กู้ฉางฉิงฟังคำพูดนี้ แววตาก็เป็นประกายออกมาในชั่วพริบตาเดียว
แต่พวกอันธพาลคนอื่นๆโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่หยุด
นี่คือเรื่องดีๆของพวกเราที่มีบางคนจะทำลาย
"ไอ้หนุ่ม ฉันจะแนะนำคุณให้นะว่าทางที่ดีอย่ายุ่งเรื่องของคนอื่นให้มากนัก ระวังเถอะยุ่งมากเกินไปเดี๋ยวจะเดือดร้อน"
พอคำกล่าวเตือนจบลง พอดีประตูลิฟต์ก็ถอยกลับไปอีกครั้ง ปรากฎให้เห็นโฉมหน้าจริงๆของคนด้านนอก
พอพวกเขาเห็นได้ชัดเจนถึงคนที่ยืนอยู่ด้านนอกแล้ว ในสายตากู้ฉางฉิงก็เป็นประกายมากยิ่งขึ้น
"คุณฮั้ว"
เธอเรียกด้วยความดีใจ
ฮั้วเฉินกวาดสายตามามองเธอ กล่าวด้วยดวงตาที่เคร่งขรึมว่า: "คุณกู้ ไม่คิดเลยว่าครั้งที่สองที่พวกเราได้พบกันจะเป็นสถานการณ์แบบนี้"
กู้ฉางฉิงได้ยิน อึดอัดใจเล็กน้อย
พวกอันธพาลสองสามคนได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ก็เดาได้ว่าคนทั้งสองรู้จักกัน มองหน้ากันไปมา ยังคงไม่คิดลดละความโสโครกของปาก
ถึงอย่างไรฝ่ายตรงข้ามก็มีเพียงคนเดียว พวกเขามีตั้งหลายคน
"เห๊อะ ที่แท้ก็รู้จักกัน มิน่าล่ะถึงได้ยุ่งเรื่องของชาวบ้านมากนัก เพียงแต่ไอ้หนุ่ม อยากจะเป็นวีรบุรุษช่วยสาวสวยมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ ระวังจะกลายเป็นหมา"
ฮั้วเฉินเลิกคิ้ว: "ใครบอกว่าฉันอยากเป็นวีรบุรุษล่ะ?"
อันธพาลได้ยินคำพูดนี้ ก็ชะงักไป รวมทั้งกู้ฉางฉิงก็มองไปยังเขาอย่างไม่เข้าใจ
ก็ฟังเขากล่าวต่อไปว่า: "ฉันก็คิดจะลงมือกับพวกคุณหรอก เพียงแต่......ถึงแม้ว่าฉันไม่ลงมือ พวกคุณก็พาคนไปไม่ได้ จะมีคนมาจัดการพวกคุณเอง"
กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดนี้ ใจที่เป็นกังวบก็ปล่อยวางลงได้อีกครั้ง
เธอกวาดสายตามองอันธพาลสองสามคนข้างๆ แล้วก็มองฮั้วเฉินอีกครั้ง รู้สึกว่าทางด้านของเขานั้นปลอดภัยกว่า จึงดึงซูตี้ที่เดิมทีเมาไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเกิดอะไรขึ้นออกจากลิฟต์ หลบด้านหลังฮั้วเฉิน
อันธพาลสองสามคนเห็นเช่นนี้ ก็โมโหไม่หยุด รู้สึกเพียงว่าฮั้วเฉินทำลายเรื่องดีๆของพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัว
"ไอ้หนุ่ม ฉันจะนับถึงสาม ถ้าคุณเชื่อฟังนำผู้หญิงด้านหลังคุณคืนกลับมา เรื่องนี้พวกเราสองสามคนก็ถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นคืนนี้ฉันจะทำให้คุณได้เข้าใจถึงผลที่ตามมาจากการทำให้พวกเราสองสามคนไม่พอใจ"
ฮั้วเฉินยิ้มเบาๆ ชัดเจนว่าไม่ใส่ใจฟังคำพูดของเขา
นั่นอันธพาลจึงบุกเข้าไปด้วยความโกรธ กำหมัดขึ้นแล้วชกไปยังฮั้วเฉิน
กู้ฉางฉิงที่มองอยู่ด้านหลังก็อดไม่ได้ที่จะร้องเรียกอย่างตื่นตกใจ
"คุณฮั้ว ระวัง"
ฮั้วเฉินหรี่ตา สายตามองกำปั้นที่จะตกลงมา เขาขยับไปจับกำปั้นนั้นอย่างรวดเร็วและช่ำชอง ใช้กำลังนิ้วมือทั้งห้า ทำให้กำปั้นนั้นไม่สามารถเข้าใกล้ได้อีกแม้ครึ่งเดียว
อันธพาลที่บุกเข้ามาเห็นเช่นนี้ สายตาก็ประหลาดใจทันที
ถึงอย่างไรพวกเขาก็ปิดบังอำพรางตนเองมาทั้งปี จะพูดได้ว่าฝีมือการต่อสู้โดบขอบธรรมนั้นไม่มี เพียงแต่พละกำลังที่ชกต่อยกันเหล่านี้ยังคงมีประสบการณ์ออกมาอย่างช่ำชอง และฝีมือก็ยังดีมาก
นอกจากคนที่ฝึกฝนแล้ว คนทั่วๆไปพวกเขาก็ไม่กลัว
แต่ขณะนี้ หมัดของเขานี้ถูกผู้ชายตรงหน้าคนนี้สกัดได้อย่างง่ายดาย และด้วยกำลังที่มากทำให้เขาไม่มีโอกาสแม้กระทั่งจะดึงกลับ
แทบจะชั่วพริบตาเดียว เขาก็รู้ได้ชัดเจนว่าครั้งนี้คงจะเตะถูกแผ่นเหล็กเข้าแล้ว
"น้องชายท่านนี้ แหะๆ เข้าใจผิด เข้าใจผิดแล้ว"
เขายิ้มท่าทีอ่อนลง กล่าวพยายามทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก: "ในเมื่อสาวสวยทั้งสองท่านเป็นเพื่อนของคุณ งั้นพวกเราสองสามคนก็ไม่ทำให้ลำบากใจแล้ว"
เขาพูดพลาง คิดจะดึฃมือกลับมาอีกครั้ง แต่ฮั้วเฉินยังคงไม่ปล่อยมือ
กระทั้งอันธพาลคนอื่นๆได้ฟังคำพูดนี้ ก็เข้าใจความหมายของเขา ที่คือตอที่แข็งแกร่งตอนึง
"เฮ้ย พี่ใหญ่พวกเราบอกว่าไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยแล้ว อีกทั้งเมื่อกี้คุณก็บอกว่าไม่ลงมือไม่ใช่หรอ? ยังไม่รีบปล่อยพี่ใหญ่ของพวกเราอีก!"
ฮั้วเฉินกวาดสายตามองเขา สายตาเหยียดหยามเล็กน้อย
เขาปล่อยมือยิ้มเบาๆ ผลักอันธพาลที่บุกเข้ามาคนนั้นเข้าไปในลิฟต์กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า: "ฉันบอกว่าไม่ลงมือ แต่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่า เรื่องนี้ฉันจะไม่ใส่ใจ"
พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่อันธพาลที่บุกเข้ามาคนนั้น ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วกล่าวว่า: "นี้ไม่คงไม่ใช่ว่าคุณจะพูดว่าช่างมันได้ ไม่เช่นนั้นปล่อยพวกคุณไป ฉันจะพูดอธิบายกับคนอื่นได้ลำบาก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา