เฟิงจิงเหยาอาบน้ำเสร็จ ก็เอนตัวลงนอนบนเตียงเตรียมตัวพักผ่อน
เห็นเขาไม่ไปซักที ในใจกู้ฉางชิงค่อนข้างกังวล แม้ว่ารอไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่เห็นท่าทีว่าจะขยับเขยื้อน
จู่ๆทั้งร่างกายก็เริ่มผ่อนคลายลง
เขาค่อยๆขยับผ้าห่มนุ่มๆขึ้นมาห่ม ถึงจะเข้าสู่ห้วงนิทรา
วันต่อมา เป็นอีกวันหนึ่งที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
เฟิงจิงเหยาทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ไปบริษัททันที
กู้ฉางชิงอยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรให้ทำ พอเห็นว่าอากาศดีก็เลยสั่งให้คนรับใช้จัดหาเก้าอี้นอนกับโต๊ะตัวเล็กหนึ่งตัวมาวางไว้ที่ลานบ้าน กะว่าจะอาบแดดไปด้วย แก้ภาพเขียนแบบที่เฟิงจิงเหยาให้มาเมื่อวานไปด้วย
บนโต๊ะตัวเล็กมีทั้งของว่างและเครื่องดื่ม ส่วนตัวเองนั้นสนุกกับการหยิบภาพเขียนแบบปึกนั้นมานั่งข้างบน แล้ววาดๆเขียนๆโครงร่างอย่างสบายใจ
ในขณะที่หลู่ซือหยีออกมาจากอีกฝั่งของสวนดอกไม้ จุดประสงค์ที่เข้ามาก็เพื่อเห็นฉากนี้
พอเห็นกู้ฉางชิงในท่าทางสบายอกสบายใจ เขาก็รู้สึกโมโห ได้แต่กัดฟันกรอดเพราะทำอะไรไม่ได้
ไม่กี่วันมานี้เขาส่งคนมาเฝ้ากู้ฉางซินตลอด อยากที่จะจับจุดอ่อนของเขาให้ได้
เดิมทีคิดว่าเขาจะเหมือนกันกับแต่ก่อน ที่แอบย่องออกไปเที่ยวเล่น
ใครจะไปรู้ว่ากู้ฉางซินเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน ถึงขนาดไม่ก้าวเท้าออกไปไหนเลย
ไม่เพียงแค่นี้ หลังจากได้รับการขัดเกลาคุณธรรมแล้ว อยู่บ้านทุกวันไม่อ่านหนังสือก็วาดภาพ
เปลี่ยนไปมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าตาไม่มีอะไรเปลี่ยนไป
หลู่ซือหยีก็คงสงสัยว่ามีคนมาสับเปลี่ยนตัวกับนาง
นิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ หลู่ซือหยีกวักมือเรียกนางรับใช้คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ตรงลานบ้านมาถาม“เสี่ยวเหลียน มานี่หน่อย!”
“คุณหนูลู่”เสี่ยวเหลียนวางงานที่ทำอยู่ จัดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็วิ่งไปหา“คุณหนูเรียกหาฉัน?”
หลู่ซือหยีดูจากที่นั่งของกู้ฉางชิงแล้วเกาคาง “กู้ฉางซินกำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?”ดูท่าทางแล้วตั้งใจมาก
นี่มันไม่ใช่นิสัยของนางสักนิดเลยนะ
“ได้ยินมาว่ากำลังช่วยคุณชายแก้ภาพเขียนแบบค่ะ”
เสี่ยวเหลียนบอกอย่างระมัดระวัง ถ้าเขารับรู้ความคิดของหลู่ซือหยีสักนิดก็คงดี ในใจรู้สึกกลัวว่าเขาจะโทษตัวเองที่ไม่ได้รีบมารายงานให้ทันเวลา
“อะไรนะ?”
หลู่ซือหยีทำหน้าตกใจ วันนี้ตอนเช้าเขาก็เพิ่งจะได้ยินคุณน้าหมิงพูดถึงอยู่เหมือนกัน ว่าพี่จิงเหยาจะสร้างบริษัทออกแบบ
ธุรกิจออกแบบอาชีพนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการเบื้องหลังวิชาชีพเฉพาะทางที่มั่นคง อีกทั้งยังต้องมีความสามารถในการชื่นชมและพินิจพิเคราะห์คุณค่าได้อีกด้วย
ตอนที่เขาอยู่ตระกูลเฟิงตั้งแต่เล็กก็เจอเสื้อผ้าหรูหรามาเยอะ การแสดงบนรันเวย์ก็เห็นนับครั้งไม่ถ้วน ในใจรู้สึกว่าตนเองสามารถช่วยพี่จิงเหยาได้
เริ่มแรกเขายังคิดอีกว่าอาศัยจังหวะที่พี่จิงเหยาขาดกำลังคน ยื่นข้อเสนอจะช่วย
ถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่ทำให้พี่จิงเหยารู้สึกขอบคุณเขา การทำงานด้วยกันยังช่วยพัฒนาความรู้สึกอีกด้วย
แต่ตอนนี้พี่จิงเหยาเอาเรื่องสำคัญอย่างแปลนออกแบบมอบหมายให้คนที่ไม่ชำนาญอย่างกู้ฉางซิน
คนที่มีทิฐิ ใจแคบแบบนั้นจะไปเข้าใจอะไร?
“เหอะๆ น่าขำสิ้นดี!”
หลู่ซือหยียิ้มแหยๆ กู้ฉางซินเขาจะไปมีความสามารถอะไร
เขายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าพี่จิงเหยาเอาเรื่องสำคัญขนาดนี้มอบหมายให้เขา
แต่ว่านะดูทางนั้นที่กำลังสบายใจอยู่ กินองุ่นไปด้วย บางทีกู้ฉางชิงที่ตั้งใจในการแก้งาน ก็เหมือนจะใช้งานได้จริง
หลู่ซือหยีไม่อยากจะรอต่อไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา