ตอนที่พวกหร่วนซิงหว่านและเพ้ยซานซานมาถึง รายการเริ่มถ่ายไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว ระยะเวลาที่ต้องออกมาจากห้อง เหลือเพียงแค่สิบนาที ส่วนนักแสดงหลายคนในนั้นยังคงสับสนงุนงง ไม่เจอเบาะแสใดๆเลย
การถอดรหัสล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น
เนื่องจากสวี่วานได้บอกกองถ่ายเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งยังให้ผู้ช่วยรอพวกหร่วนซิงหว่านอยู่ที่ทางเข้าด้วย ดังนั้นตอนที่พวกเธอมาถึง ผู้กำกับจึงให้พวกเธอนั่งดูจอแสดงภาพอยู่บนโซฟา
ด้านในไม่มีช่างภาพ มีแค่กล้องเว็บแคม ยิ่งทำให้รู้สึกประหม่ามากขึ้น
เห็นได้ชัดเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่เจียงชูหนิงได้เห็นฉากถ่ายรายการอย่างนี้ และค่อนข้างตกใจกับการจัดตกแต่งฉากถ่ายทำของจริงของที่นี่ กอดแขนหร่วนซิงหว่านอยู่ตลอด ราวกับกำลังดูหนังผีอยู่อย่างนั้น
เพ้ยซานซานจ้องอยู่ที่หน้าจอ แสดงความตื่นเต้นออกมาเบาๆ: "กรี๊ดๆๆ นั่นคือนักแสดงชายที่กำลังดังอยู่ในช่วงนี้ใช่ไหม ไม่นึกว่าเขาจะอยู่ด้วย! อีกเดี๋ยวฉันไปขอลายเซ็นเขาได้ไหมคะ?"
ผู้กำกับที่อยู่ด้านข้างยิ้ม: "พวกคุณเป็นเพื่อนของพี่สวี่ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"
เพ้ยซานซานพยักหน้า เป็นครั้งแรกที่รู้สึกภาคภูมิใจ
ตอนนี้เอง จู่ๆกล้องก็เคลื่อนไปที่สวี่วาน
หร่วนเฉินยืนอยู่กับเธอ ทั้งสองแยกกันหยิบหนังสือที่อยู่บนชั้นหนังสือ
เพ้ยซานซานจับมือของหร่วนซิงหว่านเอาไว้ทันที หน้าตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หร่วนซิงหว่าน: "?"
เพ้ยซานซาน: "เธอดูสิเธอดูสิ! เธอไม่รู้สึกว่านี่เหมือนเค้าโครงละครของซีรีส์วัยรุ่นภายในมหาวิทยาลัยเลยเหรอ พระเอกนางเอกเจอกันในห้องสมุด นางเอกหยิบหนังสือเล่มที่พระเอกต้องการไป ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังหมุนตัว จึงสบตาและชนกันจนเกิดอาการสปาร์คอย่างรุนแรง!"
ผู้กำกับ: "......"
หร่วนซิงหว่าน: "......"
ผู้กำกับกระแอมออกมาทีนึง: "รายการนี้ของพวกเราคือ รายการหนีออกจากห้องลับ มาพร้อมกับองค์ประกอบของความน่ากลัวเล็กน้อย ไม่ค่อยสอดคล้องกับซีรีส์วัยรุ่นในมหาวิทยาลัยนะครับ......"
อีกอย่างฉากในการถ่ายทำของที่นี่ก็เหมือนจริงมาก สรุปว่าเธอมองเห็นจากตรงไหนกันแน่ ถึงได้ชนกันจนเกิดอาการสปาร์คอย่างรุนแรงซะได้?
แต่ทว่าพูดมาอย่างนี้ ทั้งสองคนที่อยู่ในเฟรมเดียวกันก็ดึงดูดสายตาจริงๆ
ช่วงนี้ละครแนวๆรุ่นพี่คบกับรุ่นน้องกำลังเป็นที่นิยมด้วย ถ้าพวกเขาถ่ายด้วยกันสักเรื่อง ต้องปังมากแน่ๆ
หร่วนซิงหว่านจับเพ้ยซานซานเอาไว้ ให้เธอใจเย็นๆลงหน่อย
ภายในจอ ยิ่งได้เห็นว่าเวลาน้อยลงเรื่อยๆ กลุ่มสามคนนั้นก็เริ่มร้อนรนแล้ว แต่กลับไม่เจอช่องโหว่อะไรเลย
ส่วนอานหญ่าถิงที่นั่งอยู่ครึ่งชั่วโมงแล้วก็ค่อยๆลุกขึ้น ลดตัวลงมาทำตัวเหมือนกับคนอื่นๆเดินไปรอบๆห้อง ใช้มือพลิกดูของที่อยู่บนโต๊ะตามอำเภอใจ แสดงออกว่าเธอเคยหาดูแล้วนะ เพื่อภายหลังจะได้มีฉากที่เอาไว้ตัดต่อ
เวลาเหลือเพียงสามนาที ภายในห้องจึงมีเสียงเตือนดังขึ้น แค่เสียงนี้ดังออกมา นักแสดงสาวจากเว็บซีรีส์คนนั้นก็ตกใจจนร้องไห้ คว้าแขนของนักแสดงชายไปโดยสัญชาตญาณ สะอึกสะอื้น: "ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี ออกไปไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ?"
นักแสดงชายก็ลนลาน อันที่จริงก่อนจะเข้ามา ผู้กำกับเคยบอกไว้แล้วว่า การถ่ายทำครั้งนี้ต้องการความสมจริง การลงโทษก็จะรุนแรงกว่าหลายๆซีซั่นที่ผ่านมา
เขาพยายามพูดปลอบใจ: "ยังเหลืออีกสามนาที อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ"
นักแสดงหญิง: "แต่นี่แค่ห้องแรกก็ยากขนาดนี้แล้ว ต่อไปจะทำยังไงล่ะคะ?"
อานหญ่าถิงพูดอย่างไม่พอใจ: "ร้องๆๆ ร้องไห้ช่วยอะไรได้ ฉันไม่ชอบนักแสดงที่เพิ่งจะเดบิวต์ในตอนนี้เลย โดนประคบประหงมจนบอบบางขึ้นเรื่อยๆ มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่ทันจะทำอะไร ก็คิดว่าตัวเองเตรียมตัวจะมีชื่อเสียงระดับต้นๆแล้ว ช่างเป็นแนวทางที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลย"
เดิมทีนักแสดงหญิงก็หวาดกลัวอยู่แล้ว ยังมาโดนเธอตำหนิขนาดนี้อีก จึงเสียใจจนทนไม่ไหว แต่ไม่กล้าส่งเสียงร้องไห้ออกมา ทำได้เพียงสะอื้นอยู่เงียบๆ
สำหรับการลงโทษ อานหญ่าถิงไม่ตื่นตระหนกอยู่แล้ว เธอไม่เชื่อหรอกว่าทางรายการจะขังพวกเขาทั้งหมดไว้ในนี้
รายการวาไรตี้น่ะ เขียนบทเอาไว้ทั้งนั้นแหละ
อีกเดี๋ยวถ้าพวกเขาแก้ปัญหาไม่ได้ ทางรายการคงทำได้แค่เข้ามาจัดการไม่ใช่หรือไง
ก็ตอนที่เหลืออีกหนึ่งนาที ด้านข้างชั้นหนังสือมีเสียงลอยเข้ามา ประตูที่ซ่อนเอาไว้บานหนึ่ง ค่อยๆปรากฏเข้ามาในสายตาของทุกคน เสียงเตือนก็เงียบไปอย่างฉับพลัน
สวี่วานเดินไปที่ข้างกายของนักแสดงหญิง ส่งกระดาษทิชชู่ไปให้เธอ: "ไม่มีอะไรแล้ว ออกไปได้แล้วนะ"
นักแสดงชายชื่นชมออกมาจากใจจริง: "พี่สวี่ยอดมากเลยครับ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...