นายท่านมองมีนาด้วยความซาบซึ้ง กอดมาร์ชด้วยความเมตตา ลูบหลังเขาแล้วพูดขึ้น “หลานรัก ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว ย่าอยู่นี่”
มาร์ชตอบอืมแล้วเอาศีรษะพิงไหล่นายท่านอย่างออดอ้อน มีนามองอยู่ข้างๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความอิจฉา
ถึงแม้เขาจะสูญเสียความรักของพ่อแม่ แต่ยังมีคุณย่าแสนดีคอยปกป้อง ข้างกายเธอมีใครล่ะ? ไม่มีใครเลย เธอทำได้เพียงพึ่งตัวเอง และมีอธิที่ตัวเองต้องปกป้องด้วย
ป้าเค้กยกอาหารที่อุ่นเรียบร้อยแล้วออกมา ยิ้มแล้วพูดขึ้น “คุณชาย นายหญิง มาทานข้าวค่ะ นายท่านให้ครัวทำซุปเลือดหมู เสริมความดันเลือดให้นายหญิงโดยเฉพาะเลย”
นายท่านควงแขนมาร์ช แล้วพูดขึ้น “ใช่ ใช่ ได้ยินวาตะบอกว่าพวกเธอออกมาจากโรงพยาบาลก็ไปสถานีตำรวจ ยังไม่ได้กินข้าวเย็นแน่ๆ คงหิวแย่เลย”
มีนาตอบอืม ไม่ได้พูดเรื่องที่พวกเขาไปทานของหวานกันมาแล้ว เพื่อทำให้นายท่านสบายใจ ก็นั่งหน้าโต๊ะอาหารกับมาร์ช แล้วทานอาหารจำนวนไม่น้อย
หลังจากกลับถึงห้อง เธอแค่รู้สึกว่าท้องรับไม่ไหวแล้ว ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองไปที่สวนดอกไม้ในตอนกลางคืน อยากลงไปเดินย่อยอาหารสักสองรอบ
แต่ตอนนี้ดึกเกินไป เดินออกไปจากห้องชั้นสองกลัวเสียงดังเกินไป แล้วจะรบกวนถึงนายท่านกับป้าเค้ก
อีกอย่างสวนดอกไม้ในตอนกลางคืนมืดสนิท แม้แต่โคมไฟก็ไม่มี เดินเล่นในความมืดจะทำให้คนอื่นหวาดกลัว
ตระกูลธวัชพลังกรเป็นครอบครัวร่ำรวยมีอำนาจ คงไม่เสียดายเงินซื้อโคมไฟติดในสวนสักหน่อยหรอกนะ?
“กำลังมองอะไร?” มาร์ชเดินมาด้านหลังเธอเงียบๆ แล้วถามขึ้น
มีนาพูดเสียงเบา “มองสวนดอกไม้ด้านล่าง ถ้าติดไฟในตอนกลางคืน คงเป็นวิวอีกแบบหนึ่งเลย”
“แขนคุณได้รับบาดเจ็บ ไปพักผ่อนเถอะ อย่าลงไปเดินเล่นเลย เดี๋ยวแผลหายแล้วค่อยว่ากัน” ถึงแม้มาร์ชจะไม่เห็นสีหน้าบนใบหน้าเธอ แต่เดาความคิดเธอได้
มีนาปิดหน้าต่าง หันตัวมาเงยหน้ามองเขา เขาเนี่ยนะโง่ ไอคิวสูงมาก เดาความรู้สึกคนออกได้อย่างแม่นยำ น่ากลัวเกินไปแล้ว
“นายท่านดีกับคุณด้วยใจจริง ทำไมต้องแสร้งโง่ต่อหน้าเธอด้วย? ถ้าเธอรู้ว่าคุณไอคิวปกติคงจะดีใจมาก”
มาร์ชพูดอย่างดูถูก “คุณคิดว่าแกล้งโง่เป็นเรื่องง่ายหรือไง? ต้องการหลอกคนอื่นในตระกูลธวัชพลังกร ก็ต้องทำให้นายท่านเชื่อก่อน ไม่งั้นจะถูกคนอื่นเปิดโปงได้ง่าย”
มีนาเข้าใจแล้ว ชะตากรรมเขาในตระกูลธวัชพลังกรอันตรายมาก ต้องแกล้งเป็นคนโง่ นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องทำงานบริษัทแอมทีวันนี้ เหตุการณ์อันตรายแบบนี้เกิดขึ้นกับเขาได้ตลอดเวลา
“ทำไม คุณกลัวแล้วเหรอ? กลัวว่าอยู่กับฉันแล้วจะเจอเรื่องความเป็นความตายบ่อยๆ?” มาร์ชขมวดคิ้วถามขึ้น
มีนากำลังจะพูดว่าไม่กลัว แต่จู่ๆ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น รีบไปหากระเป๋าตัวเองในห้อง หยิบโทรศัพท์ออกมาก็เห็นว่าเป็นสายจากปริญ
เธอกำโทรศัพท์แน่น มองมาร์ชด้วยความลุกลี้ลุกลน แล้วพูดขึ้น “พ่อฉันโทรมา ฉันจะไปรับในห้องน้ำ” ขณะที่พูดก็จะเดินเข้าห้องน้ำปิดประตู กลัวว่ามาร์ชจะได้ยินอะไร
มาร์ชก้าวขายาวมาขวางเธอไว้แล้วพูดขึ้น “คุณพ่อโทรมาเหรอ? มีอะไรที่ฉันฟังไม่ได้ เป็นความลับขนาดนี้?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...