กู้ฉางฉิงพอได้ยินแบบนั้นจึงทำได้เพียงแค่ขึ้นรถไปกับเขา
ระหว่างนั้น กู้ฉางฉิงก็มองไปทางเฟิงจิ่งเหยาอยู่เรื่อยๆ
เพราะว่าในใจของเธอเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว
เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทั้งๆที่มันก็เกิดเรื่องมันก็มาขนาดนี้แล้วแต่ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงยังทำตัวปกติอยู่
เป็นเพราะว่าไม่สนใจหรือเป็นเพราะว่ามองเขาอยู่ในสถานะเมียหลวงก็เท่านั้นถึงได้ฝืนใจที่จะปฏิบัติต่อเธอแบบนี้
เธอจมอยู่ในความรู้สึกที่แสนยุ่งเหยิงจนกระทั่งถึงสำนักงานใหญ่
กู้ฉางฉิงจึงถูกเฟิงจิ่งเหยาปลุกออกจากความคิดเล่านั้นให้ขึ้นลิฟต์ไปห้องประธานด้วยกัน
เนื่องจากการปรากฏตัวของเธอทำให้เหล่าพนักงานรวมกลุ่มกันซุบซิบนินทา ต่างพากันพูดถึงความสัมพันธ์ของกู้ฉางฉิงและเฟิงจิ่งเหยา
และในครู่เดียวเท่านั้นพนักงานพวกนี้ก็ขุดคุ้ยเรื่องราวของเธอได้แล้ว จนค่อยๆละความสนใจกันไป
ในเมื่อเรื่องที่เคยตบตีนั้นดังกระฉ่อนไปทั่วแล้ว ต่อให้ถูกเฟิงจิ่งเหยากดดันอยู่ข้างหลังแต่ก็ยังมีคนไม่น้อยเคยเจอกู้ฉางฉิงแล้ว
แน่นอนว่าถึงแม้พวกเขาจะเลิกซุบซิบนินทากันแล้วแต่กลับยังคงนั่งรอดูอะไรสนุกๆอยู่
ใครให้อีกฝ่ายที่เขามีเรื่องตบตีด้วยยังทำงานอยู่ในบริษัทกันล่ะ
จนถึงขั้นมีคนบางกลุ่มลงพนันกันเลยว่ากู้ฉางฉิงกับมู่เฉาเกอจะมีเรื่องกันที่นี่หรือไม่
และแน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ของพวกพนักงานกู้ฉางฉิงไม่ทางรับรู้ได้เลย
เธอยืนอยู่หลังเฟิงจิ่งเหยาอย่างเรียบร้อย ไม่กระโตกกระตากใดๆ ไม่นานก็ถึงห้องประธาน
แต่พอเข้าไปในห้องแล้วทำเอาเธอช็อคไปเลย
นั่นก็เพราะว่าเธอคิดไม่ถึงว่าจากห้องทำงานของเฟิงจิ่งเหยาจะมองเห็นมู่เฉาเกอได้ด้วย
เมื่อเทียบจากความประหลาดใจอันน้อยนิดของเธอแล้วก็นับว่ามู่เฉาเกอนั้นสุขุมไม่น้อยเลย คงเป็นเพราะว่าเธอรู้เรื่องมาจากกลุ่มบริษัทอยู่ก่อนแล้ว
ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเธอกับกู้ฉางฉิงจะทะเลาะกันหนัก แต่คนประเภทอะไรก็ได้อย่างเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดเมื่ออยู่ต่อหน้าเฟิงจิ่งเหยา
เธอจึงก้มหัวทักทายกู้ฉางฉิงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง และหันตัวมองไปยังเฟิงจิ่งเหยา
"จิ่งเหยา คุณกลับมาพอดีเลย โรงงานเขาส่งจำนวนสินค้าใหม่ที่แก้ไขมาให้แล้วค่ะ คุณช่วยเช็คดูหน่อยนะคะ "
เธอใช้เรื่องงานมาเบี่ยงเบนความสนใจเฟิงจิ่งเหยา ทิ้งให้กู้ฉางฉิงยืนทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตูคนเดียว
และนี่ก็ทำให้กู้ฉางฉิงก็สามารถรับรู้ได้ชัดเจนว่าหล่อนไม่ชอบเธอ
ด้วยเหตุนี้เธอก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปแกล้งเอาใจใคร
เธอยักไหล่อย่างไม่สนใจ เดินตรงไปนั่งลงบนโซฟาแล้วให้ชวี่ยี่นำกระดาษวาดรูปมาให้เธอจำนวนหนึ่ง จากนั้นเธอก็เริ่มลงมือออกแบบทันที
ในเวลาเพียงครู่เดียว ทั้งห้องก็ราวกับถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง
ฝั่งนึงเงียบสงบ ฝั่งนึงเต็มไปด้วยเสียงทำงาน
เฟิงจิ่งเหยาสังเกตุถึงความเงียบสงัดตอนนี้ จนต้องขมวดคิ้วแน่น
เขาสองจิตสองใจที่จะมองไปที่กู้ฉางฉิง แต่พอมองไปกลับเห็นเธอนั่งเงียบๆอยู่บนโซฟาไม่มีท่าทางจับผิดจ้องจะหาเรื่องเลยสักนิด แม้แต่สีหน้าก็แปลกไปจากเดิม ไม่เหมือนคืนนั้นเลยสักนิด นี่ทำให้เขาสับสนเยอะมากเลยทีเดียว
ใช่ ที่เฟิงจิ่งเหยาพากู้ฉางฉิงมาที่สำนักงานใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่คิดไว้อยู่แล้ว
เพราะว่าสิ่งที่ฮั้วเฉินมอบให้เขาตอนจากไปก็คืออยากจะรีบหาปัญหาให้เจอโดยเร็ว ดังนั้นจะต้องรู้ให้ได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นมาอย่างไรไม่เช่นนั้นก็ทำได้เพียงแค่คาดเดาต่อไปเรื่อยๆ
และในคืนที่กู้ฉางฉิงตบตีมีเรื่อง จริงๆแล้วก็อยู่ในสายตาเขาตลอด ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากจะพิสูจน์ดูว่าเธอจะทำแบบนั้นอีกไหมถ้าเขาและมู่เฉาเกอใกล้ชิดกัน
ยิ่งเวลาผ่านไป กู้ฉางฉิงก็ยังคงทำตัวปกติ
มันยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจและไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ
แต่ทว่ากู้ฉางฉิงกลับไม่ได้รับรู้ความคิดเหล่านี้ของเฟิงจิ่งเหยาเลย
ในขณะที่ดูเหมือนว่าเธอกำลังนั่งวาดแบบร่างอย่างใจเย็น แต่จริงๆแล้วกำลังเอี่ยวหูฟังเสียงบทสนทนาอยู่ จนทำให้เธอไม่มี
สมาธิในการออกแบบเลยสักนิด ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะตั้งใจฟังบทสนทนานั้นอย่างจริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา