ยวี่เหวินจิ้นพูดขึ้น เดิมทีหนานซ่งที่หน้าตาเฉยชากลับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในทันที
เธอหน้าเข้มพูดขึ้น “ยวี่จิ้นเหวิน นายอย่าได้คืบจะเอาศอก นายพูดว่าให้ฉันรับปากนายเรื่องหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”
ยวี่จิ้นเหวินพูด “เธอก็พูดแล้วว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องที่แต่งงานกับเธอใหม่ เรื่องที่คืนดี เงื่อนไขอื่น ให้ฉันเสนอได้ตามใจชอบ”
“…” หนานซ่งอดไม่ได้ที่อยากจะชกเขาสักหมัด
เขารู้จักใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของภาษา
นักธุรกิจปลิ้นปล้อนจริง ๆ
หนานซ่งหรี่ตา มองเขาอย่างสงสัยเงียบ ๆ ส่วนยวี่จิ้นเหวินที่ไม่มีเหตุผลแต่ทำกร่างจ้องตากับเธอ ทั้งสองคนจ้องตากันอยู่นาน หนานซ่งถึงได้เบนสายตาออก
เธอแอบด่าเฉวียนเยี่ยเชียนในใจที่ก่อปัญหาให้กับเธอ เธอถูนิ้วมือ พูดขึ้นอย่างช้า ๆ “งั้นประธานยวี่ต้องคิดให้ดีนะ ถึงแม้ว่าฉันจะเห็นความสูญเสียเป็นความโชคดี แต่ถ้าคนอื่นคิดว่าฉันเป็นคนโง่อยากจะรังแกฉัน นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ถ้าบีบบังคับให้ฉันโมโห กลับจะได้ไม่คุ้มเสีย”
ได้ฟังคำขู่ในคำพูดของเธอ ยวี่จิ้นเหวินหัวเราะเล็กน้อย “ประธานหนานอย่าเป็นกังวลไป ผมไม่เสนอเงื่อนไขที่ยากเกินไป ผมรับรองได้ สิ่งที่ผมอยากให้ประธานหนานทำ เป็นเรื่องที่คุณทำได้แน่นอน”
หนานซ่งพึมพำเสียงเบา เธอไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไหร่
ยวี่จิ้นเหวินลูบหน้าผาก โอดครวญกับความเจ็บปวด “หมอบอกว่าศีรษะของฉันได้รับความกระทบกระเทือน ไม่รู้ว่าถูกตีไม้นั้น จะมีเลือดอุดตันในสมองหรือเปล่า พวกลูกสมุนนั่นออกแรงหนักจริง ๆ คลุมถุงกระสอบยังสามารถตีหัวกับหน้าได้ บาดเจ็บตรงจุดที่เห็นชัดขนาดนี้ อยากจะปิดบังไว้ก็ปิดไม่ได้แน่…”
หนานซ่งมองดูเขาที่แสร้งทำเป็นร้องโอดครวญ เธอเกลียดจนคันเหงือก เขาแสดงเก่งขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ไปพัฒนาที่ฮอลลีวูดนะ?
“พอแล้ว เลิกแสดงได้แล้ว ตกลงว่าอยากให้ฉันทำอะไรอีก พูดมา”
กลอุบายของยวี่จิ้นเหวินสำเร็จ เขายิ้มมุมปากอย่างดีใจ “ฉันอยากให้เธออยู่เป็นเพื่อนฉัน”
หนานซ่งพูดอย่างเฉยชา “ตอนนี้ฉันก็อยู่เป็นเพื่อนนายอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“เธออยู่ห่างฉันเกิน” ยวี่จิ้นเหวินขยับไปด้านข้าง จากนั้นก็ตบเตียงคนไข้ “เก้าอี้แข็งเกิน มานอนตรงนี้สักพักเหอะ”
หนานซ่งสีหน้าตกตะลึง เธอเงียบอยู่พักใหญ่ แล้วส่งเสียงออกมาจากลำคอ “นายไม่อยากเห็นพระอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้แล้วใช่ไหม?”
ยวี่จิ้นเหวินมองไปที่ท่าทางอาฆาตของเธอ เขาตกตะลึง ตอบสนองในทันที ใบหน้าของตัวเองกลับแดงขึ้น เขารีบพูดขึ้น “เธอเข้าใจผิดแล้ว ไม่ได้หมายความอย่างอื่น แค่อยากให้เธอนอนลงเพราะสบายกว่า…เธอวางใจได้ ฉันไม่แตะต้องเธอ”
เขารีบร้อนอธิบาย ไม่เหมือนกับชายหนุ่มที่เคยหย่าร้าง แต่กลับเพื่อนกับเด็กโตที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
หนานซ่งมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “แต่ก็ไม่ต้องถึงกับต้องนอนบนเตียงของนาย”
นี่เป็นห้องเดี่ยว ในห้องมีแค่เพียงเตียงเดียว หนานซ่งใช้ให้คนเช่าเตียงพับ แล้วยกเข้ามาในห้องคนไข้ แล้วใช้ให้ผู้ช่วยไปซื้อของใช้ในห้องน้ำมา ท่าทางเหมือนจะเฝ้าไข้จริง ๆ
“โอเค คืนนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนนาย นายวางใจได้”
เธอแทบจะกัดฟันพูดคำนี้ออกมา ยวี่จิ้นเหวินมองดูท่าทางโมโหของเธอ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้มีความสุขกับการเล่นตลก เขารู้สึกว่าการถูกตีในครั้งนี้ คุ้มค่าเป็นอย่างมาก
ยุ่งวุ่นวายจนถึงตอนนี้ ท้องฟ้าก็มืดแล้ว
หนานซ่งได้รับผลกระทบมาจากแม่ เธอให้ความสำคัญกับการดูแลผิวอยู่เสมอ แม้ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างธรรมดาอย่างโรงพยาบาล ก็ยังไปล้างเครื่องสำอางที่ห้องน้ำ หน้าขาวใสยังมีไอน้ำอยู่ เมื่อยวี่จิ้นเหวินเห็นก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
ดูเหมือนว่านานแล้วนะที่ไม่ได้เห็นหน้าสดของเธอ
แต่งงานสามปีมานั้น ตอนเธออยู่ในบ้านไม่ค่อยแต่งหน้า ถึงจะแต่งหน้าก็แต่งแค่อ่อน ๆ แต่หลังจากหย่ากัน ทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว การแต่งหน้าดีเลิศไม่มีที่ติ ทั้งตัวเต็มไปด้วยออร่านางพญา
แน่นอน ไม่ว่าเธอที่หน้าสดหรือเธอที่แต่งหน้า ใบหน้านี้ก็สวยงามทั้งนั้น ผิวบอบบาง ราวกับเด็กทารก
หนานซ่งเห็นยวี่จิ้นเหวินมองเธอตาไม่กะพริบ เธอจึงพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด “ดูอะไร ไม่เคยเห็นเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...