"เธอไม่ต้องมาสอนฉัน!" เวินเฉี่ยนเยาะเย้ย "ตอนนี้เธอสะใจมากเลยใช่ไหม ถึงแม้ว่าฉันจะได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันนักออกแบบ ฉันอยู่ที่ปารีสมาสามปี แต่ก็ยังเทียบเธอไม่ได้กับ หยุดเสแสร้งได้แล้ว เธอคงแอบหัวเราะเยาะฉันอยู่ใช่ไหม"
หร่วนซิงหว่านพูด "เธอน่าตลกจริงๆ แต่ฉันไม่เคยคิดที่จะเทียบกับเธอ มีแค่เธอที่เอาแต่แข่งกับฉันเอง ด้านหนึ่งเธอก็รู้ว่าความสามารถของเธอสู้ฉันไม่ได้ อีกด้านหนึ่งเธอก็รู้สึกว่าเธอไปเรียนอะไรมากมายมาจากปารีส ฉันก็ควรจะด้อยกว่าเธอ"
เธอพูดต่อว่า "ไม่ว่าจะเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งของการแข่งขันนักออกแบบ หรือโอกาสที่ได้ไปเรียนที่ปารีส มันก็ล้วนแต่เป็นเรื่องของสามก่อน คนที่เอาแต่พูดเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อยมันไปก็คือเธอ"
เวินเฉี่ยนพูด "เธออย่าพูดอย่างกับว่าตัวเองน่าเคารพนัก ใครๆก็รู้ว่าตอนนั้นเธอทิ้งโอกาสนี้ไปก็เพราะเงิน หรือว่าเธอคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าฉันเหรอ ฉันไม่คิดว่าผลงานที่ฉันออกแบบเทียบเธอไม่ได้ แต่ฉันแค่โชคไม่ดีเท่าเธอ"
หร่วนซิงหว่านยิ้มอ่อน เธอไม่เถียงกับเวินเฉี่ยนต่อ หันหลังเดินออกไปทันที
ต้องขอบคุณเวินเฉี่ยน ไม่เช่นนั้นชาตินี้เธอคงไม่มีทางได้ยินคนอื่นบอกว่าเธอโชคดี
หลังจากที่หร่วนซิงหว่านเดินออกไปแล้ว เวินเฉี่ยนก็กัดริมฝีปากของตัวเอง มองไปกล่องสร้อยคอในถังขยะแล้วหรี่ตาลง
......
ทันทีที่เดินมาถึงหน้าประตู หร่วนซิงหว่านก็ถูกหลินซือเรียกไว้
หลินซือบอกว่า "คุณRuanคุณมาพอดีเลย ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ"
ตระกูลจี้จะจัดงานเลี้ยงเพื่อการกุศล รวบรวมเครื่องประดับของบรรดาคุณนายคุณหนูมาประมูล เงินที่ประมูลได้ทั้งหมดจะนำไปใช้เพื่อการกุศล
และในฐานะนิตยสารเครื่องประดับชั้นนำในประเทศ นิตยสารเซิ่งกวางก็ต้องได้รับคำเชิญนี้อย่างแน่นอน
หลินซือปรึกษากับบอสแล้ว ขั้นแรกให้เซิ่งกวางเอาเครื่องประดับอัญมณีที่เก็บไว้นานแล้วออกมาร่วมประมูลในงานเลี้ยงครั้งนี้ จากนั้นก็ให้หร่วนซิงหว่านและเวินเฉี่ยน เอาผลงานของตัวเองออกมาประมูล แบบนี้ไม่เพียงช่วยให้นิตยสารเซิ่งกวางได้หน้า แล้วยังช่วยให้นักออกแบบทั้งสองคนมีชื่อเสียงในวงการเครื่องประดับในประเทศมากขึ้นอีกด้วย ต่อไปลูกค้าที่มีชื่อเสียงก็จะมากขึ้น
แต่งานเลี้ยงเพื่อการกุศลที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด
หลินซือพูด "ผลงานที่เอามาร่วมในการประมูลครั้งนี้สามารถเป็นผลงานที่คุณออกแบบไว้ก่อนหน้านี้ ประเภทไหนก็ได้หมด"
หร่วนซิงหว่านพยักหน้า "ฉันรู้แล้วค่ะ"
......
หลังจากกลับมาถึงบ้าน หร่วนซิงหว่านนั่งแก้ภาพร่างออกแบบของหลินจืออี้ที่โต๊ะหนังสือ แก้ไปแก้มา เธอก็นึกถึงเรื่องที่หลินซือพูดวันนี้
ตั้งแต่เธอแต่งงานกับโจวฉือเซิน จนกระทั่งเธอหย่ากันแล้ว ก่อนที่จะไปทำงานที่นิตยสารเซิ่งกวาง เธอก็ไม่เคยจับปากกาอีกเลย ดังนั้นสามปีก่อนเธอไม่มีผลงานอะไรทั้งนั้น แล้วผลงานก่อนหน้าสามปีนี้... หันกลับไปมองตอนนี้ มองยังไงก็ไม่พอใจ
แต่เมื่อเธอมีแรงบันดาลใจเธอมักจะวาดไว้ในสมุดภาพร่าง
หร่วนซิงหว่านพลิกสมุดดู และหน้ากระดาษที่เธอจดจำได้ลึกซึ้งที่สุดก็คือหน้าที่ถูกฉีดออกไป
เธอถอนหายใจเบาๆ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจุดจบของหน้านั้นเป็นยังไง มันคงถูกโจวฉือเซินโยนลงถังขยะบนถนนอานเฉียวไปตั้งนานแล้ว
หร่วนซิงหว่านพลิกสมุดอยู่โต๊ะอย่างไม่มีเป้าหมาย และเธอก็ไม่ระวังไปโดนอะไรตกลงมา
เมื่อยื่นมือไปหยิบขึ้นมา ก็เห็นว่ามันคือนาฬิกาพกของหร่วนจุน
หร่วนซิงหว่านเปิดนาฬิกา มองดูรูปถ่ายของคนสามคนที่อยู่ข้างใน ใช้นิ้วถูกที่ขอบเบาๆ ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร
ผ่านไปไม่นาน เธอก็วางนาฬิกาลง เปิดสมุดวาดภาพและเริ่มวาดภาพ
หลังจากวาดภาพร่างเสร็จแล้ว หร่วนซิงหว่านก็บิดขี้เกียจ
มองดูเวลาก็ห้าทุ่มแล้ว
หลังจากเหตุการณ์ครั้งก่อน ป้าจางก็ไม่เรียกเธออีก แต่เธอจะเอาอาหารเย็นวางไว้ในหม้อแล้วใช้ไฟอ่อนอุ่นอยู่ตลอด
เมื่อหร่วนซิงหว่านลงไปกินมันก็จะพอดี
เมื่อเธอกินข้าวเสร็จมันก็เที่ยงคืนแล้ว
โจวฉือเซิน ยงไม่กลับมา
หร่วนซิงหว่านลังเลไปพักหนึ่ง แต่ก็ตัดสินใจส่งข้อความถึงหลินหนาน [โจวฉือเซินยังอยู่ที่บริษัทอยู่เหรอ?]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...