ซูรุ่ยกับลั่วอินและหนานหนิงซงมาถึง ก็เห็นซูต๋าเหม่ยที่กำลังพึมพำไม่หยุดแล้วกอดหมอนอยู่ เขาถามลั่วอิน “บ้าจริง ๆ เหรอ?”
ลั่วอินพูด: “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”
“คุณเป็นหมอเทวดาไม่ใช่เหรอ?” ซูรุ่ยมีฟิลเตอร์ที่แข็งแกร่งมากสำหรับลั่วอิน และคิดเสมอว่าเธอสามารถทำได้ทุกอย่าง
ลั่วอินทำลายฟิลเตอร์ของเขา “ฉันเป็นหมอเทวดา แต่ฉันไม่ใช่จิตแพทย์ จึงดูไม่ออก”
เธอก็มองไปทางซูรุ่ยแล้วถามกลับ: “นายก็เป็นหมอเทวดาไม่ใช่เหรอ?”
“ฉันไม่ใช่หมอเทวดา” ซูรุ่ยพูดอย่างจริงจัง: “ฉันคือเทวดา”
“เทวดากับผีสิ”
ลั่วอินพูดอย่างโมโห
เธอมองซูต๋าเหม่ยอยู่นาน แต่ก็ดูอะไรไม่ออก พวกเขากำลังจะแยกย้ายกันออกไป จู่ ๆ ซูรุ่ยก็สะกิดลั่วอิน “เอ๊ย มองออกแล้ว”
ลั่วอินมองย้อนกลับไป จากนั้นซูต๋าเหม่ยก็มองมาทางเธอ ดวงตาเฉียบคมเรียวยาวคู่นั้นจ้องมองมาที่เธอ ไม่ขยับเขยื้อน
เธอจึงหยุดชะงักฝีเท้า ปล่อยให้ซูต๋าเหม่ยจ้องมอง
จ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ ซูต๋าเหม่ยก็โยนหมอนสองใบมา แล้วเดินมาทางลั่วอินด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
หนานหนิงซงสีหน้าเป็นกังวล จึงพาลั่วอินเดินถอยออกมา “ระวัง”
จากนั้นซูต๋าเหม่ยก็พุ่งตัวเข้ามาในทันที เธอนอนหมอบไปบนหน้าต่างตาข่าย แล้วตะโกนเสียงดัง “ลั่วอิน!”
เพื่อระบายอากาศ และก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้กระแทกกระจกหน้าต่าง หน้าต่างภายในโรงพยาบาลถูกออกแบบด้วยตาข่ายและมู่ลี่ หน้าต่างตาข่ายหนึ่งชั้น สามารถได้ยินเสียงจากทั้งภายนอกทั้งภายใน
เสียงตะโกนของซูต๋าเหม่ยทั้งแหลมทั้งสูง ทำให้ทั้งทางเดินมีเสียงของเธอดังก้อง ผู้คนก็พากันมาเกาะที่หน้าต่างตาข่าย ราวกับจะฉีกตาข่ายให้ขาด
เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทราบข่าว ก็รีบเปิดประตูเข้ามาและควบคุมซูต๋าเหม่ยไว้ แต่ซูต๋าเหม่ยกลับดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ทั้งพุ่งชน ทั้งกัดพวกเขาจนบาดเจ็บ จากนั้นก็วิ่งออกไปจากห้องพักผู้ป่วย
ไม่รู้ว่าเธอหยิบมีดปอกผลไม้ออกมาจากไหน แล้วกวาดไปมาในอากาศ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ถูกเธอทำให้ตกใจจนพากันถอยหลังออกไป ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้เธอ
ซูต๋าเหม่ยผมยาวมาก และก็ยุ่งเหยิงมาก เธอหน้าซีดขาวยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าแทบไม่มีเลือด ทำให้เผยออกมาว่าเธอมีอาการป่วย เธอมองดูลั่วอิน แล้วเอียงศีรษะช้า ๆ
ไม่ได้เจอกับลั่วอินมานานหลายปีแล้ว
เธอแทบจะลืมหน้าตาของลั่วอิน
ลั่วอินในความทรงจำของเธอ ยังเหมือนเด็กผู้ชายปลอม ที่ไว้ผมสะอาดเรียบร้อยเหมือนกับเด็กผู้ชาย
ผมสั้น เกือบโชว์ผิวเขียวออกมา แถมยังทำลายตัวอักษร “L” บนผมไว้อย่างบ้าระห่ำ
“เขา” คือเด็กผู้ชายที่เท่และสวยที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอ
ที่เมืองมีเด็กผู้ชายมากมายที่รังแกเด็กผู้หญิง เธอก็ถูกล้อเลียนและรังแกอยู่บ่อย ๆ แถมยังพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามเธอ ลั่วอินมักจะออกหน้าให้เธอ เตะต่อยกับเด็กผู้ชายพวกนั้นจนขี้หดตดหาย พูดขอร้องลั่วอินว่าอย่าตีพวกเขา ลั่วอินหยิ่งผยอง จิกผมของเด็กชายแล้วชี้ตัวเอง: “ต่อไปเรียกฉันว่าปู่” แล้วก็ชี้ไปที่ซูต๋าเหม่ย “เรียกเธอว่าย่า!”
“เขา” คือปู่ เธอคือย่า งั้นพวกเขาก็คือคู่กันไม่ใช่เหรอ?
ซูต๋าเหม่ยหน้าแดง เด็กผู้หญิงหลาย ๆ คนยังคงตั้งหน้าตั้งตารอเจ้าชายขี่ม้าขาวอยู่ แต่เธอหาผู้ชายของเธอเจอแล้ว
ก็คือลั่วอิน
แต่ทำไม ทำไมเธอถึงเป็นผู้หญิงล่ะ?
ทำไมเธอต้องโกหกเธอ?
“แกโกหกฉัน” ซูต๋าเหม่ยถือมีดปอกผลไม้ ชี้ไปทางลั่วอิน “ฉันชอบแกขนาดนั้น แกกลับโกหกฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...