ถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งเป็นอะไรที่ค่อนข้างเหนื่อย
แต่งหน้า ลองชุด จัดท่า สำหรับเฮ่อเซินกับซูอิงที่มองกล้องจนชินเลยยังดีหน่อย หนานซ่งจำได้ว่าตอนที่พี่สามกับซ้อสามถ่าย เรียกได้ว่าผ่านไปได้ด้วยดี สีหน้าหลากหลาย ท่วงท่าธรรมชาติ ทุกรูปที่ถ่ายออกมาต่างก็ดูเหมือนรูปถ่ายตามนิตยสารชื่อดัง สามารถนำไปขึ้นปกนิตยสารได้เลย
แต่สำหรับหวังผิงที่ไม่คุ้นเคยกับกล้องและแสงแฟลชนั้นเรียกได้ว่าวิบัติ
แค่เลนส์กล้องหันมายังเขา เขาก็มีความรู้สึกว่าอยากจะเข้าไปตีให้เลนส์แตก
คนถ่ายยังไม่หยุดพยายามให้พวกเขาขยับเข้าหากันแล้วก็ฉีกยิ้ม
ไม่ใช่แค่หวังผิง เฮ่อเสี่ยวเหวินยังรู้สึกว่าตัวเองนั้นยิ้มจนกรามแทบค้าง มือไม้ก็ไม่รู้ว่าควรจะเอาไปวางไว้ตรงไหน
สถานการณ์ทางด้านไป๋ลู่ยวี๋กับฟู่จื่อนั้นดีขึ้นมาหน่อย แต่ว่าบุคลิกของฟู่จื่อนั้นดูจะแรงไปเสียหน่อย ยืนอยู่ตรงนั้นก็เลยเหมือนกับคุณหนูจอมเอาแต่ใจ ไป๋ลู่ยวี๋ก็ดูนุ่มนิ่ม สดใส ช่างถ่ายภาพไม่ว่าจะถ่ายแบบไหนก็ยังรู้สึกเหมือนพี่สาวกับน้องชายมากกว่า
และเวลาที่สำคัญจริงๆ ก็คือตอนที่เฮ่อเซินกับซูอิงเข้าฉาก ดาราดังสองคนเข้าฉากมาเพื่อสาธิตให้ดู เพื่อให้พวกเขาทำตาม ทั้งสองคนคิดท่าโพสต์ให้ตามบุคลิกของพวกเขาแต่ละคู่ เลยทำให้ดูสบายตาขึ้นมาในทันที
หวังผิงไม่ชอบมองกล้อง เฮ่อเสี่ยวเหวินก็เหมือนกับนกน้อยที่ซบอยู่บนอกของเขา หวังผิงก้มหน้าลงไปมองแม่นกน้อยในอ้อมกอดของเขา ริมฝีปากของเขาก็ยกยิ้มในทันที แววตาของเขาก็ดูอ่อนโยนขึ้นมาเช่นกัน ต่างกับคนเมื่อกี้ราวกับคนละคน
ส่วนไป๋ลู่ยวี๋กับฟู่จื่อเรียกได้เต็มปากว่าทะเล้น ไป๋ลู่ยวี๋แบกฟู่จื่อ ซบอยู่บนไหล่เขา แล้วดึงหูเขาเอาไว้ ไป๋ลู่ยวี๋เลยกลายเป็นเด็กหูยานในทันที คนที่ได้เห็นภาพต่างก็พากันหัวเราะออกมา
เมื่อเริ่มต้นไปได้สวย ตอนหลังก็เลยผ่านฉลุย
หนานซ่งกับคนอื่นๆ เองก็เข้ามาร่วมถ่ายภาพเหมือนกัน เธอเปลี่ยนไปตั้งไม่รู้กี่ชุด เหนื่อยเอาการเหมือนกัน
ในที่สุดก็ได้ถ่ายรูปรวมของครอบครัวสักที ทุกคนในครอบครัวอยู่รวมกัน ลั่วอินกับหนานหนิงซงนั่งอยู่ตรงกลาง เด็กที่สุดก็คือเฟิงเอ๋อร์ ถูกอุ้มอยู่ในห่อผ้าโดยลั่วอิน
กว่าจะจัดตำแหน่งยืนของแต่ละคนได้ก็ใช้เวลาพอสมควร ช่างถ่ายภาพมองครอบครัวที่อุดมไปด้วยคนหน้าตาดี ก็ยิ้มออกมา "พูดคำว่าอะไรดี ทุกยิ้ม?"
หนานหนิงซงเอ่ยปาก "ผมจะพูดว่าลั่วอินอ้วน ลั่วอิน-"
ไม่รอให้คนอื่นๆ ได้พูด จี้อวิ๋นกับไป๋ลู่ยวี๋ที่เป็นตัวแสบก็รีบพูดตาม "อ้วน!"
ลั่วอินพ่นคำหยาบออกมา คนอื่นๆ ต่างพากันหัวเราะ และภาพนั้นก็ถูกชัตเตอร์จับเอาไว้
*
หวังผิงกับเฮ่อเสี่ยวเหวินจัดงานแต่งเล็กๆ และเรียบง่ายที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองหนาน
ในตอนที่พิธีจบลง ไป๋ลู่ยวี๋กับฟู่จื่อก็ขี่มอเตอร์ไซค์นำขบวนงานแต่งออกไป
ฟู่ยวี่กลับไปที่ซูเหมยหลี่กับซูยินแล้วก็ซูรุ่ย เพื่อไปเยื่อมคุณย่าซู
คราแรกทุกคนอยากจะรอเจอพี่สะใภ้ใหญ่ที่เมืองหนาน แต่ลั่วจวินหังกลับสั่งให้ทุกคนไม่ต้องรอ
"เมื่อถึงเวลาที่ต้องปรากฏตัว เธอจะต้องมาแน่นอน"
บางทีนี่อาจจะหมายความว่า พี่ๆ น้องๆ ต่างก็มีชีวิตแล้วก็ครอบครัวของตัวเอง แต่ว่าในใจของพวกเขาต่างก็เป็นห่วงกันอยู่ตลอด ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร ทุกคนก็จะมาหากันในทันที และนี่ก็คือครอบครัว
พักร้อนของหนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินจบลง และต่างฝ่ายก็ต่างกลับไปทำงานอันแสนยุ่งยากวุ่นวาย
ตอนที่เป็นแฟนกันทั้งสองคนต้องมีความรักทางไกล อยู่ห่างกันคนละเมือง เธออยู่เมืองเป่ยฉันอยู่เมืองหนาน ตอนนี้แต่งงานแล้วก็ยังคงอยู่สองเมืองเหมือนเดิม แต่กลับทำอะไรพร้อมกัน ไปทำงานเมืองเป่ยด้วยกันช่วงหนึ่ง เสร็จแล้วก็กลับมาทำงานที่เมืองหนานด้วยกันอีกช่วงหนึ่ง
ตอนกลางวันต่างคนต่างก็ไปทำงานของตัวเอง พอตกกลางคืนถึงค่อยมาอยู่ด้วยกัน และมีบางครั้งบางคราว ขนาดกลับบ้านมาแล้วทั้งสองคนก็จะนั่งทำงานในห้องทำงานด้วยกัน มีคนพูดว่าคนรักกัน ไม่ว่าตอนแรกจะตื่นเต้นแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วก็จะกลับมามีชีวิตแบบเรียบง่าย ทว่าสำหรับหนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินนั้น ชีวิตเรียบง่ายไม่ได้แย่อะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...