สีหน้าของเวินเฉี่ยนซีดขาว ขยับริมฝีปากเพื่อจะอธิบาย "ไม่ค่ะ......ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น......ฉันเพียงแค่ต้องการ......"
"ต้องการอะไร?" ท่านใหญ่โจวหรี่ตา "ดูท่าเธอคงไม่กล้าล่วงเกินโจวฉือเซินสินะ ดังนั้นจึงให้ฉันรับผิดชอบการกระทำของเธอแทน!"
เวินเฉี่ยนถูกเขาตะคอก จนเกือบจะหยุดหายใจ ตัวเธอสั่นอย่างรุนแรง ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอีก
ในตอนนี้เอง โจวจู้นเหนียนก็ปรากฏกายมาจากด้านหลัง พูดด้วยน้ำเสียงสงบ "ไม่ต้องกลัว นึกอะไรขึ้นมาได้ก็ค่อยพูดเถอะครับ"
เวินเฉี่ยนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับมา รูม่านตาขยายใหญ่อย่างเห็นได้ชัด แต่ยังคงไม่กล้าขยับ
โจวจู้นเหนียนยิ้ม เอนกาย ก่อนจะยื่นมือออกไปทางเธอ
สายตาของเวินเฉี่ยนเลื่อนลงมาที่ฝ่ามือของโจวจู้นเหนียน เธอลังเลอยู่นาน ก่อนจะลองจับมือนั่นไว้ และค่อยๆยืนขึ้น
ในขณะเดียวกัน เสียงไม่พอใจของท่านใหญ่โจวก็ดังมา "จู้นเหนียน อย่าเอาความใจบุญของแกมาเสียเปล่ากับคนที่ไม่คู่ควร"
โจวจู้นเหนียนพูด "เรื่องนี้อาจจะมีการเข้าใจผิดกันนะครับ ครั้งก่อนนักข่าวคนที่แอบเข้าบ้านตระกูลโจว เราสืบหาได้ว่าเป็นผู้ชายนี่ครับ"
"เธอก็คงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดหนะสิ!"
โจวจู้นเหนียนมองไปยังเวินเฉี่ยน "ตอนนี้ยังมีเวลา คุณลองพูดมาว่าเกิดอะไรขึ้น สบายใจเถอะ ถ้าหากเรื่องนี้คุณไม่ได้ทำ พวกเราก็จะไม่ทำอะไรคุณ"
เวินเฉี่ยนยืนข้างเขา เธอกัดริมฝีปากแน่น เป็นเวลานานกว่าจะพูด "ฉันไม่ได้เป็นคนทำค่ะ......ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น......จริงๆนะคะ......"
ท่านใหญ่โจวกระทุ้งไม้เท้าลงที่พื้น ก่อนจะก่นด่าเสียงดัง "ตอนนี้หลักฐานมันแน่นอนแล้ว ยังจะเถียง!"
เวินเฉี่ยนตกใจมาก จนเธอรีบไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังโจวจู้นเหนียนโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบพูดขึ้นว่า "ไม่เกี่ยวกับฉันจริงๆนะคะ แต่ว่าผู้ชายที่ไปหานักข่าวครั้ง......ครั้งที่แล้ว ฉันรู้จัก เขามักจะ......มักจะ......"
"มักจะอะไร?"
"มักจะช่วยหร่วนซิงหว่านอยู่ตลอดเลยค่ะ" หลังจากตัดสินใจโกหกจนวินาทีสุดท้าย เวินเฉียนก็สงบลงเล็กน้อย "อีกอย่าง ตอนแรกก็เป็นเขาที่เอาหร่วนซิงหว่านออกมาจากบ้านตระกูลโจวด้วยค่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของฉัน เป็นไปได้มากที่ฉันอาจจะทำให้หร่วน ซิงหว่านขุ่นเคืองในการแข่งขันดีไซเนอร์ในครั้งนี้ เพื่อที่จะแก้แค้นฉัน เธอเลยจงใจพูดอย่างนี้......"
ท่านใหญ่โจวหรี่ตาลง ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อได้ฟังคำพูดของเธอ
ตอนแรกวันที่หร่วนซิงหว่านออกไปจากบ้านตระกูลโจว บนรถมีผู้ชายคนหนึ่งจริงๆ
เขาได้ตรวจสอบในภายหลัง และพบว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนของโจวฉือเวิน
ถ้าหากเป็นจริงอย่างที่เธอพูดละก็ เรื่องนักข่าวคนนั้นที่แอบเข้ามา ก็เป็นหร่วนซิงหว่านที่วางแผน!
คิดไม่ถึงเลยว่าฝีมือเธอจะดีมากถึงขนาดเคยหลอกเข้าได้
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ท่านใหญ่โจวก็พูดขึ้นอีกครั้ง "แล้วเรื่องเครื่องบันทึกเสียง เธอจะอธิบายว่าอะไร?"
น้ำเสียงของเขาอ่อนลงมาก เมื่อเทียบกับก่อนหน้า
เวินเฉี่ยนกัดฟัน ถือโอกาสโกหกต่อไปเลยแล้วกัน "เป็น......คุณหลินค่ะที่สั่งให้ฉันทำแบบนั้น"
ท่านใหญ่โจวขมวดคิ้ว "คุณหลิน? คุณหลินคนไหน?"
"คุณหนูของหลินซื่อ หลินจืออี้ค่ะ"
"เธอไปรู้จักหล่อนได้ยังไงกัน"
เวินเฉี่ยนกำหมัดแน่นและพูดว่า "เมื่อก่อนฉันเป็นดีไซน์เนอร์ที่เซิ่งกวางเหมือนหร่วนซิงหว่านค่ะ ตอนนั้นคุณหลินยังไม่ได้หมั้นหมายกับประธานโจว แต่เธอรู้อยู่แล้วว่าหร่วนซิงหว่านเป็นภรรยาเก่าของเขา ดังนั้นเธอเลยจงใจเข้าหาหร่วนซิงหว่าน และมักจะใช้ฉันเพื่อช่วยเธอจัดการกับหร่วนซิงหว่าน"
ท่านใหญ่โจวพูด "เรื่องการแข่งขันนักออกแบบที่ติดสินบนกรรมการนั่น เป็นหลินจืออี้ที่ยุยงให้ทำ?"
"ไม่ค่ะ นั่นจ้าวเชียนเชียนเป็นคนทำค่ะ"
"จ้าวเชียนเชียน? เธอมาเกี่ยวอีกได้ยังไง?"
เวินเฉี่ยนถอนหายใจ "จ้าวเชียนเชียนรู้สึกโกรธแค้นที่ประธานโจวปฏิเสธเธอ เธอจึงต้องการที่จะจัดการกับหร่วนซิงหว่าน เธอจึงติดสินบนกรรมการให้ช่วยเธอในเรื่องนี้ แต่เธอได้รับผลประโยชน์แล้วถีบหัวส่ง หลังจากงานเสร็จสิ้นเธอก็ไม่สนใจว่าฉันจะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ฉันก็เลยนำเครื่องบันทึกเสียงไปหาคุณหลิน เป็นเธอที่บงการฉันว่า ตอนนี้คนคนเดียวที่ไม่กลัวประธานโจว ก็มีเพียงกรรมการโจวและให้ฉันมาหาท่านค่ะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...