนานซ่งปอกกระเทียมอยู่ในห้องครัวแล้วก็ออกไปหาหวังผิงนับเตรียมซองอั่งเปา ในฐานะที่เธอเป็นน้าสะใภ้ ความกดดันคับฟ้าจริงๆ!
หนานซ่งบ่นกับแม่ของเธอ “ทำไมให้หนูทำอาหารค่ำส่งท้ายปี? ถ้ารู้แบบนี้หนูอยู่ตรุษจีนที่คฤหาสน์ตระกูลยวี่ดีกว่า อยู่ที่ตระกูลยวี่หนูไม่เคยต้องออกแรงมาก่อนเลย”
เธอขี้โมโห แต่ลั่วอินขี้โมโหยิ่งกว่า
“ทำไม แค่ทำอาหารมื้อเดียว ทำท่าน่าสงสาร เลี้ยงเธอโตมาขนาดนี้ เลี้ยงอย่างสวยขาวมีน้ำมีนวล ก็เพื่อให้เธอไปมีความสุขสบายที่บ้านของคนอื่น ทำงานที่บ้านตัวเองเยอะหน่อยก็เป็นเรื่องสมควรไม่ใช่เหรอ? ถ้าเธอไปบ้านแม่สามีแล้วทำงานงก ๆ นั่นถึงจะเรียกว่าน่าสงสาร”
ถึงแม้หนานซ่งอยู่ที่ไหนก็ไม่อยากทำงาน แต่ก็ต้องเห็นด้วยกับความคิดของคุณนายลั่วอิน ฟังแล้วรู้สึกถูกต้องเป็นอย่างมาก
แต่ไม่ว่าพูดยังไง เธอก็ยังต้องทำงาน
ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้า ไม่มีใครสนใจ
โชคดีที่เธอมีสามีที่ดีเอาใจใส่ ยวี่จิ้นเหวินเข้ามาช่วยงานในห้องครัว เขารูดแขนเสื้อขึ้น แล้วถาม “มีอะไรให้ฉันทำไหม?”
“ยังไงสามีก็ดีที่สุด”
หนานซ่งซาบซึ้งจนจูบริมฝีปากของเขา “อันที่จริงไม่ต้องให้นายช่วย พวกเขาเตรียมผักไว้ให้ฉัน สามารถเอาลงผัดได้เลย”
ยวี่จิ้นเหวินกวาดสายตามองรอบห้องครัว พอจะรู้ว่าเธอจะทำอาหารอะไร เขาครุ่นคิด “งั้นฉันทำน้ำซุป”
“ซุปอะไร?”
“ซุปไก่ ซุปปลา ซุปกระดูกได้หมด”
ยวี่จิ้นเหวินเอาความคิดของเธอเป็นหลัก “เธออยากทานซุปอะไร?”
หนานซ่ง “งั้นก็ซุปเป็ดแล้วกัน”
ยวี่จิ้นเหวินหัวเราะ “คุณหนูหนาน ขอประทานโทษครับ คำตอบของเธอไม่ได้อยู่ในตัวเลือก แต่ทว่าเธอก็คือคำตอบ”
ในคฤหาสน์หมูเห็ดเป็ดไก่มีครบหมด เธออยากทานอะไร เขาก็ทำอันนั้น
เมื่อทำอาหารเสร็จหนานซ่งเหงื่อออกเต็มตัว จึงกลับไปอาบน้ำที่ห้อง เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ยวี่จิ้นเหวินก็ยืนรอเธออยู่ข้างนอกแล้ว
เขาสวมเสื้อไหมพรมสีแดง
ในมือก็ถือเสื้อไหมพรมอีกตัวหนึ่งอยู่
หนานซ่งเช็ดผม “เอาเสื้อมาจากไหน?”
“คุณแม่แจก บอกว่าตั้งใจสั่งทำเสื้อใหม่วันตรุษจีนคนละตัว”
ยวี่จิ้นเหวินชี้รูปภาพบนเสื้อไหมพรมของตัวเอง แล้วก็ชูเสื้อตัวนั้นของหนานซ่งให้เธอดู “เราสองคนคู่กัน เป็นแมวสองตัว”
“เสื้อไหมพรมนี่ขี้เหร่จริงๆ” หนานซ่งขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ “ไม่ใส่มันได้ไหม?”
“น่าจะไม่ได้ พี่เล็กพูดอย่างรังเกียจประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ถูกคุณนายลั่วถีบเข้าให้ ฉันก็เลยรีบใส่มัน”
ยวี่จิ้นเหวินพูดอย่างจริงใจ
หนานซ่งอดหัวเราะไม่ได้ “คุณชายยวี่ นายขี้ขลาดมาก”
“นี่เรียกว่าเกรงใจ” ยวี่จิ้นเหวินก็หัวเราะ แล้วแนะนำกับเธอ “แมวสองตัวบนเสื้อน่ารักดี ตัวนี้เหมือนกับเธอมาก”
เสื้อไหมพรมสีแดงของผู้หญิงคือลูกแมวสีขาว แยกเขี้ยวตะปบเล็บ เหมือนเธอตรงไหน?
แต่ก็ดูน่ารักดี
หนานซ่งรับมา แล้วสวมใส่อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็ส่องกระจกดู รูปทรงพอดูได้ เนื้อผ้าถือว่าใส่สบายอยู่
ยวี่จิ้นเหวินชมเธออย่างสุดความสามารถ “สวยจริง ๆ คนอื่นต้องพึ่งเสื้อผ้า แต่แมวน้อยของฉันเสื้อผ้าต้องพึ่งคน”
หนานซ่งถูกเขาชมจนสบายใจ จากนั้นก็เลียนแบบแมวน้อยบนเสื้อ แยกเขี้ยวตะปบเล็บ จากนั้นก็ร้องใส่ “เหมียว” ใส่ยวี่จิ้นเหวิน
ยวี่จิ้นเหวิน “!”
เมื่อเห็นยวี่จิ้นเหวินตัวแข็งทื่อ หนานซ่งมองใบหน้าของเขาแล้วไล่ตามไปข้างล่างอย่างไม่ตั้งใจ จากนั้นก็ “…”
ไม่ใช่หรอกมั้ง เธอแค่ร้องเหมียว ทำไมเขาปฏิกิริยาตอบสนองแรงขนาดนี้?
ที่แท้ปลาตากแห้ง รสนิยมแบบนี้นี่เอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...