ดูเหมือนว่าเธอไม่มีชีวิตชีวา ลำพองหยิ่งผยองเหมือนเมื่อก่อนเลย แม้แต่หน้าก็ไม่ได้แต่ง สิ่งที่เหลืออยู่บนใบหน้าของเขาคือความอ่อนล้า
เฉินหว่านลู่เดินไปข้างหน้าหร่วนซิงหว่าน เตรียมที่จะเอ่ยปาก ก็หันหน้าไปมองเพ้ยซานซานข้างๆ ด้วยความสงสัย และทำเสียงไม่พอใจเบาๆ : "มองอะไร ไม่เห็นความงามของผู้หญิงหน้าสดหรือยังไง"
เพ้ยซานซาน :"......"
ไม่อยากเห็นเฉินหว่านลู่ให้แปดเปื้อนสายตา
หร่วนซิงหว่านเห็นเฉินหว่านลู่เหมือนว่ามีเรื่องจะคุยกับเธอ บอกเพ้ยซานซานว่า: "ซานซาน คุณเข้าไปก่อนเถอะ"
เพ้ยซานซานพยักหน้า และมองเฉินหว่านลู่: "ทางที่ดีอย่ามาเล่นตุกติกอะไร ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ"
เกินความคาดหมาย เฉินหว่านลู่ไม่ได้เถียงกลับ เพียงแค่หันหน้าไปไม่สนใจเธอ
หลังจากที่เพ้ยซานซานเข้าไปในสำนักงานแล้ว หร่วนซิงหว่านกล่าว: "คุณมาหาฉันมีธุระอะไร"
เฉินหว่านลู่กล่าว: "ฉันเลี้ยงกาแฟคุณสักแก้วนะ"
ดูเธอพูดจริงใจขนาดนี้ แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หร่วนซิงหว่านก็ไม่ได้ปฏิเสธ หาร้านกาแฟใกล้ๆ สักแห่ง
หลังจากนั่งลง เฉินหว่านลู่กล่าว: "เห็นฉันเป็นแบบนี้วันนี้แล้ว คุณน่าจะดีใจมากสินะ"
หร่วนซิงหว่านยิ้มและกล่าว: "มีอะไรให้ฉันดีใจล่ะ เกี่ยวอะไรกับฉัน"
เฉินหว่านลู่กล่าว: "ทำไมคุณไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ ว่าสามีเก่าคุณเป็นประธานโจวซื่อกรุ๊ป ฉันเป็นเหมือนคนโง่ที่ไปโอ้อวดต่อหน้าคุณ คุณภูมิใจนักใช่ไหม"
"ถ้าคุณรู้สึกว่าคิดแบบนี้ทำให้คุณดีใจ งั้นคุณก็คิดเถอะ"
ตอนนี้ พนักงานเสิร์ฟมาเสิร์ฟกาแฟ
เฉินหว่านลู่หยิบแก้วกาแฟยกขึ้นมาจิบ ค่อยๆ กล่าวว่า: "ตอนนี้สามีฉันถูกจับเข้าคุก ช่วงนี้ฉันขอความช่วยเหลือคนไปทั่ว ไม่มีใครปฏิบัติกับฉันเหมือนมนุษย์เลย ถือว่าฉันรู้แล้วว่าคนที่ถูกลืมเป็นยังไง ฉันไม่พูดมากแล้ว ครั้งนี้ที่ฉันมาหาคุณ หลักๆ แล้วก็เพื่อที่จะกล่าวคำขอบคุณ ยังไงคุณน่าจะไม่ต้องการคำขอบคุณในรูปแบบอื่นแล้ว แค่มีความจริงใจก็พอแล้ว"
หร่วนซิงหว่านพูดอย่างจริงจัง: "ถ้าคุณอยากขอบคุณฉันจริงๆ ก็ไม่ควรมาที่นี่"
"คุณ......" เฉินหว่านลู่เหมือนว่าอยากพูดอะไร สุดท้ายก็เก็บคำพูดกลับไป ทำเสียงไม่พอใจ "จะพูดขอบคุณหรือไม่นั่นเรื่องของฉัน รับไม่รับคำขอบคุณนั้นก็เรื่องของคุณ"
"คุณไม่ต้องกล่าวคำขอบคุณ ฉันก็ไม่ต้องรับ สถานการณ์แบบนั้นในตอนนั้น แม้ว่าเป็นหมู ฉันก็คงไม่นิ่งดูดาย ยิ่งไปกว่านั้นคนหนึ่งคน ฉันแค่ทำในสิ่งที่ฉันคิดว่าถูกต้องเท่านั้นเอง ไม่ต้องการให้ใครมาซาบซึ้งบุญคุณหรอก"
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเฉินหว่านลู่ทั้งกลัวทั้งโกรธแปรปรวนไปตามอารมณ์แล้ว เธอไม่ใช่คนโง่ แน่นอน คำพูดของหร่วนซิงหว่านเป็นการเสียดสีว่าเธอแม้แต่หมูก็เทียบไม่ได้
เธอสูดหายใจลึกๆ : "ยังไงฉันก็พูดเท่านี้แหละ อย่าหวังว่าฉันนอกจากคำนี้แล้วฉันจะพูดคำอื่นกับคุณอีก ฉันจะไม่มีทางขอโทษคุณเด็ดขาด"
หร่วนซิงหว่านยิ้มเบาๆ ไม่พูดอะไร
หลังจากที่เฉินหว่านลู่จากไป หร่วนซิงหว่านกลับมาที่ห้องทำงาน
เพ้ยซานซานเห็นดังนั้นก็รีบมาทันที: "ซิงซิง เป็นยังไงบ้าง เธอมาสร้างปัญหาให้คุณหรือเปล่า?"
หร่วนซิงหว่านส่ายหน้า: "เปล่า"
เพ้ยซานซานกล่าว: "ก็จริง ฉันรู้สึกว่าเธอก็ไม่เหมือนว่าจะมาหาเรื่อง คุณรู้ไหมว่า ครั้งนี้ที่เธอมาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน? ก่อนหน้านี้เป็นเหมือนนกยูงสยายหาง วันนี้รู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่า ไม่มีกะจิตกะใจที่จะต่อสู้เลย
หร่วนซิงหว่านอ้าปาก สุดท้ายก็ไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเฉินหว่านลู่เมื่อสักครู่นี้ออกมา เพียงแค่ตบไหล่ของเพ้ยซานซาน: "ฉันไปวาดออกแบบร่างแล้ว มีอะไรก็เรียกฉันนะ"
เพ้ยซานซานพยักหน้า: "ไปเถอะ"
นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน หร่วนซิงหว่านมองแบบร่างตรงหน้า กลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนิดหน่อย
แม้ว่าเธอรู้ว่าสิ่งที่หร่วนจุนต้องการมากที่สุดคือเงิน แต่เป็นแบบนี้ รอหร่วนจุนติดต่อเธอมาอย่างไร้จุดหมาย มันจะทำให้คนหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น......
หร่วนซิงหว่านนึกขึ้นได้ เมื่อคืนเธอพูดถึงเรื่องที่แม่ของเธอพาเธอไปแต่งงานกับหร่วนจุน รวมถึงการตอบสนองของหร่วนจุน ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ
ลางสังหรณ์บอกเธอว่า หร่วนจุนจะต้องรู้เรื่องราวภายในแน่ และมากกว่าที่เธอคิดเยอะเลย
ผ่านไปชั่วครู่ หร่วนซิงหว่านหยิบของและลุกขึ้นมา
เพ้ยซานซานเห็นเธอออกมา ถามว่า: "ซิงซิง คุณเป็นอะไรเหรอ?"
หร่วนซิงหว่านกล่าว: "ฉันไปที่ที่หนึ่ง ซานซาน ฉันขอยืมรถคุณหน่อยนะ"
เพ้ยซานซานหยิบกุญแจรถโยนให้: "คุณจะไปไหน?"
"ฉันไปหาเซ่หรง"
เพ้ยซานซานอึ้ง: "จะหาเขาเจอเหรอ?"
คนอย่างเซ่หรง เมื่อหลบซ่อนขึ้นมา ก็หาตัวได้ยาก รวมถึงคนอย่างโจวฉือเซินก่อนหน้านี้ ต้องการตามหาเขา เสียแรงไปเยอะ อีกอย่างก็ไม่พบเบาะแสใดๆ
หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง หร่วนซิงหว่านพูดว่า: "ฉันมีวิธี"
ขอแค่เป็นคน ล้วนแต่มีความอ่อนแอและจุดอ่อน
เซ่หรงก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
หลังจากที่ออกมาจากห้องทำงานแล้ว หร่วนซิงหว่านก็ตามGPSไปยังที่แห่งหนึ่ง
ประมาณ 1 ชั่วโมง รถจึงจะจอดที่ปลายทาง
รอบๆ เป็นอาคารพักอาศัยแบบโบราณ เห็นขยะและท่อระบายน้ำทุกที่ ไม่เข้ากันกับความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหนานเฉิงเลยสักนิด เหมือนว่าถูกลืมเลือน ตอนที่กำลังจะพัฒนายังไงอย่างนั้น เป็นเพียงแค่ผุพังและเก่าแก่อย่างมีเอกลักษณ์ ถึงขั้นค่อยๆ หายไปอย่างเงียบๆ
หร่วนซิงหว่านค้นหาในโทรศัพท์ พบที่อยู่แห่งหนึ่ง หลังจากที่ถามป้าสองคนที่อยู่ข้างถนน เดินไปตามทางที่พวกเขาชี้
เธออ้อมถนนมาหลายเส้นมาก ตรงปากซอย ก็เห็นคนที่เธอตามหานั่งอยู่ตรงนั้น
พ่อของเวินเฉี่ยน
เมื่อตำรวจสอบสวนเวินเฉี่ยน ในข้อมูลของเธอ พบที่อยู่เดิมนี้ เมื่อเธอกลับมาจากถนนอานเฉียวครั้งนั้น เพ้ยซานซานก็เคยบอกแล้ว พ่อของเวินเฉี่ยนมาหาเธอ
หร่วนซิงหว่านเก็บมือถือ เดินเข้าไป หยุดอยู่ตรงหน้าผู้ชาย: "คุณลุงสวัสดีค่ะ ฉันชื่อหร่วนซิงหว่าน เป็น......เพื่อนร่วมงานเก่ากับเวินเฉี่ยน"
ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้น รีบลุกขึ้นยืน ทำท่าทางเล็กน้อย ให้เธอเข้ามานั่งในบ้าน และเตรียมไปรินน้ำให้เธอ
หร่วนซิงหว่านเห็นเช่นนั้นก็หยุดไปชั่วครู่ และก็ยิ้มทันที เอาผลไม้ในมือยื่นให้: "ไม่ต้องค่ะลุง ที่ฉันมาครั้งนี้ฉันอยากถามคุณนิดหน่อย"
ชายวัยกลางคนทำท่าทางอีกเล็กน้อย เห็นหร่วนซิงหว่านดูไม่เข้าใจ หยิบกระดาษจากด้านหลังมาหนึ่งแผ่น เขียนบางอย่างลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเขียนเสร็จ หร่วนซิงหว่านเข้าใจได้เลย เขาอยากถาม ช่วงนี้เวินเฉี่ยนสบายดีไหม
ดูเหมือนว่าเขาก็ยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับเวินเฉี่ยน ก่อนหน้านี้เขาเคยไปหาเวินเฉี่ยนครั้งหนึ่งที่เซิ่งกวาง หลังจากที่ถูกเธอด่า ก็ไม่เคยไปที่นั่นอีกเลย
หร่วนซิงหว่านกล่าว: "ฉัน......ไม่ค่อยรู้เรื่องของเธอ แต่เธอน่าจะสบายดี"
อย่างไรก็ตามเวินเฉี่ยนเป็นดีไซเนอร์ที่กลับมาจากต่างประเทศ แม้ว่า เครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ปจะไล่เธอออก ด้วยความสามารถของเธอ ก็สามารถไปทำที่อื่นได้ ถึงแม้กระทั่งรับออเดอร์ส่วนตัว ตามนิสัยของเธอ เธอจะไม่ทำให้ตัวเองแย่ลงหรอก
ชายวัยกลางคนได้ยินดังนั้น ดูเหมือนว่าโล่งใจขึ้น และเขียนคำลงในกระดาษอีก ถามว่าเธอต้องการจะถามว่าอะไร
หร่วนซิงหว่านเม้มปากเบาๆ ผ่านไปสักพักจึงพูดว่า: "คุณลุงคะ คุณรู้ไหมว่าเซ่หรงอยู่ที่ไหน?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว