สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 233

กู้ฉางฉิงเห็นข่าวเหล่านี้ ก็ตกตะลึง เกิดอะไรขึ้นกับมู่เฉาเกอ?

กู้ฉางซินบ้าไปแล้วหรอ?

เธอนึกถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเมื่อคืน

ที่เฟิงจิ่งเหยากลับมา สีหน้าย่ำแย่ขนาดนั้น ถึงกับไม่อยากเห็นเธอ

ต้องโกรธเธออย่างแน่นอน

เธอคิดๆดูแล้ว ก็โทรไปหากู้หงเซิน

"ข่าวบนอินเตอร์เน็ตเห็นแล้วหรือยัง? เมื่อคืนกู้ฉางซินไปทำอะไรไว้?"

เมื่อโทรศัพท์ถูกรับ เธอก็เอ่ยถามทันทีทันใด

"นี่คือท่าทีของคุณที่คุยกับพ่อหรอ?"

ใครจะคิดว่าถูกกู้ฉางฉิงรับสาย

เธอพูดตำหนิกู้ฉางฉิงก่อน จึงกลับไปพูดถึงเรื่องเมื่อคืน

"ฉันก็ไม่ได้ทำอะไร ก็แค่สั่งสอนผู้หญิงที่ไม่มีตาคนนั้น ให้เธอเลิกยุ่งกับสามีคนอื่น"

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำนี้ ก็ปวดหัวขึ้นมาทันที

ทั้งหมดนี้เป็นข่าวขึ้นมา ยังเรียกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกหรอ

"คุณเคยนึกถึงผลของการทำเช่นนี้ไหม?"

เธออดไม่ได้ที่จะบ่นว่า

ทว่าเดิมทีกู้ฉางซินก็ไม่ได้ฟังเลย กลับกันยังรังเกียจนิสัยขี้ขลาดขี้ระแวงของเธอ

"ผลที่ตามมา ผลอะไรล่ะ? นี่ฉันก็ปกป้องเป็นธรรมดา ก็คุณ มันไร้ประโยชน์ขนาดนี้ จึงถูกคนอื่นฉวยโอกาส ทั้งลู่ซือหยี่ แล้วก็มู่เฉาเกอ คุณก็ไม่สามารถหยิบการกระทำของคุณฐานะของคุณออกมาเลยหรอ?"

กู้ฉางฉิงได้ฟังคำพูดเถียงข้างๆคูๆนี้ ก็พูดไม่ออกเลย

"เดิมทีนี่มันไม่ใช่เรื่องเดียวกันนะ ถูกไหม? ฉัน……”

เธออยากจะพูดแก้ตัว แต่กู้ฉางซินก็ไม่อดทนอีกแล้ว

"ก็รู้ว่านิสัยอ่อนแอของตุณนี้ไม่ได้ช่วยอะไร ช่างเถอะ ฉันขี้เกียจพูดกับคุณแล้ว ฉันต้องขึ้นเครื่องแล้ว แค่นี้นะ"

พูดจบ เธอก็วางสายไป

กู้ฉางฉิงนอนอยู่บนเตียง มองโทรศัพท์ที่หน้าจอมืดไปแล้ว ได้แต่รู้สึกปวดหัวกับเรื่องนี้มาก สมองจะระเบิด

กู้ฉางซินไปแล้ว ทว่าทิ้งเรื่องยุ่งๆไว้ที่ให้เธอ

มู่เฉาเกอเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการที่มีชื่อเสียงมากในแวดวงการแฟชั่น แต่เธอเป็นักออกแบบที่มีชื่อเสียงเพียงเล็กน้อย

เธอเทียบกับมู่เฉาเกอได้ซะที่ไหนกัน?

ในทันที เธอก็คลุมด้วยเองไว้ในผ้าห่มอย่างหมดสภาพ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานแค่ไหนถึงได้สงบลงมาได้

เรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เธออยากจะหลบหนีก็เป็นไปไม่ได้ ได้แต่หาวิธีแก้ไขก็เท่านั้น

เธอคิดแล้ว ก็หยิบโทรศัพท์มาดูว่าเรื่องคืบหน้าถึงไหนแล้ว

ทว่าไม่คาดคิด เพิ่งจะเข้าweibo หน้าเพจของเธอถูกยึดไปแล้ว

ความคิดเห็นด้านล่างล้วนแต่ด่าเธอ อีกทั้งความเห็นเหล่านี้ยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด

กู้ฉางฉิงเห็นก็ร้อนรนใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอคิดถึงว่ามู่เฉาเกอมีแฟนคลับจำนวนมากหลายล้านคน เรื่องนี้หากว่าไม่ได้รับการจัดการที่สมบูรณ์แบบ เธอก็นับว่าจบสิ้นแล้ว

เธอนึกถึงตรงนี้ ก็นึกถึงกู้ฉางซินที่จากไปแล้ว โกรธจนอยากจะทุบโทรศัพท์ทิ้ง

แต่สติปัญญายังคงทำให้เธอสงบลงมา

สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้

เพียงแต่ชั่วขณะนี้ยังคิดหาวิธีที่ดีๆไม่ออก สุดท้ายเธอก็วางมันไว้ข้างๆชั่วคราว คิดว่าลุกขึ้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน

รอเธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วลงไปชั้นล่าง เฟิงจิ่งเหยาก็เริ่มทานอาหารที่ห้องอาหารแล้ว

เฟิงจิ่งเหยาได้ยินเธอลงมาชั้นล่าง ก็หยุดทานอาหารชั่วขณะ แล้วก็ทานต่อ เหมือนไม่เห็นเธอ

กู้ฉางฉิงเห็นเช่นนี้ รู้ว่าเขายังคงโกรธกับเริ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ชั่วขณะก็ทั้งน้อยใจทั้งจนปัญญา แต่เรื่องนี้เธอจำเป็นต้องแก้ไข

เธอกัดๆริมฝีปาก เดินไปข้างๆเฟิงจิ่งเหยาอย่างระมัดระวัง

"เอ่อ เมื่อคืนฉันดื่มเหล้าไปนิดหน่อย จึงได้ยั้งสติไม่อยู่เช่นนั้น"

เธอคิดถึงเหตุผลอยู่ไม่น้อย และก็รู้สึกว่านี่เป็นข้อแก้ตัวที่เชื่อถือได้เล็กน้อย

เฟิงจิ่งเหยาฟังคำพูดของเธอแล้ว ในที่สุดก็หยุดการกระทำในมือลง

เขาไม่ได้ตอบกลับกู้ฉางฉิงในทันที แต่กวาดสายตามองเธอ

ไม่นานเขาก็หยิบมือถือบนโต๊ะขึ้นมาแล้วพลิกดูข่าวของเช้านี้ วางลงตรงหน้าของกู้ฉางฉิง

"ดูท่าทางคุณแล้วไม่เหมือนคนเมาเลยนะ"

เขาชำเลืองมองรู้ภาพในมือถือ แล้วพูดกับกู้ฉางฉิง

กู้ฉางฉิงเม้มปาก มองไปยังรูปภาพในมือถือของเขา

ที่น่าโกรธเคืองคือภาพที่กู้ฉางซินกล่าวตำหนิมู่เฉาเกอได้อย่างเต็มปากเมื่อคืน หนังศีรษะตึงไปชั่วขณะ

ยังไม่รอให้เธอได้คิดว่าควรจะตอบกลับยังไง ก็ได้นินเฟิงจิ่งเหยาพูดต่อไปว่า: "อีกทั้งท่าทางที่คุณเมาฉันก็เคยเห็นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การพูดก็เลอะเลือน แต่คำพูดที่ฮึกเหิมของคุณเมื่อวาน และท่าทางที่เย่อหยิ่งมั่นใจในตนเอง นี่น่าจะไม่ใช่ท่าทางของคุณที่เมาใช่ไหม?"

ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เป็นประโยคคำถาม แต่กู้ฉางฉิงฟังแล้วเป็นการประชดประชันอย่างยิ่ง

เพียงเห็นใบหน้าที่ขาวซีดของเธอ ปากที่อ้ำๆอึ้งๆมองเฟิงจิ่งเหยาอย่างไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากยังไง

เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ได้เล่นละครตบตาไปได้ง่ายๆแบบนั้น

แต่ก็พูดตามความเป็นจริงไม่ได้

"ฉัน......"

เธอคิดที่จะแก้ตัวอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเฟิงจิ่งเหยาโบกไม้โบกมือตัดบท

"กู้ฉางซิน คุณไม่ต้องพยายามแก้ตัวกับฉันแล้ว ฉันเข้าใจแล้วว่า นี่ก็คือธาตุแท้ของเธอจริงๆใช่ไหม? ก็ทุกทรมานที่เก็บซ่อนมานานขนาดนั้น ตอนนี้ในที่สุดก็เก็บไม่อยู่แล้วใช่ไหม?"

"ไม่ใช่นะ!"

กู้ฉางฉิงโต้แย้งด้วยจิตสำนึก แต่พอเธอได้สบสายตาที่เย็นชาคู่นั้นของเฟิงจิ่งเหยา แต่คำพูดในปากทำไมถึงพูดไม่ออก

"ขอโทษ เมื่อคืนฉันไม่ควรทำแบบนั้น"

เธอดึงคำพูดที่อยากจะพูดเมื่อกี้กลับมา เปลี่ยนเป็นกล่าวขฉโทษ

คล้ายกับว่าขณะนี้ที่เธอกล่าวขอโทษ เธอพูดอะไรไปล้วนก็ไม่ถูกทั้งนั้น

เธอคิดถึงตรงนี้ ลึกๆในสายตาก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วนความรู้สึกน้อยใจ

เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็น ขมวดคิ้วแน่น ในสายตาไม่เข้าใจ

เขาไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้กำลังน้อยใจอะไร?

หรือว่าเธอคิดว่าตนเองไม่ได้ผิด?

เขานึกถึงความเย่อหยิ่งอวดดีของผู้หญิงคนนี้เมื่อคืน รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้เธอได้แสดงต่อหน้าเขาแล้ว

ช่วงเวลาหนึ่ง สีหน้าของเขาก็ไม่พอใจอย่างมาก กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า: "ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณผิดจริงๆ คุณก็น่าจะรู้ว่า คนที่คุณต้องกล่าวขอโทษไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเฉาเกอ"

เขาพูดพลาง ส่งสายตาที่เยือกเย็นมองไปยังกู้ฉางฉิง

"คุณก็รู้ว่าเหตุที่เธอไปปรากฎตัวที่นั่นเมื่อคืน ก็เพื่อช่วยบริษัทเจรจาใบรายการของSanti Carmen ด้วยเหตุนี้ฉันจึงไปออกงานกับเธอ แต่กลับกันคุณ เข้ามาจู่โจมคนอย่างไม่แยกแยะอะไรถูกอะไรผิด คุณรู้ไหมว่าเรื่องนี้มันส่งผลกระทบอันเลวร้ายออกไปอย่างมาก?"

กู้ฉางฉิงอยากจะพูดว่าทราบแล้ว

แต่เฟิงจิ่งเหยาไม่ให้โอกาสเธอได้พูด

"ช่างเถอะ เรื่องนี้ฉันจัดการได้ แต่ก็หวังว่าคุณจะรับรู้ความผิดพลาดของตนเองนะ อย่าให้มีครั้งต่อไปอีก!"

เขาพูดจบ ก็ไม่มองกู้ฉางฉิง แล้วลุกขึ้นออกไปโดยตรง

กู้ฉางฉิงเห็นภาพด้านหลังเขาที่ออกไป แล้วกลับไปคิดถึงคำพูดเมื่อกี้ ก็ไม่สบายใจแล้วก็น้อยใจอย่างมาก

ชัดเจนว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้กู้ฉางซินล้วนเป็นคนทำ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องมาเก็บกวาดเรื่องยุ่งๆนี้

เธอนั่งน้ำตาคลออยู่ที่ห้องอาหาร

สุดท้ายเธอไม่อยากอาหารจริงๆ เรียกพ่อบ้านมาเก็บไป ด้านของตนเองวางแผนที่จะไปบริษัท

แต่คาดไม่ถึงว่าพอเดินไปถึงหน้าประตู ก็เห็นคุณนายเฟิงพาคนเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ดุดัน

"แม่ คุณมาได้ยังไง?"

เธอแปลกใจเล็กน้อย กล่าวถามทักทายออกไปอย่างสุภาพ

แต่ทว่าคุณนายเฟิงเห็นเธอ ก็ไม่ได้ตอบกลับ แต่ขณะที่เธอไม่ได้มีการตอบสนอง ก็ยกฝ่ามือขึ้นแล้วตบลงมาโดยตรง

เสียงดัง 'เพี๊ยะ' ชัดเจนอย่างมากที่บริเวณหน้าประตูนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา