หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้แล้ว โจวอานอานก็รู้สึกว่าเลือดที่ไหลเวียนทั่วร่างกายถูกแช่แข็งไปหมดแล้ว เธอหันหน้าไปอย่างแข็งทื่อ ลิ้นของเธอก็เหมือนกำลังถูกผูกเป็นปม ซึ่งทำให้เธอพูดอะไรไม่ออกสักคำ
ในเวลานั้นเอง เสียงของโจงเสียนก็ดังขึ้นมาจากบันไดว่า "เรื่องมันก็ผ่านมาสามปีแล้วนะ และเรื่องพวกนี้มันยังน่าสนใจจนต้องเอามาพูดอีกในตอนนี้เชียวหรือ?"
โจวอานอานพยักหน้าคล้อยตามอย่างสุดชีวิต
โจวฉือเซินเหลือบมองโจงเสียน แล้วยกมุมปากขึ้น รอยยิ้มของเขาเย็นชาเป็นอย่างมาก "ผมคนนี้เป็นคนที่มีแค้นต้องชำระมาแต่ไหนแต่ไร อย่าว่าแต่เมื่อสามปีก่อนเลยครับ ต่อให้ผ่านมาสามสิบปีแล้ว ผมก็จะสามารถคิดบัญชีให้หมดไปได้ทีละบัญชี"
โจงเสียนพูดขึ้นมาอีกว่า "แล้วเธอมีหลักฐานไหม?"
โจวฉือเซินหัวเราะเยาะขึ้นมา หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็พูดว่า "ได้"
เขาหันหลังมากำชับว่า "ต่อจากนี้ไป ถ้าเห็นโจวอานอานก้าวออกไปจากประตูบ้านตระกูลโจว ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ก็ไม่ต้องบอกฉัน ให้ตัดขาของเธอได้เลย"
โจวอานอานดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความคาดไม่ถึง แล้วพยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย "คุณน้า....."
โจวฉือเซินหันหน้าไปมองโจงเสียน แล้วพูดว่า "ผมจะไปหาหลักฐานให้คุณ และผมจะไม่ปล่อยคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปแม้แต่คนเดียว"
การแสดงออกทางสีหน้าของโจงเสียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่มือที่วางไว้บนราวบันไดกลับค่อยๆกระชับขึ้น
โจวฉือเซินถอนสายตากลับ แล้วสาวเท้าก้าวใหญ่ๆเดินออกไป
หลังจากที่เงาร่างของเขาหายไปจากสายตาของเขาแล้ว ท่านใหญ่โจวก็กระทุ้งไม้เท้าในขณะที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า "อานอาน บอกฉันมาตรงๆ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรกันแน่"
......
ภายในรถโรลส์-รอยซ์สีดำ
หลินหนานถามว่า "ประธานโจวครับ เรื่องราวมันก็ผ่านไปสามปีแล้ว ทางนายหญิงก็ได้จัดการหลักฐานทั้งหมดจนเกลี้ยงไปตั้งนานแล้ว เราอาจจะไม่พบอะไรเลยนะครับ......"
โจวฉือเซินไม่รู้สึกประหลาดใจอะไรเลย เขาเพียงแต่พูดว่า "สามปีก่อนหาไม่เจอ งั้นก็หาอันที่ใกล้ที่สุดสิ"
"ประธานโจวหมายถึงเรื่องอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ของคุณนายเหรอครับ?"
ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกคนมองปราดเดียวต่างก็มองออกว่าเป็นฝีมือของโจงเสียน แต่ปัญหาก็คือ พวกเขาไม่มีหลักฐานที่สอดคล้องกับความเป็นจริงใดๆเลย
โจวฉือเซินพูดว่า "เป็นไปไม่ได้ที่ลูกน้องพวกนั้นของโจงเสียนจะตายไปหมดแล้ว ตามหาต่อไป"
"ครับ"
ผ่านไปสักพัก โจวฉือเซินก็พูดขึ้นมาอีกว่า "จับตาดูโจวอานอานเอาไว้ ไม่แน่ว่าช่องโหว่ที่ใช้ในการโค่นล้มโจงเสียนอาจจะอยู่ที่เธอก็ได้"
หลินหนานถามหยั่งเชิงออกไปว่า "งั้นถ้าคุณหนูอานอานออกจากบ้านตระกูลโจวแล้ว จะต้อง......"
"ฉันดูเหมือนคนที่กำลังพูดล้อเล่นอยู่งั้นเหรอ?"
หลินหนานพูดด้วยท่าทางที่เคร่งขรึมจริงจังขึ้นมาในทันทีว่า "โอเคครับ"
โจวฉือเซินลดกระจกหน้าต่างรถลง แล้วพูดอย่างฉุนเฉียวว่า "พักนี้เฉิงเว่ยกับหร่วนซิงหว่านได้เดินใกล้กันมากหรือเปล่า? โจงเสียน"
"นี่......ผมจะไปลองตรวจสอบดูเดี๋ยวนี้ครับ"
"ไม่ต้องแล้ว" โจวฉือเซินพูด "ตรงไปที่สตูดิโอเลย"
หลินหนาน "......"
เขากระแอมไอหนึ่งครั้ง แล้วพูดว่า "ประธานโจวครับ ตอนนี้สตูดิโอน่าจะปิดแล้วนะครับ"
โจวฉือเซินขมวดคิ้ว "งั้นก็ไปบ้านของเธอ"
"ถ้าพวกเราผ่านไปแบบนี้ คุณนายจะต้องโกรธแน่นอน......"
สีหน้าของโจวฉือเซินดูไม่ได้เป็นอย่างมาก "แล้วจะทำยังไงดี"
หลินหนานคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นแสงของความคิดที่เฉียบแหลมก็เปล่งประกายขึ้นมา "เราก็หาข้ออ้างโดยการลองถามคุณนายว่าเครื่องประดับที่สั่งทำเรียบร้อยแล้วหรือยังก็ได้หนิครับ"
"ถ้ารีบถามเธอก็จะยิ่งโกรธนะ"
เช่นนั้นดูท่าว่าข้ออ้างนี้ใช้ไม่ได้ผลเสียแล้ว
หลินหนานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาอีกว่า "ประธานโจวครับ คุณจะไปพบคุณนายตอนนี้ไหมครับ?"
โจวฉือเซินยกเปลือกตาขึ้น แล้วมองเขาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
หลินหนานจึงยอมล่าถอย แล้วพูดว่า "ผมหมายถึง ตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว คุณนายอาจจะพักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้พวกเราค่อยหาเหตุผลที่เหมาะสมกว่านี้จะดีกว่านะครับ......"
โจวฉือเซินไม่ได้พูดอะไรแล้ว
ในขณะที่หลินหนานกำลังคิดว่าในที่สุดก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกได้นั้น กลับได้ยินเขาพูดขึ้นมาว่า "เอาโทรศัพท์ของคุณมาให้ผม"
อีกด้านหนึ่ง
ทันทีที่หร่วนซิงหว่านเพิ่งจะวาดแบบร่างเสร็จ ก็เห็นหน้าจอโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะกะพริบขึ้นมา
และหมายเลขโทรศัพท์ที่แสดงด้านบนหน้าจอนั้นเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย
หร่วนซิงหว่านยืดคอขึ้นไปมองสักครู่หนึ่ง ลุกขึ้นเดินไปรับสายที่ระเบียง แล้วก็ถอนหายใจออกมาและพูดว่า "สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...