สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 310

เขาเดินมาข้างเพ้ยซานซาน กางร่มออกมาและถือไว้เหนือศีรษะของเธอ "จะไปสนามบินหรือว่าไปสถานีรถไฟฟ้า? ผมจะไปส่งเอง"

เพ้ยซานซานยิ้มออกมา "ขอบคุณนะ แต่ฉันเรียกรถไปแล้ว อีกเดี๋ยวก็น่าจะมาถึง"

Danielพูดออกมาว่า "ฝนมันตกหนักขึ้นเรื่อยๆ นะ"

"อืม......แต่ฉันว่าฉันยังไหว อีกเดี๋ยวรถที่ฉันเรียกก็จะมาแล้ว คุณไปก่อนเถอะ"

เพ้ยซานซานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและต้องการแสดงให้เขาเห็นว่าเธอโทรหารถแล้ว แต่เมื่อเธอยกโทรศัพท์ขึ้นมาก็พบว่าคนขับได้ยกเลิกคำสั่งไปแล้ว

เพ้ยซานซาน "......"

มันโชคร้ายจริงๆ

เมื่อDanielเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาโดยไม่ส่งเสียง เขาลากกระเป๋าของเธอและพูดออกมาว่า "ไปกันเถอะ"

เพ้ยซานซานยังคงปฏิเสธต่อไป "ไม่เป็นไรจริงๆ ฉันจะ......"

"คุณไม่ได้เป็นคนบอกว่าเป็นเพื่อนบ้านกันต้องช่วยเหลือกันหรือไง?"

ช่วยเหลือบ้าอะไร ตอนนี้เธอพยายามจะหนีให้พ้นจากเขาถึงหาข้ออ้างมามากมาย แต่คิดไม่ถึงว่าข้ออ้างที่เธอเคยพูดออกมาจะเป็นสิ่งที่รัดตัวเธอเสียเอง

เมื่อเห็นฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เพ้ยซานซานก็เงียบไป

Danielยื่นร่มให้กับเธอ จากนั้นก็เขาก็ยกกระเป๋าของเธอขึ้นรถ จากนั้นก็ติดเครื่องยนต์

มือทั้งสองข้างของเพ้ยซานซานจับไว้ที่ด้ามร่ม เธอลังเลอยู่หลายวินาทีสุดท้ายเธอก็กัดฟันและตามขึ้นไปนั่งบนรถ

Danielถามออกมาอีกครั้งว่า "สนามบินไหน?"

หลังจากที่เพ้ยซานซานบอกสถานที่ไป เธอก็พูดออกมาอย่างสุภาพว่า "คงไม่ได้เป็นการรบกวนคุณมากไปใช่ไหม ถ้าหากมันทำให้เสียเวลางานของคุณมันคงไม่ดี"

Danielนำนิ้วของเขาเคาะพวงมาลัย ขับรถออกไปและพูดว่า "ไม่หรอก เป็นแค่เรื่องง่ายๆ "

ในเมื่อเขาพูดออกมาแบบนี้งั้นเพ้ยซานซานเองก็ไม่เกรงใจแล้ว เธอนั่งเงียบๆ และไม่พูดอะไร

แต่หลังจากนั้นไม่นานDanielก็พูดขึ้นมาว่า "ผมขอถามอะไรเธอสักเรื่องได้ไหม?"

เพ้ยซานซานยืดตัวขึ้นและปรับท่านั่งของเธอ "คุณอยากถามอะไร"

ควบคู่ไปกับเสียงฝน Danielถามออกมาช้าๆ ว่า "ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยินว่าพ่อแม่ของคุณหร่วนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว เรื่องนี้มันจริงไหม?"

เพ้ยซานซานถอนหายใจออกมา "อืม มันมีเรื่องแบบนั้น แต่ศพของพวกเขาฟื้นขึ้นมา"

"ศพฟื้นขึ้นมา?"

"มันเป็นหายนะที่เกิดขึ้นในรอบหนึ่งพันปี การที่ตายไปแล้วและศพคลานขึ้นมาจากพื้นถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้าย"

Danielเม้มริมฝีปากของตัวเองและพูดออกมาว่า "มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น แต่นั่นคงไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของคุณหร่วนหรอกใช่ไหม"

เมื่อได้ยินอย่างนั้นดวงตาของเพ้ยซานซานก็ลึกลงในทันใด "คุณรู้เรื่องนี้ได้อย่างไง?"

คนที่รู้เรื่องนี้มันน่าจะมีแค่หร่วนซิงหว่าน เสี่ยวเฉิน เธอ และก็ตาบ้าโจวฉือเซินนั่น เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและถือว่าเป็นความลับด้วย ไม่น่าจะมีใครเอาไปบอกกับDaniel

Danielยิ้มออกมา "งานประมูลเมื่อวาน ผมเองก็อยู่ที่นั่นด้วย"

เพ้ยซานซานกลับมาอยู่ในสภาพที่สงบอีกครั้ง เธอเข้าใจขึ้นมา "เกือบลืมไปเลยว่าคุณกำลังตามจีบหลินจืออี้อยู่"

Danielกระแอมออกมา และเขาก็ไม่รู้ว่าควรอธิบายออกไปอย่างไง

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดออกมาอีกว่า "นาฬิกาพกของหร่วนซิงหว่านเรือนนั้นพวกคุณไปเจอมันจากที่ไหน? แล้วรู้ได้อย่างไงว่ามันเกี่ยวข้องกับหลินจื้อหย่วน?"

เพ้ยซานซานพูดออกมาว่า "น่าจะหลังจากตอนที่หร่วนจุนตายไป ซิงซิงกับเสี่ยวเฉินเจอมันตอนที่กำลังเก็บของของเขาอยู่ หลังจากนั้นเสี่ยวเฉินก็ได้เอามันลงไปในหนังสือพิมพ์เพื่อความกระจ่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล ส่วนเรื่องของหลินจื้อหย่วน......"

เพ้ยซานซานพูดออกมาได้ครึ่งทาง จากนั้นก็มองไปที่เขาด้วยความระมัดระวังและพูดออกมาว่า "คุณถามเรื่องนี้มา ไม่ใช่ว่าจะเอาไปบอกหลินจืออี้หรอกนะ?"

Danielหัวเราะแห้งๆ "ไม่ใช่สักหน่อย ผมแค่สงสัยจึงถามออกไปเฉยๆ "

เพ้ยซานซานไม่เชื่อเขา คนที่โกหกและปลิ้นปล้อนอย่างเข้า ในสายตาของเธอไม่เคยเชื่อใจแม้แต่ครั้งเดียว

Danielยังคงถามต่อไป "งั้นเสี่ยวเฉิน......กับคุณหร่วนมีพ่อแม่คนเดียวกันหรือว่าพ่อคนเดียวกันแต่ต่างแม่?"

เพ้ยซานซานไม่รู้จริงๆ ว่าเขาอยากจะรู้เรื่องพวกนี้ไปทำไม และเธอเองก็ไม่ค่อยรู้อะไรกับเสี่ยวเฉิน เธอหลับตาและพูดออกมาว่า "เรื่องนี้ถ้าคุณอยากรู้ก็ให้ไปถามซิงซิงด้วยตัวเองเถอะ ถ้าหากเธอเต็มใจที่จะบอกคุณคุณก็จะรู้เอง เพราะว่าฉันเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน"

ริมฝีปากของDanielกระตุกและก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก

ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึงสนามบินเนื่องจากการจราจรที่ติดขัดและฝนที่ตกหนัก

หลังจากที่Danielยกกระเป๋าเดินทางลงมาจากรถแล้ว เพ้ยซานซานก็กล่าวขอบคุณออกมาอีกครั้ง และในตอนที่เธอกำลังจะจากไป Danielก็เรียกเธอให้หยุดก่อน

เขาหยิบร่มคันเมื่อสักครู่ออกมาจากรถและส่งให้เธอ "ช่วงนี้ฝนตกบ่อย พกติดตัวไว้เถอะ"

เพ้ยซานซานรับมันไว้ จากนั้นก็เงยหน้ามองDaniel

เมื่อถูกเธอมองมาเขาก็พูดออกมาว่า "มีอะไรเหรอ?"

"ไม่มีอะไร ฉันแค่นึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้นิดหน่อย ขอบคุณมากนะ บ๊ายบาย"

พูดจบเธอก็หันหน้าเดินไปทางสนามบินและไม่หันหลังกลับมา

เธอเคยบอกกับหร่วนซิงหว่านเอาไว้ว่าเธอจะหาชายหนุ่มที่ขี้เล่นและไม่ผูกมัดมาเป็นคนรัก

คิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดเล่นๆ ของเธอในวันนั้นมันจะเป็นเรื่องจริงในวันนี้

ไม่สิ มันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นความจริงแค่เพียงครึ่งเดียว

เธอชอบชายหนุ่มกะล่อนคนนี้ไปแล้ว แต่อีกฝ่ายไม่ได้ชอบเธอสักหน่อย

เมื่อเพ้ยซานซานคิดถึงเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

Danielกำลังตามจีบหลินจืออี้อยู่ แต่กลับมาส่งเธอที่สนามบินแถมยังมอบร่มให้กับเธออีก

เขาเอาเธอไว้เป็นตัวสำรองหรือเปล่า?

ในตอนที่กำลังจะไปถึงประตูเครื่องบิน เพ้ยซานซานมองร่มที่อยู่ในมือจากนั้นก็โยกมันลงไปในถังขยะอย่างไม่ลังเล

ไปตายเสียเถอะไอ้ชายหนุ่มกะล่อน!

......

หร่วนซิงหว่านเห็นว่าฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงโทรไปหาเพ้ยซานซานแต่พบว่าโทรศัพท์ของอีกฝ่ายอยู่ในหมวดเครื่องบิน

แบบนั้นก็น่าจะขึ้นเครื่องบินไปแล้ว

หร่วนซิงหว่านบิดขี้เกียจ เธอรู้สึกระบมไปทั้งร่างกาย

เธอลุกขึ้นเพื่อต้องการทำงานต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จากนั้นพนักงานก็เดินเข้ามา

ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า "พี่ซิงหว่านวันนี้พวกเราได้นัดกันไว้ว่าจะไปทานข้าว ไม่รู้ว่าจะเชิญพี่ไปทานด้วยได้ไหม"

เมื่อหร่วนซิงหว่านได้ยินอย่างนั้นเธอก็ยิ้มแล้วพยักหน้า "ได้สิ"

หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นพูดจบแล้ว เธอยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าของเธอแดงเล็กน้อยราวกับว่าต้องการจะพูดอะไร แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา

หร่วนซิงหว่านถามออกไปว่า "มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?"

"คือ......คือว่า สามารถชวนน้องชายของพี่มาร่วมรับประทานด้วยได้หรือเปล่า? พวกเราไม่มีช่องทางการติดต่อกับเขา"

หร่วนซิงหว่านผงะ จากนั้นก็ยิ้มออกมา "ได้สิ ฉันจะถามเขาให้ แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาจะทำงานพาร์ทไทม์ตอนกลางคืนหรือเปล่า"

"ไม่เป็นไรค่ะ พี่ถามเขาก่อนก็ได้ ถ้าหากเขามาได้ก็จะดีมาก แต่ถ้าหากมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร......"

"โอเค"

หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นออกไป หร่วนซิงหว่านก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดเบอร์ไปหาหร่วนเฉิน

โทรศัพท์ดังอยู่พักหนึ่งถึงจะมีคนรับสาย

เมื่อได้ยินเสียงดังมากมายจากรอบข้าง หร่วนซิงหว่านก็ถามออกไปว่า "เสี่ยวเฉิน คุณไม่ได้กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนใช่ไหม?"

"อืม มีเรื่องนิดหน่อย"

"อยู่ไหน คืนนี้มาทานข้าวด้วยกันไหม"

หร่วนเฉินตอบกลับมาว่า "ไม่ไปๆ นัดกับคนอื่นไว้แล้ว"

"โอเคๆ ถ้าหากอาทิตย์หน้าคุณพอจะมีเวลาก็มาหาฉันสักหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ"

"ทราบครับ"

หลังจากที่วางสายไปแล้วหร่วนซิงหว่านก็ขมวดคิ้วขึ้นมา คิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็โทรไปหาโจวฉือเซิน

ที่ที่เขาอยู่ไม่เหมือนกับหร่วนเฉิน มันเงียบมาก ไม่มีเสียงแม้แต่นิดเดียว

หร่วนซิงหว่านผงะและพูดออกไปเบาๆ ว่า "คุณกำลังยุ่งอยู่ไหม?"

"คุยได้ มีอะไรเหรอ?"

"ไม่มีอะไร คืนนี้มีนัดทานข้าวกับพนักงานสาวสองสามคน คงไม่ได้ไปทานข้าวกับคุณนะ"

"ฉันไปด้วยไม่ได้เหรอ?"

หร่วนซิงหว่านยิ้มออกมา คิดไม่ถึงว่าเขาจะยังจะอยากไป หร่วนซิงหว่านจึงพูดออกไปว่า "มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น คุณจะไปทำไม"

จากนั้นก็พูดออกไปอีกว่า "ใช่ คุณกำลังทำอะไรอยู่?"

อีกฝั่งหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างช้าๆ "ประชุม"

หร่วนซิงหว่าน "......"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว