ฟู่ยวี่ขับรถพาซูยินไปที่มหาวิทยาลัยแพทย์เมืองหรง ระหว่างทางก็คอยพูดให้เธอตั้งใจเรียน บอกว่าการเรียนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซูยินฟังจนง่วง เลยหันหน้าไปถามเขา
"อาฟู่ ตอนที่อาเรียนอยู่ ได้คะแนนดีหรือเปล่าคะ?"
"......"
ฟู่ยวี่ที่โดนถามก็เงียบไปกะทันหัน
แต่ก่อนที่แม่หนูน้อยนี่เรียกเขาว่า "คุณอา" เสียงที่ใช้เรียกหวานมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ทุกครั้งที่เรียกเขาว่า "อา" ถ้าไม่ใช้งานเขาก็แกล้งเขา แสบนัก
"ฉัน......ก็ดีนี่" ฟู่ยวี่บอกออกมาอย่างไม่มั่นใจ
"เหรอคะ?"
ซูยินบอก "แต่ทำไมหนูถึงได้ยินมาว่า ตอนอายังเรียน อาได้ที่หนึ่งที่สองตลอด แถมมั่นคงด้วย ใครก็แย่งลำดับที่นี้มาจากอาไม่ได้เลย อ๋อใช่ เป็นที่หนึ่งที่สองนับจากหลังนะคะ"
ฟู่ยวี่เบิกตากว้าง "ใครบอกเธอ?"
"ได้ยินลุงฟู่คุยกับพ่อตอนยังรักษาตัวอยู่ที่เหมยซูหลี่ คุณลุงพูดว่าลูกชายคนเล็กของคุณลุงนั้นน่าจะมีปัญหาด้านไอคิว เป็นเด็กโง่ ถามพ่อหนูว่ามียาดีตัวไหนที่รักษาได้ไหม"
ฟู่ยวี่: "....."
พ่อนั่นแหละที่โง่!
มิน่าล่ะพ่อตาถึงไม่ค่อยต้อนรับเขาสักเท่าไหร่ เป็นเพราะก่อนหน้านั้นพ่อของเขาเอาชื่อเสียงลูกชายตัวเองไปขายนี่เอง คนอื่นเขาขายพ่อ แต่เขานี่โดนพ่อขายลูกแทน เหอะ!
"แล้วยังไงต่อ?" อยู่ๆ ฟู่ยวี่ก็มีลางไม่ดีขึ้นมา เขาพยายามคิดกลับไปว่าเมื่อก่อนพ่อเคยเอายาอะไรให้กินไหม หรือว่าเคยท้องเสียหรืออะไรแบบนั้นหรือเปล่า
ซูยินพิงตัวลงกับเบาะรถ "หลังจากนั้นพ่อฉันก็บอกว่า ยาไม่มีประโยชน์ ให้กินวอลนัทเถอะ"
"......"
ฟู่ยวี่เบิกตากว้างในทันที เขาดูเหมือนกับนกฮูกอย่างไรอย่างนั้น
"อ๋อ! ฉันว่าแล้วไง! ช่วงนั้นที่บ้านมีแต่วอลนัทเต็มไปหมด ต้นวอลนัทสองต้นที่สวนหลังบ้านก็ปลูกช่วงนั้นเหมือนกัน ให้ตายเถอะ พ่อถึงกับจ้างคนมาแกะวอลนัทแล้วก็บังคับให้ฉันกิน ฉันแทบจะอ้วกออกมาแล้วด้วยซ้ำ ตอนนั้นฉันยังนึกในใจว่าพ่อไปโดนอะไรมาหรือเปล่า ที่แท้ก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง" อยู่ๆ ฟู่ยวี่ก็รู้สึกเหมือนไขปริศนาได้
ซูยินฟังเขาบ่น ก็หันหน้าไปมองเขา
"ทำไม ไม่พอใจหรือไงคะ?"
"เปล่า! ฉันจะกล้าได้ไง?"
ฟู่ยวี่รีบบอกในทันที "คุณพ่อตาให้ฉันกินวอลนัทก็เพราะว่าเป็นห่วงฉัน นั่นเป็นเกียรติของฉัน"
คำว่า "คุณพ่อตา" ทำให้ซูยินหน้าร้อนขึ้นมา เลยหันหาไปมองนอกหน้าต่าง แต่กลับโดนฟู่ยวี่หยิกหูเข้าให้ เขาถามทั้งที่รู้คำตอบ "เอ๋ ทำไมถึงหูแดงล่ะ? เขินเหรอ?"
ซูยินตีมือเขา "ตั้งใจขับรถ"
ฟู่ยวี่หัวเราะเบาๆ
เขารู้สึกว่าหัวข้อสนทนานั้นชักจะออกทะเลไปไกล ก็เลยรีบดึงบทสนทนากลับมา เพื่อจะแก้ข่าวให้ตัวเอง "ฉันเป็นถึงทหารพิเศษเชียวนะ ความรู้นิดเดียวบนหนังสือนั่นมันจะยากแค่ไหนกันเชียว? ฉันอ่านครั้งเดียวก็จำได้หมดแล้ว ฉันก็แค่พยายามไม่เปิดเผยความฉลาดของตัวเองออกมามาก คนที่เก่งจนโดดเด่นกว่าคนอื่นมากๆ มักจะโดนคนอื่นติฉิน นินทา อิจฉา กลั่นแกล้ง เธอเข้าใจตรรกะพวกนี้ใช่ไหมล่ะ? ฉันก็แค่......"
ฟู่ยวี่ยังคงพยายามจะกอบกู้ชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่ก็ดันหันไปเห็นสายตาเจ็บปวดของซูยิน
อยู่ๆ เสียงของเขาก็ขาดไป "เอ๋ เธอ? เป็นอะไรไป?"
"ฉันรู้" ซูยินบอกเสียงอ่อน "คุณอาฉลาดจะตาย ก็แค่ บังเอิญเกิดมาในตระกูลฟู่ที่เหมือนกับรังของเสือไม่ก็หมาป่า เลยไม่มีโอกาสให้ได้เป็นตัวของตัวเอง ลำบากแย่เลยค่ะ"
ตอนแรกฟู่ยวี่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอได้ยินซูยินพูดแบบนี้ เขาก็เกิดเอ็นดูเธอขึ้นมา
แม่ของเขาจากไปเร็ว ตั้งแต่ที่ฟู่ยวี่เริ่มจำความได้ แม่ก็หายไปจากความทรงจำของเขา แต่ว่าเขานั้นจำความอบอุ่นกับอ้อมกอดของแม่ได้ แล้วก็จำน้ำเสียงแสนหวานของแม่ได้ดี เธอก็คงจะอุ้มเขาแล้วถอนหายใจ "เกิดมาในครอบครัวแบบนี้ ลำบากอายวี่ของแม่แล้ว......"
หลังจากนั้น ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนเป็นห่วงเขาอีก
แต่ก่อนเขาคิดว่าเป็นชายฉกรรจ์อกสามศอก ควรจะต้องเป็นคนที่คอยเป็นห่วงสุภาพสตรี ทำไมจะต้องให้ผู้หญิงมาเป็นห่วงเขาด้วย? เสียหน้าจะตาย แต่เมื่ออยู่กับซูยิน เขานั้นนับไม่ไหวจริงๆ ว่าเธอเป็นห่วงเขาไปกี่ครั้งแล้ว
เสียหน้าคืออะไร? ของแบบนั้นไม่เคยมีหรอก
"ใช่ไหมล่ะ?"
ฟู่ยวี่นั้นน้ำตาสั่งได้ เขาทำเป็นปาดน้ำตาปลอมๆ "ฉันน่ะน่าสงสารมากเลย......"
ซูยิน "......ปลอมมากค่ะพี่ชาย"
เมื่อกี้ยังเรียกเขาว่าอาอยู่เลย ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพี่ชายอีกแล้ว แต่เขาก็ชอบฟังทั้งนั้น
"ยินยินเรียกว่าพี่ชายสิ เพราะดี"
ฟู่ยวี่มีแววตากรุ้มกริ่ม หันหน้าไปมองเธอ "เรียกอีกครั้งสิ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...