หร่วนซิงหว่านหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม และกล่าวด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ว่า "ประธานโจวไม่รู้จักเกรงใจคนอื่นเลยน่ะ"
โจวฉือเซินกล่าวโดยไม่เงยหน้าว่า "ย้ายบ้านไปตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"......"
หร่วนซิงหว่านรู้สึกพ่ายแพ้อีกครั้ง
ปากของอิตาบ้าคนนี้ ไม่เคยปรานีใครเลย
หลังจากที่โจวฉือเซินสั่งอาหาร เขาก็ยื่นเมนูให้พนักงานบริการ จากนั้นจึงหันไปมองเธอและกล่าวว่า "สร่างเมาแล้วหรือ?"
หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่าคำถามของเขาเหมือนเป็นการดูถูก "ฉันเวียนหัวหลังจากดื่มเหล้าแค่แก้วเดียวเท่านั้น ใช่ว่าจะไม่มีสติ"
โจวฉือเซินกล่าวว่า "คุณเป็นคนที่คออ่อนมาก ต่อไปถ้าไม่มีผมอยู่ด้วยก็อย่าดื่มเหล้ากับคนอื่น"
หร่วนซิงหว่านอ้าปาก คิดจะกล่าวโต้แย้ง แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่า เพ้ยซานซานนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขา ซึ่งเธอนั้นเดี๋ยวก็มองโน้นเดี๋ยวก็มองทางนี้อย่างออกรสชาติ
เมื่อเพ้ยซานซานเห็นว่าหร่วนซิงหว่านไม่พูดอะไร จึงรีบถอนสายตากลับมา "พวกคุณคิดเสียว่าฉันไม่มีตัวตน ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันแค่มาทานอาหารเท่านั้น ฉันมองไม่เห็นอะไรและไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น"
หร่วนซิงหว่าน "......"
ไม่นาน ผักและอาหารต่างๆ ก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่น่าอึดอัดได้ชั่วคราว
น้ำชุบสุกี้ที่หร่วนซิงหว่านและเพ้ยซานซานสั่งเป็นน้ำชุบที่เผ็ดปานกลาง ซึ่งการที่พวกเธอสั่งเผ็ดก็เพื่ออยากจะเรียกเหงื่อ
พวกเธอทานอย่างเอร็ดอร่อย แต่โจวฉือเซินที่นั่งอยู่ด้านข้างดื่มเพียงแค่น้ำเปล่า และแทบไม่ได้ทานอะไรเลย
หร่วนซิงหว่านเหลือบมองเขาและจงใจกล่าวว่า "ประธานโจวไม่ทานเหรอ?"
โจวฉือเซินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "คุณทานของคุณไป ไม่ต้องห่วงผม"
"อ้อ"
หร่วนซิงหว่านถอนสายตาและไม่สนใจเขาอีกต่อไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง พนักงานบริการก็เข็นรถเข็นมา แล้วเสิร์ฟอาหารรสจืดหลายจานไว้บนโต๊ะ
เพ้ยซานซาน "......"
หร่วนซิงหว่าน "......"
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอเห็นว่าร้านสุกี้เพิ่มอาหารอื่นให้ลูกค้าด้วย
คนมีเงินจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
โจวฉือเซินลืมตาขึ้น กวาดสายตาและกล่าวกับหร่วนซิงหว่านว่า "อยากทานก็ทานสิ ผมไม่ขี้งกเหมือนคุณ"
หร่วนซิงหว่านเบ้ปาก เธอไม่ทานหรอก!
อิตาบ้าคนนี้ร้ายกาจจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะมาทานอาหารทั่วไปในร้านสุกี้ได้
สมองอาจมีความผิดปกติ
หร่วนซิงหว่านทานไปอีกสองคำ และเธอรู้สึกเผ็ดจนพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าน้ำในแก้วหมด และกำลังจะไปรินน้ำให้ตนเอง โจวฉือเซินได้ดันนมแก้วหนึ่งมาไว้ตรงหน้าเธอ "ดับความเผ็ดได้"
หร่วนซิงหว่านเผ็ดจนแทบทนไม่ไหว จึงไม่อยากจะเกรงใจเขาอีกต่อไป หยิบแก้วขึ้นมาและดื่มจนเกือบหมด
ที่ฝั่งตรงข้าม เพ้ยซานซานดื่มน้ำของเธออย่างเงียบๆ และรู้สึกว่าอาหารที่เธอทานมื้อนี้ไม่ใช่สุกี้ แต่เป็นขนมหวานที่หวานจนเลี่ยนหนึ่งหม้อใหญ่
ไม่กล่าวถึงอย่างอื่น อิตาบ้าโจวฉือเซินคนนี้ สามารถทำรายละเอียดเล็กน้อยบางอย่างได้ดีทีเดียว
มิน่าล่ะหร่วนซิงหว่านถึงไม่สามารถเดินเข้าไปในชีวิตของคนอื่นได้
หลังจากทานสุกี้แล้ว หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่าร่างกายปลอดโปร่ง และไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้นานแล้ว
การทานสุกี้ที่เผ็ดเป็นวิธีระบายที่ดีที่สุด
หลังจากทานสุกี้เสร็จ ขณะที่เดินออกไปจากร้าน เพ้ยซานซานแอบมองโทรศัพท์แล้วกล่าวว่า "ซิงซิง เพื่อนของฉันมีธุระกับฉัน ดังนั้นฉันขอตัวก่อน....... " จากนั้นเธอก็โบกมือให้โจวฉือเซิน "ประธานโจว ต้องรบกวนคุณไปส่งซิงซิงกลับบ้านด้วย"
ก่อนที่เธอจะกล่าวจบ คนก็หายไปจากสายตา
ขมับของหร่วนซิงหว่านกระตุก และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง
เธอหันหน้าและสบตากับโจวฉือเซิน ผู้ชายเอียงศีรษะเล็กน้อย และมีรอยยิ้มอยู่ที่มุมริมฝีปาก "ไปกันเถอะ"
หร่วนซิงหว่านนั่งคู่คนขับแล้วคาดเข็มขัดนิรภัย และถามว่า "วันนี้ผู้ช่วยหลินไม่มาหรือ?"
"วันหยุด"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...