เมื่อตอนที่ได้รับข่าวการเสียชีวิตของพ่อของฟู่ยวี่นั้นก็เป็นวันที่สองแล้ว
หนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินทราบข่าว พวกเขาก็ออกไปทันทีโดยไม่ทานอาหารเช้า. พวกเขาตรงไปที่เมืองหรงเพื่อช่วย ฟู่ยวี่จัดการงานศพ
ว่ากันว่าเมื่อผู้ชายไปงานศพของพ่อ เป็นเวลาที่เขาเติบโตขึ้นอย่างแท้จริง
ตามธรรมเนียมของเมืองหรงฟู่ยวี่สวมชุดไว้ทุกข์ให้พ่อของเขา ในเวลาเพียงไม่กี่วันหลังจากกลับจากเมืองกั่งน้ำหนักเขาลดไปมาก เบ้าตาของเขาลึก โหนกแก้มของเขายื่นออกมาและใบหน้าดูตอบ
คนตัวใหญ่ที่ร่าเริงตลอดเวลากลายเป็นคนที่เงียบและดูหดหู่
ห้องไว้ทุกข์ตั้งอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลฟู่. หลายคนต่างมาแสดงความเสียใจ ซูยินที่คอยอยู่เคียงข้างฟู่ยวี่ตลอดงานในฐะนะว่าที่คู่หมั้นที่ค่อยช่วยตอนรับแขก
ลั่วอิน หนานหนิงซ่งซึ่งมากับ ซูรุ่ยและ ไป๋ลู่ยวี๋
พี่ชายและอาของ ฟู่ยวี่ไม่ได้อยู่ในเมืองหรง ครอบครัวและเพื่อน ๆ ก็มีพวกหนานซ่งยวี่จิ้นเหวินจ้าวซวี่
และคนอื่น ๆ ช่วยกันนำทางแขกและส่งพวกเขาไปที่ด้านข้าง ลั่วโยวและ เฉวียนเยี่ยเชียนก็ขึ้นเครื่องบินอย่างเร็ว หลังจากได้ยินข่าว ก็รีบบินจากเมืองจิงมาเมืองหรง เนื่องจากนายลั่วไม่ค่อยไม่สบาย ลั่วโยวและ เฉวียนเยี่ยเชียนจึงมาอยู่ที่เมืองจิงเพื่อดูแลพวกเขา
แม้แต่งานแต่งของเสิ่นเหยียนและ หลินลู่ก็ไม่ได้ไป
เมื่อพวกเขาโตขึ้นพ่อแม่ก็แก่ลง ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องเผชิญในวันนี้
เมื่อวันนี้มาถึง ผู้คนมักจะไม่ทันระวัง จนเกินความรู้สึกผิดและความเศร้าโศก อยากเลี้ยงดูพ่อแม่ เมื่อพ่อแม่เสียแล้ว
เมื่อพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ เราต่างคิดว่าตราบใดที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ เราก็ยังเป็นเด็กอยู่เสมอ และรู้สึกว่าตัวเองไม่โต แต่เมื่อพ่อแม่เสียชีวิตจริงๆ และทิ้งเราไป คนหนึ่งในโลกที่รักคุณมากที่สุด ในอนาคตคุณจะต้องเผชิญทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งความเหงา ความทุกข์ยาก และความตาย
ตั้งแต่ตอนนี้ไป ฟู่ยวี่ก็เป็นเหมือนตัวคนเดียว
พี่น้องของตระกูลฟู่ ถูกส่งไปต่างประเทศเมื่อตอนที่ต่อสู้แบบประจัญบานของครอบครัว หลังจาก ฟู่ปั๋วซิ่งเสียชีวิต หัวหน้าตระกูลฟู่ใน เมืองหรงคือ ฟู่ยวี่
มีความโกลาหลเกิดขึ้นอย่างกะทันหันในลานบ้าน และทุกคนก็มองออกไป
ทีมชายชุดดำปรากฏตัวขึ้น พร้อมชายหลายคนที่นั่งรถเข็น
ชายสามคนในรถเข็นยังสวมชุดไว้ทุกข์ด้วยเสื้อแขนยาวและกางเกงปกปิดมือและเท้าตลอดจนข้อมือและข้อเท้าที่หัก
หลายคนในงานจำพวกเขาได้ว่าเป็นลูกชายของ ฟู่ปั๋วซิ่ง
พี่ของฟู่ยวี่
พ่อบ้านรีบไปรายงาน “นายน้อย นายรอง นายสาม และนายห้าอยู่ที่นี่!”
ฟู่ยวี่กวาดตาเข้าไปในลานและดวงตาดอกพีชคู่นั้นก็ส่องประกายเความเย็นชาออกมา
เมื่อซูยินเห็นคนนั่งรถเข็น สีหน้าของเธอก็เย็นชา โดยเฉพาะคนตรงกลาง เป็นคนที่เคยมัดเธอและข่มขู่ ฟู่ยวี่ในวันนั้นและวางมีดที่คอของเธอ!
หนานซ่ง และ ยวี่จิ้นเหวินมองหน้ากันและรู้ว่าแขกไม่ได้รับเชิญมาและตาม ฟู่ยวี่และ ซูยิน ออกไป
ฟู่เจ๋อและคนอื่นๆ ถูกล้อมรอบไปด้วยบอดี้การ์ดของตระกูลฟู่และไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งสองทีมก็ต่อสู้กันเอง เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้ แขกรับเชิญก็ถอยออกไปทีละคน ในการต่อสู้ถูกสาดไปด้วยเลือดเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การถูกโจมตีเป็นเรื่องใหญ่
“ฟู่ยวี่พ่อของเราตายแล้ว เราแค่อยากกลับมาร่วมงานศพของเขา ยังอยากจะห้ามหรือ?”
ฟู่เจ๋อที่นั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมอง ฟู่ยวี่อย่างเย็นชาด้วยดวงตาที่เหมือนเหยี่ยว
ใบหน้าของฟู่ยวี่เย็นชาจนทนต่อไม่ไว้. หากไม่เพราะศึกแย่งชิงบัลลังก์ คุณพ่อคงไม่โกรธจนเป็นหลอดเลือดสมองแตก ตอนนี้พวกเขายังกล้ากลับมาเพื่อขอร่วมงานศพ .
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...