หร่วนซิงหว่านเอ่ยพูดขึ้นมาอีกว่า "แน่ใจนะว่าครึ่งเดือนก่อน?"
ไม่รอให้เด็กหญิงตอบกลับ หญิงวัยกลางคนก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน "เกี่ยวอะไรกับเธอซื้อตอนไหน ถึงยังไงของก็ขายจากร้านพวกแก แค่คืนเงินกับจ่ายค่าชดใช้มาก็หมดเรื่องแล้ว จะพูดมากให้เปลืองน้ำลายทำไม"
หร่วนซิงหว่านมองสร้อยคอที่พังไปแล้วนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น จากนั้นก็เอ่ยถามเด็กหญิงต่อ "งั้นน้องจำได้ไหมว่าใครเป็นคนขายให้ พี่สาวคนเมื่อกี้หรือว่า...."
เด็กสาวเอ่ยตอบในทันที "ใช่ค่ะ พี่คนนั้น"
"แล้วตอนนั้นน้องซื้อไปเท่าไหร่?"
"หนู...หนูจำไม่ได้แล้ว....."
หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ "ถามจบหรือยัง ของราคาแค่ไม่เท่าไหร่ ต้องขนาดนี้เลยเหรอ เปิดร้านใหญ่ขนาดนี้ แกก็คงไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงินหรอกใช่ไหม รีบๆคืนเงินมาซะก็จบๆ"
หร่วนซิงหว่านหัวเราะนิ่งๆ "ถ้าไม่ถามให้รู้ว่าราคาเท่าไร่ แล้วจะคืนเงินให้คุณได้ยังไง?"
หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้น "ไหนๆแกก็ต้องจ่ายค่าทำขวัญกับค่าเสียเวลาให้ฉันแล้ว คิดรวมๆกันก็ได้ แกจะแบ่งยิบย่อยไปทำไม"
"คุณอยากได้เท่าไหร่"
"ไม่มากหรอก สักสองสามหมื่น"
หร่วนซิงหว่านหลุดขำออกมา "สองสามหมื่น?"
หญิงวัยกลางคนพูดขึ้น "เงินแค่นี้ไม่มากหรอก ลูกสาวของฉันยังเรียนอยู่ วันนี้ไม่ใช่แค่เสียเวลาเรียนของเธออย่างเดียวถ้าเกิดกลับไปแล้วเธอเรียนไม่ทัน สอบเข้ามหาลัยดังๆไม่ติด หางานดีๆไม่ได้ แบบนั้นก็เสียหายหลายแสนน่ะสิ เงินที่ฉันขอกับแกไปถือว่าน้อยมากๆแล้วนะ"
"ได้สิ"
หร่วนซิงหว่านพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา
ในตอนที่หญิงวัยกลางคนกำลังยื่นคิวอาร์โค้ดให้สแกนด้วยใบหน้าลำพองใจ กลับพบว่าหร่วนซิงหว่านกำลังกดโทรหาตำรวจ
"นี่ แก...."หญิงวัยกลางคนมีท่าทีร้อนรนขึ้นมา "ถ้าแกคิดว่าราคามันสูงเกินไป เรามาเจรจากันใหม่ก็ได้ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าเรื่องถึงตำรวจ ฉันไม่จบง่ายๆแน่ ที่จะเสียคือชื่อเสียงของแกนะ"
หร่วนซิงหว่านไม่สนใจเธอ เล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจในสายฟังคร่าวๆ
หลังจากที่วางสาย เธอก็หยิบสร้อยคอขึ้นมา เอ่ยพูดอย่างเรียบนิ่งว่า "ข้อแรก สร้อยเส้นนี้ถูกออกแบบมาประมาณสิบกว่าวัน วางขายในร้านอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ ข้อสอง ผู้หญิงที่ถูกคุณผลักเมื่อกี้ ลาหยุดไปเมื่อหลายวันที่ผ่านมา เพิ่งกลับมาทำงานเมื่อวาน"
เมื่อหญิงวัยกลางคนเห็นว่าแผนมีรอยรั่ว ก็เริ่มโวยวายออกมา "ฉันไม่สนเรื่องพวกนี้หรอกนะ ฉันรู้แค่ว่าของซื้อมาจากร้านพวกแก และแกก็ต้องชดใช้ให้ฉัน!"
หร่วนซิงหว่านเอ่ยพูด "ฉันไม่รีบค่ะ มีเรื่องอะไรค่อยไปคุยกันที่สถานีตำรวจ"
หญิงวัยกลางคนหันไปตะคอกด่าเด็กหญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ"ไม่ได้เรื่อง ทำไมไม่รู้ว่าตัวเองซื้อตอนไหน"
ขณะที่พูด ก็ออกแรงจิ้มหัวของเธอไปด้วย "ไม่แปลกใจทำไมแกทำคะแนนได้ไม่ดี ในสมองมีแต่ขี้เลื่อยล่ะสิท่า ถ้าตำรวจมา แกต้องพูดมันออกมาให้หมด!!"
เด็กหญิงยืนอยู่กับที่ ก้มหน้าลงเงียบๆ ปล่อยให้ผู้เป็นแม่ทั้งด่าทั้งตี
หร่วนซิงหว่านเพิ่งสังเกตเห็นว่า เสื้อนักเรียนของเด็กหญิงขาวซีด ทั้งๆที่เป็นหน้าหนาว แต่ภายใต้ชุดนักเรียนบางๆเธอกลับสวมแค่เสื้อไหมพรมตัวเดียว รองเท้าที่ใส่ก็เป็นรองเท้าผ้าใบเก่าๆธรรมดา ทว่ากลับดูสะอาดสะอ้าน แตกต่างจากผู้เป็นแม่ ซึ่งรูปร่างอ้วนอวบ ใส่เสื้อขนมิงค์อย่างสิ้นเชิง
เด็กแบบนี้ ไม่น่าจะรักสวยรักงามอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนต้องขโมยเงินพ่อแม่มาซื้อเครื่องประดับแน่นอน
จริงๆแล้วถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ในคำพูดของพวกเธอ เต็มไปด้วยพิรุธ
แต่หร่วนซิงหว่านไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกเธอต้องโกหกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...