หร่วนซิงหว่านลุกจากบนตักเขา โน้มตัวเล็กน้อย ใช้ถุงน้ำแข็งประคบไปที่ใบหน้าที่ยังมีรอยเล็บจางๆ ของเขา
โจวฉือเซินเอามือวางอยู่บนหัวเข่า นิ้วมือเรียวยาวคอยเคาะอยู่ทีแล้วทีเล่าเบาๆ นัยน์ตาสีดำมองดูเธอเงียบๆ
หร่วนซิงหว่านถูกเขามองหงุดหงิดอารมณ์เสีย ได้ส่งเสียงเตือน:"ประธานโจว คุณหลับตาได้มั้ยคะ"
"ตอนอยู่บนรถคุณแอบมองผมอยู่ตั้งนาน ผมยังไม่ให้คุณหลับตาเลย?"
"......"
ไอ้ผู้ชายเฮงซวยน่ารำคาญจริงๆ
เธอแกล้งมือหนักขึ้น เอาถุงน้ำแข็งแนบที่ใบหน้าเขาแน่นๆ
สีหน้าของโจวฉือเซินเปลี่ยนเล็กน้อย ตอนที่เขาจะโกรธ หร่วนซิงหว่านได้ดึงมือกลับอย่างไว:"น่าจะโอเคแล้วค่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ประธานโจวรีบพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันกลับห้องแล้ว"
หร่วนซิงหว่านเพิ่งหันหลัง ข้อมือก็ถูกกุมไว้อีกครั้ง
สีหน้าของโจวฉือเซินค่อนข้างไม่พอใจ:"จะไปแบบนี้เลยเหรอ?"
"ไม่งั้นจะให้อยู่ทานมื้อดึกต่อรึไงคะ"
"ได้" ระหว่างที่โจวฉือเซินพูด ก็ได้ล้วงมือถือออกมาจากโซฟา ในขณะที่เขากำลังจะโทรออก หร่วนซิงหว่านได้รีบห้ามเขาไว้ "ฉันล้อเล่นค่ะ ล้อเล่น!"
ไอ้ผู้ชายเฮงซวยทำแต่เรื่องชั่วๆ
โจวฉือเซินผลักแก้วเหล้าบนโต๊ะน้ำชาไปที่ตรงหน้าเธอ:"ดื่มสักแก้วมั้ย?"
หร่วนซิงหว่านหัวเราะอย่างเย็นชาสองที:"ประธานโจวนึกว่าลูกไม้เดิมๆ ฉันจะหลงกลเป็นครั้งที่สองเหรอคะ"
"ผมก็คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะคออ่อนขนาดนี้"
หร่วนซิงหว่านขี้เกียจสนใจเขา ได้ดึงมือออกมาจากฝ่ามือของเขา:"พรุ่งนี้ฉันยังต้องตื่นเช้าอีก ประธานโจวเชิญตามสบายนะคะ"
พูดจบ เธอได้ตรงดิ่งไปที่ประตู
โจวฉือเซินมองดูร่างเงาของเธอ หยิบวิสกี้ขึ้นมาและพิงไปที่โซฟาใหม่ ริมฝีปากบางได้ยกขึ้นเป็นองศา
กลับมาถึงที่ห้อง หร่วนซิงหว่านเห็นเพ้ยซานซานส่งข้อความให้เธอ ถามว่าเธอถึงหรือยัง ถึงนึกขึ้นได้ว่าผ่านเรื่องวุ่นวายที่สนามบินในก่อนหน้านี้ เธอลืมรายงานความปลอดภัยกับพวกเขาเลย
หร่วนซิงหว่านได้โทรศัพท์ออกไป หลังจากพูดคุยไปไม่กี่คำ เพ้ยซานซานพบว่าเธอพูดจาอ้ำๆ อึ้งๆ เลยถามหยั่งเชิงว่า:"เธอคงไม่ใช่เจอโจวฉือเซินที่นั่นอีกแล้วนะ?"
หร่วนซิงหว่าน:"......"
อะไรจะเดาแม่นขนาดนั้น
เพ้ยซานซานเห็นเรื่องนี้บ่อยจนมองเป็นเรื่องปกติแล้ว
เธอได้พูดว่า:"แล้วครั้งนี้ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นหาข้ออ้างอะไรอีกล่ะ"
หร่วนซิงหว่านส่ายหัว:"ครั้งนี้เขาไม่ได้ตามฉันมาจริงๆ "
หยุดไปครู่หนึ่ง หร่วนซิงหว่านได้พูดว่า:"ฉันยังเจอโจวอานอานด้วย"
เพ้ยซานซานฟังแล้วอดช็อกไม่ได้:"ทำไมหล่อนก็อยู่ที่นั่นด้วย?"
ตอนที่หร่วนซิงหว่านกับเฉิงเว่ยไปบ้านท่านจิ้น เคยได้ยินพ่อแม่ของโจวอานอานบอกว่าโจวอานอานถูกกักขังอยู่ในตระกูลโจว
อีกอย่างหลินหนานก็เคยบอกกับเธอเหมือนกันว่า โจวฉือเซินรู้ว่าสาเหตุที่พวกเขาสูญเสียลูกคนแรกไปคือเพราะโจวอานอาน
ตระกูลโจวกับตระกูลโจงคงจะกลัวว่าโจวฉือเซินจะไปคิดบัญชีกับโจวอานอาน ถึงได้ทำให้เป็นเรื่องโตที่อยากจะส่งคนไป
เพียงแต่ที่คิดไม่ถึงคือ บังเอิญบังเอิญ ไม่นึกเลยว่าพวกเธอจะเจอกันที่เมืองอานเฉิง
นี่ก็คงเป็นโชคชะตาสินะ
เหตุที่โจวฉือเซินก็ตามมาที่เมืองอานเฉิง คาดว่าคงได้รับข่าวสารที่โจวอานอานจะจากไป
เพ้ยซานซานถาม:"ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นเตรียมจะจัดการโจวอานอานยังไง?"
"ฉันไม่ได้ถามเขา"
"แต่ไม่ว่าจะยังไง ล้วนเป็นโจวอานอานนังผีบ้าคนนั้นทำชั่วได้ชั่วเอง ได้รับผลกรรมยังไงก็สมน้ำหน้าอยู่แล้ว"เพ้ยซานซานไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ทำให้คนอารมณ์เสียพวกนี้อีก แต่ได้เปลี่ยนประเด็น "คืนนี้เธอพักอยู่ที่ไหน ไม่ใช่บ้านคุณน้าที่เธอพูดถึงเหรอ"
หร่วนซิงหว่านพูด:"เวลาดึกเกินไป ฉันเลยมาพักที่โรงแรมโดยตรง"
หลังจากคุยไปอีกไม่กี่คำ ก็ได้จบสายสนทนา
หร่วนซิงหว่านเอาเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเข้าไปในห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จออกมา ตอนที่กำลังเป่าผมอยู่ จู่ๆ เธอพบว่าริมฝีปากของตัวเองไม่รู้ถลอกตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ตกสะเก็ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เธอเขยิบเข้าไปดูที่กระจกใกล้ๆ พบว่ารอบแผลยังมีรอยฟันด้วย
ทีนี้ดีแล้วนี่ ไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าได้ทิ้งรอยฟันไว้ตั้งแต่ตอนไหน
หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่าฉาดนั้นตบเบาไปจริงๆ
......
เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนที่หร่วนซิงหว่านทานอาหารเสร็จลงไปชั้นล่าง ตอนที่เตรียมจะนั่งรถไปที่ถนนอานเฉียว กลับพบว่าหลินหนานได้รออยู่ที่นั่นด้วยรอยยิ้มแล้ว
และในรถMaseratiสีดำที่อยู่ข้างหลังเขา ยังมีโจวฉือเซินไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นนั่งอยู่
หลินหนานพูดจามั่วซั่ว:"คุณหร่วนครับ ตอนนี้เป็นช่วงที่รถติดที่สุดในตอนเช้า เรียกรถไม่สะดวก พวกเราก็กำลังจะไปอยู่พอดี แวะส่งคุณดีกว่าครับ"
หร่วนซิงหว่านแกล้งโง่:"พวกนายก็จะไปสนามบินด้วยเหรอ ไม่ใช่มาทำเรื่องจริงจังเหรอ จะกลับเร็วขนาดนี้เลย?"
หลินหนาน:"......"
ขณะนี้ โจวฉือเซินได้เลื่อนกระจกรถลง เหลือบมองเธอด้วยสีหน้าเฉยเมยแว๊บหนึ่ง และเปิดปากพูดอย่างกระชับรัดกุม:"ขึ้นรถ"
หร่วนซิงหว่านเบะปาก ในใจคิดอยู่ว่าจุดหมายปลายทางของพวกเหมือนกันจริงๆ ถ้าเธอไปโบกรถเอง เดี๋ยวไอ้ผู้ชายเฮงซวยอยู่ต่อหน้าน้าสวี่จะต้องเสียดสีเธออีกแน่ๆ
คิดถึงตรงนี้ เธอได้แต่ดึงประตูรถแล้วโน้มตัวนั่งเข้าไป
หลินหนานเห็นสถานการณ์แล้วได้แอบโล่งอกไปที นาทีคับขันแบบนี้ จะต้องให้ประธานโจวออกโรงเองถึงจะได้จริงๆ ด้วย
รถได้ขับอยู่บนถนน หร่วนซิงหว่านหมอบอยู่บนกระจกรถมองดูวิวของด้านนอก
เมื่อเทียบกับเมืองหนานเฉิงแล้ว เมืองเล็กๆ อย่างเมืองอานเฉิงนี้ ไม่ว่าจะฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาว ล้วนมีความสวยงามเฉพาะของมันเอง หิมะแขวนอยู่บนกิ่งไม้ จะถูกสายลมพัดเป็นบางครั้ง และร่วงหล่นลงมาเป็นเกร็ดหิมะแผ่นๆ เหมือนกลีบดอกไม้สีขาว
อยู่ในเมืองที่ชิวๆ สบายๆ แบบนี้ รถติดที่สุดในช่วงเช้าที่หลินหนานพูดไม่มีให้เห็นเลย ไม่นาน รถก็ได้ขับเข้าไปในถนนอานเฉียวอย่างช้าๆ
แม่น้ำสายเล็กที่อยู่ตรงกลางของถนนได้ก่อตัวเป็นน้ำแข็งแล้ว เพื่อนบ้านก็เกือบจะย้ายออกไปกันหมดแล้ว ประตูของห้องโถงบรรพบุรุษก็เปิดทิ้งไว้อย่างเดียวดาย ถนนทั้งสายดูแล้วเงียบเหงา ไม่ได้คึกคักเหมือนตอนแรกที่เธอย้ายมาที่นี่อีก
หลังจากเธอเหม่อมองไปพักหนึ่ง ถึงหันมาถามว่า:"ประธานโจว ที่นี่เริ่มรื้อถอนเมื่อไหร่คะ?"
"เดือนห้า"
เดิมทีหร่วนซิงหว่านนึกว่าหลังตรุษจีนก็จะรื้อถอนแล้ว ไม่คิดว่าอีกหลายเดือนอยู่กว่าจะรื้อ
นี่ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวรอให้ช่วงที่ออฟฟิศงานไม่ยุ่งแล้ว เธออยากพาซานซานกับเสี่ยวเฉินมาเที่ยวรอบหนึ่ง
ไม่นาน รถได้จอดลงที่หน้าบ้านของสวี่เยว่
หลังจากหร่วนซิงหว่านเดินมาถึงหน้าบ้าน ทันใดนั้นพบว่าโจวฉือเซินยืนอยู่ข้างรถ เหมือนไม่คิดจะเข้าไปด้านใน
เธอประหลาดใจเล็กน้อย จึงได้ถามด้วยจิตใต้สำนึก:"ประธานโจวไม่เข้าไปเหรอคะ"
โจวฉือเซินพูดจาเรียบเฉย:"คุณเข้าไปก่อนเลย"
หร่วนซิงหว่านคิดๆ แล้ว หลังจากก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ก็ได้หันหลังกลับมาอีก เธอเดินมาที่ตรงหน้าเขาและถามหยั่งเชิงว่า:"คุณทำน้าสวี่โกรธใช่มั้ย เลยไม่กล้าเข้าไป?"
โจวฉือเซิน:"......"
เขาหลุบตามองเธอ:"ผมไม่ได้ฟันคมปากคล่องและเจ้าสำนวนเหมือนคุณหรอก"
หร่วนซิงหว่านรู้สึกเขานี่แปลกประหลาดจริงๆ :"แล้วคุณงอนอะไร"
โจวฉือเซินได้พูดว่า:"ผมโทรศัพท์แป๊บหนึ่ง"
หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง จู่ๆ เขาได้ก้มหน้าลง และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำและคลุมเครือ "หรือคุณอายที่จะเข้าไปเอง ต้องการให้ผมไปเป็นเพื่อนคุณ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว