สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว นิยาย บท 398

คนขับรถเกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมาบ้างแล้ว และเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายที่ไม่จำเป็น ตลอดทางเวินเฉี่ยนก็เลยไม่พูดกับเซ่หรงเลย เซ่หรงเองก็ก้มหน้าอยู่ตลอด ปีกหมวกบังใบหน้าไปตั้งครึ่งหน้า

พอรถมาจอดลงตรงเป้าหมายแล้ว ทั้งสองคนก็ลงจากรถ

เซ่หรงเดินอยู่ข้างหน้า แล้วหยุดลงตรงปากทางเส้นหนึ่งข้าง ๆ โรงแรม รอบด้านมีคนเลย

พอเขาหันหน้ามา เวินเฉี่ยนก็รีบพูดขึ้นว่า "พี่เซ่ พี่เห็นข้อความที่ฉันทิ้งไว้ให้พี่แล้วใช่ไหม?"

เซ่หรงพยักหน้าเล็กน้อย "เกิดเรื่องอะไรขึ้น"

เวินเฉี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ "ช่วงที่ผ่านมาพี่ไปไหนมา? แล้วก็พ่อด้วย เขาไม่อยู่บ้านตลอดเลย"

"เสี่ยวเฉี่ยน ลุงเวินเขา......"

"ช่างเถอะ เรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก เดี๋ยวค่อยว่ากันเถอะ" เวินเฉี่ยนพูดขัดเขาขึ้น แล้วก็พูดขึ้นอีกว่า "พี่เซ่ ตอนนี้ฉันเจอเรื่องยุ่งยากเรื่องใหญ่เลย พี่ต้องช่วยฉันนะ คนที่จะช่วยฉันได้มีแต่พี่คนเดียวแล้ว!"

คำพูดในปากของเซ่หรงถูกกลืนกลับลงไปอีกครั้ง "เธอพูดมาเลย"

สิบนาทีให้หลัง

หลี่เฟิงกำลังเตรียมไวน์แดงอยู่ในห้องของโรงแรม แล้วอยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงกริ่งประตู จากนั้นเขาก็วางแก้วเหล้าลง ฮัมเพลงไปแล้วก็ไปเปิดประตู "มาได้เร็วดีนี่......"

คำพูดของเขายังไม่ทันจบ ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดดำทั้งตัวยืนอยู่ข้างนอก

หลี่เฟิงขมวดคิ้วขึ้นอย่างแรง "คุณมาหาใคร?"

ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยแววสังหารที่เยือกเย็น

พอหลี่เฟิงรู้สึกว่าไม่ดีแล้ว กำลังอยากจะร้องขอความช่วยเหลือ ก็โดนคนถีบเข้าให้ทีหนึ่งตรงท้อง แล้วเขาก็ไปชนเข้ากับกำแพงอย่างแรง แล้วล้มลงมาบนพื้น

เขากุมท้องเอาไว้ แล้วเจ็บจนแทบจะร้องไม่ออก

เซ่หรงปิดประตูลง แล้วกระชากผมของเขาไว้แล้วเดินเข้าไปข้างใน ส่วนเสียงร้องของหลี่เฟิง ก็ค่อย ๆ โดนเสียงในห้องกลบไปหมด

แค่ทีเดียวในเมื่อกี้หลี่เฟิงก็รู้แล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา จึงรีบอ้อนวอนขึ้นว่า "ยัยผู้หญิงชั่วเวินเฉี่ยนเป็นคนให้คุณมาใช่ไหม? หล่อนให้เงินคุณเท่าไหร่ ผมจะให้เท่าหนึ่งเลย ไม่ซิ......สามเท่า! คุณอยากได้เท่าไหร่ผมก็จะให้หมดเลย!"

เซ่หรงคว้าที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วก็ทุบลงไปบนหัวของเขาอย่างแทบจะไม่ลังเลสักนิดเลย

ผู้ชายคนที่เมื่อกี้ยังลองต่อรองราคาอยู่ แต่ในชั่วพริบตาก็แน่นิ่งไปซะแล้ว และล้มตัวลงไปกองอยู่บนพื้น

เซ่หรงเก็บโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาจากบนโซฟา แล้วก็ค้นหาในห้องไปรอบหนึ่ง ก็หาแผ่นดิสก์เจอหลายแผ่น จากนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ทุกวินาทีที่เวินเฉี่ยนรออยู่ตรงใต้ตึกนั้น ล้วนเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตนี้ของเธอ

กว่าจะรอให้เซ่หรงลงมาถึง เวินเฉี่ยนก็รีบลุกขึ้นมาทันที แล้วถามขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า "พี่เซ่ เป็นยังไงบ้าง?"

เซ่หรงล้วงโทรศัพท์และแผ่นดิสก์หลายแผ่นออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เธอ

เวินเฉี่ยนรับมาด้วยมือสั่นเทา "อยู่ในนี้ทั้งหมดเลยเหรอคะ?"

"อยู่ในนี้หมดแล้ว"

เวินเฉี่ยนโล่งอกไปได้เปลาะหนึ่ง แล้วเหมือนกับว่าจะนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วก็ถามขึ้นอีกว่า "พี่ไม่ได้ดูใช่ไหม?"

เซ่หรงส่ายหัว "ไม่ได้ดู"

"งั้นก็ดีแล้ว"

เวินเฉี่ยนเอาของใส่เข้าไปในกระเป๋า แล้วก็เห็นเลือดที่หยดลงมาจากหัวของเซ่หรง ก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างอัตโนมัติ ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เซ่หรงก้มหน้าลงแล้วเหลือบมองทีหนึ่ง "ใช่ บนตัวฉันมีบาดแผล"

เวินเฉี่ยนถามขึ้นว่า "งั้น......คนที่ตามฉันเมื่อก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพราะว่าพี่ใช่ไหม?"

"พวกเขาน่าจะสืบค้นความสัมพันธ์ของเราเจอแล้ว เพราะฉะนั้นก็เลยมาติดตามเธอ เพื่ออยากจะจับตัวฉันให้ได้"

เวินเฉี่ยนถลึงตาโตขึ้นมาทันที "งั้นทำไมพี่ยังจะมาหาฉันอีกล่ะ? ถ้าเกิดพวกเขารู้เข้าว่าพวกเราเคยเจอกันมาแล้ว แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ?"

เซ่หรงอ้าปากเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีแล้ว

เวินเฉี่ยนมองรอบสี่ด้านเล็กน้อย แล้วก็พูดเร่งขึ้นอย่างรีบร้อนว่า "พี่รีบไปเถอะ ต่อไปไม่ต้องมาหาฉันอีกนะ"

พอพูดจบ เวินเฉี่ยนก็เห็นว่าเซ่หรงยังไม่ขยับตัว ในใจก็ยิ่งร้อนรน อย่างกับกลัวว่าจะมีใครมารู้เข้าว่าพวกเขายังติดต่อกันอยู่ ก็เลยอยากจะรีบไปเลย

"เสี่ยวเฉี่ยน" เซ่หรงเรียกตัวเธอไว้ แล้วจ้องมองแผ่นหลังของเธอแล้วพูดขึ้นว่า "เธอไม่เป็นห่วงว่าตอนนี้ลุงเวินจะเป็นยังไงบ้างเหรอ"

เวินเฉี่ยนหงุดหงิดอยู่แล้วตั้งแต่แรก พอเห็นว่าเซ่หรงช่วยเธอจัดการหลี่เฟิงไปแล้วยังไม่ทันได้หายใจโล่งสักเฮือกเลย ก็มาได้ยินว่าเซ่หรงนำพาความยุ่งยากครั้งใหญ่มาให้ตัวเองแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกโมโหมากเลย "ฉันจะไปเป็นห่วงเขาทำไม เรื่องของฉันเองก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว แล้วใครจะมาเป็นห่วงฉันล่ะ?"

เซ่หรงไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วเวินเฉี่ยนก็จากไปอย่างรีบร้อน

พอกลับมาถึงบ้านแล้ว เธอก็ทุบโทรศัพท์ของหลี่เฟิงและแผ่นดิสก์ทั้งหมดจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างกับว่าทำแบบนี้แล้ว ก็จะสามารถคลายโกรธลงได้ไม่น้อย

ตอนนี้หลี่เฟิงตายไปแล้ว ของพวกนี้ก็โดนทำลายไปแล้ว ฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ก็จะไม่มีใครมาข่มขู่เธอได้แล้ว

แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ หลี่เฟิงกลับสามารถหลบพ้นการโจมตีที่ถึงชีวิตได้ของเซ่หรงไป และมีชีวิตรอดไปได้

หลังจากที่หมดสติอยู่ในห้องไปไม่กี่ชั่วโมง หลี่เฟิงก็ฟื้นขึ้นมา เขาพยายามฝืนความเจ็บปวดมากมายที่ส่งมาจากร่างกาย แล้วอยากจะไปหาโทรศัพท์เพื่อแจ้งตำรวจ แต่ว่าในห้องกลับไม่มีโทรศัพท์ของเขาแล้ว

หลี่เฟิงพิงกำแพงไว้ แล้วพยายามคลำออกไปจากห้องพักโรงแรม คลับคล้ายคลับคลาว่าข้างหน้าจะมีคนอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ ก็ล้มลงไปกับพื้นเลย

พนักงานในโรงแรมเห็นเขามีเลือดเต็มไปหมดทั้งหน้า ก็ตกใจไปไม่น้อย และไม่กล้ารีรออีก แล้วก็รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรเรียกรถพยาบาลแล้วโทรแจ้งตำรวจ

......

สี่ทุ่มตอนกลางคืน เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่เมืองหยุนเฉิง

หร่วนซิงหว่านลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ พอมองดูเวลาเล็กน้อย ก็พบว่าได้ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว

เธอลุกขึ้นมาจากอกของโจวฉือเซิน แล้วมาขยับเขยื้อนลำคอเล็กน้อย

จะไม่พูดก็ไม่ได้ ว่าไม่กี่ชั่วโมงนี้ นอนหลับได้เป็นอย่างดีเลย

ที่ข้าง ๆ เฮลิคอปเตอร์ มีรถมารออยู่นานแล้ว

พอขึ้นรถแล้ว หร่วนซิงหว่านจ้องมองทิวทัศน์ข้างนอกที่เปลี่ยนไปในพริบตา แล้วก็ฮาวทีหนึ่งแล้วถามขึ้นว่า "บริษัทของคุณยุ่งมากเลยไม่ใช่เหรอคะ แล้วหนีมาแบบนี้ จะไม่มีผลกระทบอะไรเหรอคะ?"

โจวฉือเซินจับนิ้วของเธอเอาไว้ แล้วเอามาเล่นอยู่ในฝ่ามือใหญ่ น้ำเสียงแหบต่ำ "มนุษย์ที่ทำมาจากเหล็กก็ยังต้องพักผ่อนอยู่นะ"

"งั้นค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายในการพักผ่อนของคุณก็คงจะสูงเกินไปหน่อยแล้วมั้ง สู้นอนอยู่บ้านดี ๆ สักตื่นไม่ดีกว่าเหรอ"

"ก็ไหนคุณเป็นคนพูดว่าอยากจะมาไม่ใช่เหรอ?"

"ที่ฉันว่าคือ......"

หร่วนซิงหว่านพบว่า เรื่องนี้ เธอมีเหตุผลไม่เพียงพอจริง ๆ และเถียงสู้เขาไม่ได้ด้วย ก็เลยไม่พูดเลยดีกว่า

รถขับไปประมาณยี่สิบนาที ก็มาถึงที่พักของสวี่เยว่แล้ว

พอลงจากรถ หร่วนซิงหว่านก็พบว่าสิ่งแวดล้อมของที่นี่ร่มรื่นมากเลย เป็นบ้านพักหลังเดี่ยว ด้านหน้ามีสวนดอกไม้ แล้วก็มีแปลกผักเล็ก ๆ ด้วย

ช่างเป็นที่ที่เหมาะสมแก่การพักอยู่อาศัยจริง ๆ

โจวฉือเซินเห็นเธอยืนอยู่กับที่ ก็ถามเสียงต่ำขึ้นว่า "มัวแต่ยืนอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะ?"

"น้าสวี่คงจะนอนหลับไปแล้วมั้ง?"

โจวฉือเซินพูดขึ้น "ไม่หรอก ก่อนจะมาผมโทรบอกท่านแล้ว"

หร่วนซิงหว่าน "อ่อ"

ที่จริงเธอกำลังคิดเรื่องหนึ่งอยู่ ถ้าเกิดเจอเจ้าตัวเล็กที่นี่เข้าละก็ งั้นการคาดเดาในเมื่อก่อนของเธอ ก็น่าจะเป็นความจริงทั้งหมด

แต่ถ้าไม่เจอ งั้นก็พิสูจน์ได้แค่ว่า ความคิดในเมื่อก่อนของเธอนั้นโง่เขลามากแค่ไหน

พอเห็นเธอก้มหน้าอยู่ ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ โจวฉือเซินก็เลียริมฝีปากอย่างไม่มีสุ้มเสียงเล็กน้อย แล้วก็กุมมือเธอไว้โดยตรง และเดินเข้าไปข้างในเลย

หร่วนซิงหว่านรวบรวมความคิดกลับมา มือข้างที่โดนโจวฉือเซินจับไว้ กลับมีเหงื่อซึมออกมาอย่างไม่รู้สึกตัวเล็กน้อย

ระยะทางเส้นนี้ไม่ได้ยาวมากนัก แต่ว่าหร่วนซิงหว่านเดินไปทุกก้าว ล้วนต้องกลั้นหายใจเอาไว้

การคาดเดาและความสงสัยของเธอ กำลังจะได้รับการพิสูจน์แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว