วันต่อมา หร่วนซิงหว่านตื่นขึ้นมาตอนเที่ยงด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว
เพ้ยซานซานเห็นแบบนี้ก็ตกใจ "ซิงซิงเธอเป็นอะไร?"
หร่วนซิงหว่านหาว "ไม่ได้เป็นอะไร ฉันวาดแบบร่าง พึ่งนอนตอนเจ็ดโมงเช้า"
"เธอทำงานหนักขนาดนี้เลยเหรอ ฉันจำได้ว่ายังมีเวลาอยู่หนิ"
หร่วนซิงหว่านนั่งบนโซฟา มองไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย "ยังไงฉันก็นอนไม่หลับ"
เมื่อคืนเธอหงุดหงิดมาก พึ่งจะสงบสติอารมณ์วาดแบบร่างได้ตอนตีสอง เธอเลยไม่ได้สนใจเวลา
เพ้ยซานซานปอกส้มให้เธอลูกหนึ่ง หันไปมองกล่องกระดาษใหญ่ที่ยังกองอยู่ในห้อง "เธอคิดออกรึยังว่าจะจัดการของพวกนี้ยังไง"
หร่วนซิงหว่านกวาดตาไปมอง ก้มหน้าลงพักหนึ่งแล้วพูดว่า "เสื้อผ้าเอาไปบริจาค เครื่องประดับก็ส่งกลับไป"
เพ้ยซานซานมองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง "บริจาคให้ฉันดีกว่า"
"..."
หร่วนซิงหว่านยิ้ม "เธอเอาไปเถอะ"
"ช่างเถอะ" เพ้ยซานซานเบะปาก "ถ้าโจวฉือเซินรู้เข้าคงจะถลกหนังฉัน"
เธอก็แค่ล้อเล่น
หร่วนซิงหว่านครุ่นคิด จากนั้นก็มองไปที่กล่องพวกนั้นอีกครั้ง
พูดตามตรง เสื้อผ้าพวกนั้นแค่ดูดีแต่ไม่ทนทาน เอาไปบริจาคก็ไม่มีความหมายอะไร
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง หร่วนซิงหว่านก็ลุกขึ้น "ซานชาน ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวเราไปข้างนอกกัน"
"ไปไหน"
"เสื้อผ้าพวกนี้ยังมีป้ายราคาอยู่ เอาไปขายลดราคาที่ร้านคงจะได้เงินไม่น้อย"
สายตาของเพ้ยซานซานเป็นประกาย "ใช่สิ ทำไมฉันถึงคิดไม่ออก!"
ตอนที่หร่วนซิงหว่านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพ้ยซานซานก็แยกเสื้อผ้าของแต่ละแบรนด์ออกจากกันอย่างรวดเร็ว
เมื่อพวกเธอมาถึงร้านสินค้าฟุ่มเฟือยร้านแรก พนักงานเห็นพวกเธอถือกล่องเสื้อผ้าเข้ามา เธอก็ตกใจ "คุณผู้หญิง พวกคุณ?"
หร่วนซิงหว่านยิ้ม อธิบายเจตนาของตัวเองอย่างสุภาพ
พนักงานพูดว่า "คุณผู้หญิงกรุณารอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันไปบอกผู้จัดการร้านมาจัดการให้คุณค่ะ"
"โอเคค่ะ รบกวนคุณแล้ว"
พนักงานเดินออกไปแล้ว เพ้ยซานซานมองดูเสื้อผ้าที่อยู่ในร้าน พลิกป้ายราคามาดู จากนั้นพลิกกลับอย่างรวดเร็ว ตบตรงที่ตัวเองจับเมื่อกี้เบาๆ
เสื้อผ้าที่โจวฉือเซินส่งมา ถึงแม้ว่าจะมีป้ายราคา แต่มันไม่ได้เขียนราคาเอาไว้
ถึงแม้ว่าเพ้ยซานซานจะรู้ว่าราคามันไม่ธรรมดา แต่เธอก็คิดไม่ถึงว่าจะแพงขนาดนี้
ก็แค่เสื้อสายเดี่ยวตัวบางๆ ราคาแพงกว่าเลนส์กล้องของเธอซะอีก
เพ้ยซานซานหันกลับมาพูดเบาๆ "ซิงซิง แค่เสื้อผ้ากล่องนี้กล่องเดียวก็คงจะหลายแสน ยิ่งไปกว่านั้น ในรถของเรายังมีกล่องของแบรนด์อื่นอีกตั้งหลายกล่อง... ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเครื่องประดับพวกนั้น ในเมื่อโจวฉือเซิน ไอ้สารเลวคนนั้นใจกว้างกับเธอขนาดนี้ แล้วทำไมหย่ากันแล้วถึงให้เธอคืนเงิน"
หร่วนซิงหว่านพูด "เงินพวกนั้น ฉันยืมเขามา เขามีหนังสือรับรองหนี้สิน"
"แต่ว่าบางครั้งฉันคิดว่าเขาเป็นคนลึกลับ ทำให้คนอื่นเดาไม่ออกมาเขากำลังคิดอะไรอยู่"
หร่วนซิงหว่านเม้มปากยิ้ม แต่ก็ไม่พูดอะไร
ในตอนนี้เอง พนักงานก็พาผู้จัดการร้านเดินออกมา
ผู้จัดการร้านบอกว่า "คุณผู้หญิง เราเข้าใจสถานการณ์ของคุณแล้ว ผมอยากจะยืนยันกับคุณอีกครั้ง เสื้อผ้าทั้งหมดนี้ คุณไม่อยากได้แล้วใช่ไหมครับ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...