สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 249

ก่อนที่หร่วนซิงหว่านจะพูด เธอมองสร้อยคอในตู้โชว์และกล่าวทันทีว่า "เอาเส้นนั้น ฉันคิดว่ามันไม่เลว"

หร่วนซิงหว่านส่ายศีรษะช้าๆ "ฉันคิดว่ามันไม่เข้ากับบุคลิกของคุณ"

เฉินหว่านลู่รวบผมของเธอไปไว้หลังใบหูและฮึ่มประโยคหนึ่ง "คนอย่างฉันไม่ว่าจะใส่ชุดอะไรหรือใส่เครื่องประดับอะไรก็เข้ากับบุคลิกของฉัน ต่างจากคนบางคน ที่ต้องอาศัยของสวยงามเพื่อทำให้ตนเองดูดีขึ้น"

"ถ้าคุณชอบมันจริงๆ ฉันจะมอบให้คุณ ยังไงมันก็ไม่มีมูลค่าอะไร"

หลังจากได้ยินประโยคนี้ เฉินหว่านลู่รู้สึกไม่พอใจ "ฉันเป็นคนประเภทที่จะมาเอาเปรียบคุณหรือ? ฉันบอกแล้วว่าจะให้ก็ต้องให้แน่นอน นอกจากนั้น แค่ดูก็รู้ว่าร้านของคุณไม่มีลูกค้า ดังนั้นอย่าทำอะไรที่เกินความสามารถเพื่อรักษาหน้าตนเอง"

หลังจากนั้น เฉินหว่านลู่ก็หยิบบัตรธนาคารออกจากกระเป๋าเงินและกำลังจะจ่ายชำระ

เมื่อหร่วนซิงหว่านเห็นท่าทางที่แน่วแน่ของเธอ ก็เลิกคิ้วขึ้น "ก็ได้"

หลังจากจ่ายชำระเงินแล้ว เฉินหว่านลู่ได้รับข้อความแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ เมื่อเธอเห็นว่ามีการหักเงินเพียงแค่ 80 เธอรู้สึกว่าตนเองถูกดูหมิ่นเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านั้นหร่วนซิงหว่านกล่าวเป็นแสนอย่างไม่แยแสสักนิด ทำให้เธอคิดว่าของเหล่านี้ในร้าน ราคาอย่างต่ำก็น่าจะหลายพัน

แต่นึกไม่ถึงว่าราคาจะถูกมากขนาดนี้! ! !

หร่วนซิงหว่านใช้สิ่งนี้เพื่อจงใจเยาะเย้ยเธอ มันช่างน่าแค้นใจเสียจริงๆ

ขณะที่เฉินหว่านลู่กำลังจะโกรธ ชายวัยกลางคนอายุสามสิบกว่าคนหนึ่งเดินเข้ามาจากประตู

เฉินหว่านลู่หันหลังและเดินไปอย่างรวดเร็ว: "หยางเจิ้นในที่สุดคุณก็มา ฉันรอคุณนานแล้ว"

หยางเจิ้นกล่าวว่า "ต้องขออภัยด้วย รถติดนิดหน่อย"

ขณะที่พูด เขามองไปที่หร่วนซิงหว่าน "คิดว่า คุณคือคุณหร่วนที่หว่านลู่พูดถึงบ่อยๆ "

เฉินหว่านลู่กล่าวว่า "ดูคุณสิ คุณจะใจร้อนไปทำไม ฉันยังไม่ได้แนะนำเลย"

เฉินหว่านลู่มองไปที่หร่วนซิงหว่านและเอามือกอดอก "คนนี้คือคนที่ฉันพูดกับคุณบ่อยๆ หยางเจิ้น ผู้จัดการหยางทำงานที่เดียวกับสามีของฉัน มีความสามารถและความชำนาญ เป็นคนเก่งที่หายาก"

ขณะที่แนะนำหร่วนซิงหว่าน เธอเบ้ปาก "คนนี้ คุณก็รู้จักแล้ว ชื่อหร่วนซิงหว่านเป็นร่วมชั้นสมัยมหาวิทยาลัยของฉัน เป็นคนสวย แต่เส้นทางแห่งความรักของเธอขรุขระเล็กน้อย แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ดี แล้วตอนนี้ก็มาเปิดร้านนี้"

หยางเจิ้นยื่นมือไปทางหร่วนซิงหว่าน "คุณหร่วน พบกันครั้งแรก ยินดีที่ได้รู้จักคุณ"

ตาของเขาจ้องเขม็ง จนทำให้คนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก

หร่วนซิงหว่านไม่ได้ยื่นมือออกมา เพียงพยักหน้าเล็กน้อย "สวัสดีค่ะ"

เมื่อเฉินหว่านลู่เห็นเช่นนี้ ก็กล่าวต่อไปว่า "ในเมื่อร้านของคุณไม่มีลูกค้า สู้ปิดร้านแล้วออกไปหาที่ดื่มกาแฟกันดีกว่า ประจวบเหมาะที่คุณจะได้คุยกับหยางเจิ้นให้มากขึ้น"

หร่วนซิงหว่านกล่าวว่า "ไม่ล่ะ ไม่มีอะไรต้องคุยกัน"

เฉินหว่านลู่กล่าวว่า "หร่วนซิงหว่านนะหร่วนซิงหว่าน ไม่ใช่ว่าฉันว่าคุณน่ะ คุณเคยหย่ามาแล้วครั้งหนึ่ง คุณจะถือตัวอะไรมากมาย วันนี้หยางเจิ้นลดตัวมาหาคุณแล้ว คุณเล่นตัวพองามก็พอ อย่าเสแสร้งทำเป็นว่าตนเองนั้นสูงเกินเอื้อม"

หยางเจิ้นหยุดเฉินหว่านลู่ไว้ "อย่าพูดเช่นนั้น การได้รู้จักคุณหร่วนนั้นถือว่าเป็นเกียรติของผม อีกอย่างผมเป็นแค่ผู้จัดการเท่านั้น ไม่มีอะไรสูงส่งหรือไม่สูงส่ง"

เฉินหว่านลู่เหลือบมองหร่วนซิงหว่านด้วยความไม่พอใจ "คุณดูเขาสิ"

หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่า การที่เธอไม่ขับไล่เฉินหว่านลู่ออกไปก็ถือว่าสุภาพแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับคนที่หน้าหนากว่าโจวฉือเซิน และสามารถพูดสิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ถูกได้

หร่วนซิงหว่านสูดลมหายใจ และไม่สนใจเฉินหว่านลู่ แต่กล่าวกับหยางเจิ้น "คุณหยาง ฉันไม่รู้ว่าเฉินหว่านลู่คุยอะไรกับคุณ แต่ฉันไม่เคยสัญญากับเธอว่าจะนัดดูตัว และฉันไม่เคยคิดที่จะทำเช่นนั้น ขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาเสียเที่ยว"

หยางเจิ้นหยุดชั่วคราว และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ไม่เป็นไร คิดเสียว่าได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง"

ขณะที่หยางเจิ้นกล่าว ก็หยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทและยื่นให้หร่วนซิงหว่าน

บนนามบัตร พิมพ์ตัวอักษรขนาดใหญ่ว่าหลินซื่อกรุ๊ปอย่างหรูหรา

ที่แท้เฉินหว่านลู่ชอบพูดเสมอว่าสามีของเธอทำงานที่บริษัทใหญ่โตนั้นคือหลินซื่อกรุ๊ปนี่เอง

หร่วนซิงหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่ง และกล่าวอย่างสุภาพว่า "คุณหยาง ฉันขอโทษ ฉันรู้สึกว่าเดิมทีพวกเราก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน และมันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะเป็นเพื่อนกัน"

เมื่อเฉินหว่านลู่เห็นเช่นนี้ รู้สึกว่าหร่วนซิงหว่านจงใจไม่ให้เกียรติเธอ เรื่องสร้อยคอก่อนหน้านั้นช่างมันได้ แต่ตอนนี้ทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายต่อหน้าหยางเจิ้นเธอกล่าวตามตรงอย่างไม่เกรงใจว่า

"หร่วนซิงหว่าน คุณคิดว่าคุณยังเป็นคนที่จี้หวยเจี้ยนทะนุถนอมเหมือนเจ้าหญิงน้อยอยู่อีกหรือ? ตื่นได้แล้ว ตอนนี้คุณเป็นแค่ผู้หญิงหย่าร้างที่ไม่มีใครต้องการเท่านั้น หยางเจิ้นยอมเป็นเพื่อนกับคุณนั้น ถือเป็นการยกย่องคุณแล้ว ฉันขอเตือนคุณควรรู้จักผิดชอบชั่วดีด้วย"

หร่วนซิงหว่านยิ้ม "คำพูดของคุณน่าสนใจจริงๆ ฉันอยู่ของฉันดีๆ และไม่เคยล่วงเกินใคร คุณเป็นคนที่วิ่งเข้ามาสร้างปัญหาในร้านของฉัน สุดท้ายมันกลับกลายเป็นความผิดของฉัน"

"อีกอย่าง การหย่าร้างแล้วไงล่ะ? หรือมีใครกำหนดว่าหย่าแล้วไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ จะต้องหาสถานที่ฆ่าตัวตายหรือ?"

เห็นได้ชัดว่าเฉินหว่านลู่ไม่เคยคิดว่าหร่วนซิงหว่านจะโต้แย้งอย่างไม่มีเหตุผลเช่นนี้ เธอจึงกล่าวว่า "คุณ คุณ คุณ" เวลาผ่านนานไป แต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้สักประโยค

ขณะนี้ หยางเจิ้นกล่าวว่า "คุณหร่วนพูดถูก ความจริงการหย่าร้างนั้นก็ไม่มีอะไร ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงที่สวยและฉลาดอย่างคุณหร่วน แม้ว่าจะหย่าร้าง ก็ต้องมีคนตามจีบมากมาย"

ทันทีที่เขากล่าวจบ เสียงผู้ชายก็ดังขึ้นจากด้านหลัง "ซิงหว่าน"

เฉินหว่านลู่หันไปมองและขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ "เฉิงเว่ย คุณมาที่นี่ทำไม"

เฉิงเว่ยเหลือบมองเธอ "ผมมาหาซิงหว่าน"

"พวกคุณไปสนิทกันตอนไหน?"

เฉิงเว่ยกล่าวว่า "ผมกำลังตามจีบซิงหว่านอยู่ คุณมองไม่ออกหรือ?"

สีหน้าของเฉินหว่านลู่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ดวงตาของเธอเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

หยางเจิ้นเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบสนองและเดินไปข้างหน้า "สวัสดีครับ รบกวนถามว่าคุณคือประธานเฉิง จากบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่างหรือไม่? ผมเป็นผู้จัดการโครงการของหลินซื่อกรุ๊ป ผมแซ่หยาง ชื่อหยางเจิ้น"

ขณะที่พูด เขาก้มลงและยื่นนามบัตรของตนเองให้อีกฝ่าย

เฉิงเว่ยรับนามบัตรแล้วพยักหน้าเล็กน้อย "ผู้จัดการหยางเคยได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว"

ใบหน้าของหยางเจิ้นเต็มไปด้วยความปีติ "ประธานเฉิง รู้จักผมด้วยหรือครับ?"

เฉินหว่านลู่เคยคุยโวเรื่องสามีตนเองต่อหน้าเฉิงเว่ยมาก่อน ไม่คิดว่า หยางเจิ้นจะแสดงท่าทางเช่นนี้กับเฉิงเว่ย ราวกับว่าเขาทำให้สถานะของสามีเธอต่ำไปอีกระดับ

เธอกล่าวอย่างไม่แยแสว่า "เฉิงเว่ยกับพวกเราก็เป็นเพื่อนนักเรียนเก่า ในเมื่อพวกคุณรู้จักกัน พวกเราออกไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่า"

หยางเจิ้นมองไปที่เฉินหว่านลู่ "คุณเป็นเพื่อนนักเรียนเก่ากับประธานเฉิงจริงหรือ?"

เฉินหว่านลู่ยกคางของเธอ "แน่นอน ความสัมพันธ์ของพวกเราดีเสมอมา"

หยางเจิ้นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า "ประธานเฉิง วันนี้เป็นโอกาสหายากที่ได้พบคุณที่นี่ ผมขอเป็นเจ้าภาพ เชิญคุณกับคุณหร่วนและหว่านลู่ไปรับประทานอาหารพร้อมกัน ประธานเฉิงคิดว่าดีไหม?"

เฉิงเว่ยกล่าวว่า "ไม่จำเป็น"

เฉิงเว่ยมองไปที่เฉินหว่านลู่และกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า "พวกเราไม่ค่อยสนิทกับเธอเท่าไหร่"