ร่วนซิงหว่านกระแอมไอ และเบือนสายตาหนีอย่างผิดปกติ
ทุกคนเข้าใจเรื่องแบบนี้อยู่ภายในใจก็พอแล้ว พูดออกมาก็รังจะทำให้รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันเสียเปล่าๆ
โจวฉือเซินมองเธออย่างเย็นชา และไม่มีอารมณ์ใดๆอยู่บนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเลยสักนิด
ผ่านไปสักครู่ หร่วนซิงก็ยกผ้าห่มขึ้น แล้วพูดว่า "วันนี้รบกวนประธานโจวมามากแล้ว ฉันขอตัวกลับไปก่อนนะคะ..."
โจวฉือเซินยืนอยู่หน้าเตียง แล้วเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง และสีหน้าเฉยเมย
เดิมทีหร่วนซิงหว่านก็มีอาการวิงเวียนศีรษะและร่างกายอ่อนแรงอยู่แล้ว เธอจึงแทบจะใช้แรงทั้งหมดของเธอประคับประคองตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียง ทันทีที่เท้าของเธอเหยียบลงบนพื้น ดวงตาทั้งสองข้างก็มืดมน เธอก็เลยคว้าอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วยจิตใต้สำนึก จึงไม่ทำให้ตัวเธอเองเป็นลมล้มลงไป
สิ่งที่เธอคว้าเอาไว้ก็คือเสื้อของโจวฉือเซินนั่นเอง
หร่วนซิงหว่านยิ้มแห้งๆแล้วชักมือกลับ แต่หลังจากสูญเสียจุดค้ำจุนร่างกาย เธอก็อดไม่ได้ที่จะล้มลงไปข้างหลัง โจวฉือเซินจึงยกมือขึ้น แล้วโอบเอวของเธอเอาไว้
แรงเฉื่อยที่หนักอึ้งทำให้ทั้งสองคนล้มลงบนเตียงไปด้วยกัน
หร่วนซิงหว่านกะพริบตาไปมา แก้มทั้งสองข้างแดงก่ำ ลูกนัยน์ตาก็เปียกชุ่ม
โจวฉือเซินวางมือทั้งสองข้างลงบนเตียง แขวนอยู่เหนือร่างกายของเธอ นัยน์ตาสีดำจมลึก แล้วเขาก็พูดด้วยเสียงที่มีความแหบพร่าเล็กน้อยว่า "สายตานั้นของคุณมันหมายความว่าอะไร"
หร่วนซิงหว่านเบนสายตาออกไป สายตาเธอมันเป็นอะไรไปแล้ว?
เธอเพียงแต่รู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างกายและอดไม่ได้ที่จะ......อยากเข้าใกล้เขา
โจวฉือเซินบีบคางของเธอเอาไว้ บังคับให้เธอสบตากับตัวเอง และพูดอย่างไม่รีบไม่ช้าออกมาว่า "บอกผมมาซิ ว่าคุณต้องการทำอะไร"
หร่วนซิงหว่านไม่ได้ตอบอะไร เธอเพียงแต่รู้สึกว่าถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ใกล้เขามากขนาดนี้ แต่ดูเหมือนเธอจะมองไม่ออกเลยว่าแท้จริงแล้วเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ตอนที่อยู่สำนักงานในวันนี้ เขาเป็นเหมือนกับน้ำแข็งก้อนหนึ่งที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่มีทางถูกละลายได้ เขาเฉยชาและไร้ความปราณี แต่ในชั่วพริบตาเดียว เขากลับรีบมาช่วยเธอ และปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ที่เขาไม่ควรปรากฏตัวด้วย
เพื่อทำให้การแก้แค้นที่มีต่อเธอทวีความรุนแรงขึ้น สามารถกล่าวได้ว่าเขาจะต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ เพียงแค่เขาใช้กลอุบายเล็กๆน้อยๆมันก็สามารถทำให้เธอแบกรับหนี้สินหลายสิบล้านได้แล้ว
แต่เรื่องที่หร่วนจุนไปขอเงินเขา เขากลับไม่เคยพูดถึงมันเลย
แต่งงานกันมาสามปี เดิมทีเธอคิดว่าเธอรู้จักโจวฉือเซินไม่มากก็น้อย แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับพบว่า แท้ที่จริงแล้วเธอไม่เคยเข้าใจเขาอย่างแท้จริงเลยสักนิด
เมื่อเห็นเธอเหม่อลอย โจวฉือเซินจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า "พูดมาสิ"
หร่วนซิงหว่านพูดอย่างช้าๆว่า "ไม่มีอะไร จู่ๆฉันก็รู้สึกว่า ประธานโจวเหมือนจะหล่อมากๆเลย"
โจวฉือเซิน "......"
ทันใดนั้น หร่วนซิงหว่านก็ยกมือขึ้น โอบลำคอของเขาเอาไว้ เงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย แล้วพิมพ์ริมฝีปากลงไป
หร่วนซิงหว่านเอื้อมมือไปโอบกอดคอของโจวฉือเซินเอาไว้ แล้วพิมพ์ริมฝีปากลงไป
ดวงตาสีเข้มของโจวฉือเซินค่อยๆมืดลง ตั้งแต่วันที่เธอฟ้องหย่ามาจนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลาสี่เดือนกว่าแล้ว เขาไม่ได้แตะต้องเธอมานานมากแล้ว
เขาจึงโอบเอวเธอเอาไว้ แล้วงัดริมฝีปากของเธอออกจากกัน
หร่วนซิงหว่านจะฉวยโอกาสแก้แค้นเขาด้วยการกัดลิ้นของเขา แต่ในทางกลับกันเขากลับยิ่งใช้กำลังจู่โจมเธอหนักขึ้น
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว หร่วนซิงหว่านก็คว้ามือของเขาไว้โดยไม่รู้ตัว แล้วพูดว่า "คุณ......เบาๆหน่อย"
พอเห็นว่าเธอร้องไห้จนดวงตาพร่าเลือน หัวใจของโจวฉือเซินก็อ่อนลงโดยไม่มีสาเหตุ เขาจึงพูดด้วยเสียงต่ำและแหบแห้งว่า "อืม" เป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่ได้ทำแบบนี้เลย หร่วนซิงหว่านจึงรู้สึกประหม่าและรู้สึกกลัวเล็กน้อย ดังนั้นทันที่ที่เขาเคลื่อนไหว เธอก็ร้องออกมาเสียแล้ว
โจวฉือเซินหยุดการกระทำลง แล้วมองดูเธอโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆและพูดว่า "ที่แสดงมันเกินไปหน่อยหรือเปล่า?"
"ฉันเปล่า......ฉันเจ็บ"
"ครั้งแรกก็ไม่เห็นว่าจะเจ็บขนาดนี้เลยนี่"
"ก็นั่นมันไม่เหมือนกันนี่นา......"
ตอนนั้นเธอถูกวางยา ก็เลยไม่มีสติอยู่มาก่อนหน้านี้แล้ว
โจวฉือเซินพูดว่า "ยังต้องหาอะไรมาเพิ่มบรรยากาศให้คุณสักหน่อยไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...