เขายิ้มแห้งใส่มาร์ช แสร้งทำเป็นเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างไม่คิดอะไร “มาร์ช งานแต่งเมื่อวานนายแหย่ภรรยานายเล่นแบบนั้น เธอโกรธไหม? เมื่อคืนพวกนายเข้าเรือนหอกันจริงๆเหรอ?”
มาร์ชนึกถึงผู้หญิงคนนั้น ก็พลันรู้สึกเหมือนมีไฟแผดเผาอยู่ในร่างกาย
เมื่อคืนเขาเสียสติทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นที่ไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกแปลกใจ พลันเอ่ยเสียงโกรธขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุว่า “เรื่องนี้เกี่ยวกับนายหรือไง? ไสหัวออกไปซะ ฉันขออยู่เงียบๆคนเดียว”
ชาร์วีเห็นสีหน้าเขาน่ากลัวกว่าเดิม ก็หนีออกไปแทบไม่ทัน เขาเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือไง ว่าไม่สนว่าจะได้แต่งกับผู้หญิงแบบไหน แต่พอพูดถึงภรรยาคนใหม่เมื่อวาน ก็แสดงปฏิกิริยารุนแรงซะงั้น
ชาร์วีกำลังเปิดประตูห้องทำงานจะหนีออกไป กลับถูกเขาเรียกไว้ก่อน “รอเดี๋ยว ที่ให้นายไปสืบข้อมูลของมีนาอะไรนั่นสืบมาได้หรือยัง? โดยเฉพาะตอนที่เธออยู่เมืองนอก ยิ่งละเอียดยิ่งดี”
“กำลังสืบ” ชาร์วีหันหัวไปถามเขาว่า “เมื่อคืนนายเห็นพิรุธอะไรในตัวเธองั้นเหรอ? ลูกสาวตระกูลจรัลพรไพศาลคนนี้หน้าตาดีไม่เบาเลย นายท่านต้องใจครีมก่อนก็จริง แต่ตระกูลจรัลพรไพศาลไม่ยอม บอกว่าที่เมืองนอกมีลูกสาวคนหนึ่ง ที่นายท่านยอมตอบตกลงเองก็ต้องตริตรองมาก่อนแล้วแน่ ๆ สวยกว่าครีมนั่นอีก......”
“นายปากมากมาจากไหนเยอะแยะ รีบไสหัวไปได้แล้ว” มาร์ชเผยหน้าไม่สู้ดีจนถึงขีดสุด ที่จริงเขาไม่ได้โกรธที่ชาร์วีพูดมาก แต่โกรธตัวเองต่างหาก ทั้งที่เขาควบคุมตัวเองได้ดีมาโดยตลอด ทำไมพออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นถึงควบคุมตัวเองไม่ได้?
ชาร์วีรีบชิ่งหนีออกไปจากห้องทำงานบรรยากาศกดดัน พลันถอนหายใจด้านนอก เพิ่งนั่งลงตรงโซนพักผ่อน ก็มีพนักงานทักทายเขาว่า “สวัสดีค่ะ ประธานชาร์วี”
“ครับ” ชาร์วีทักทายกลับอย่างเป็นมิตร
เบื้องหน้าเขาเป็นบอสของNX Group ก็จริง แต่พนักงานระดับสูงต่างรู้ว่าเบื้องหลังยังมีบอสใหญ่ลึกลับอีกคน ซึ่งนั่นก็คือเจ้าของที่แท้จริงของบริษัทนี้
แม้ชาร์วีจะดูเข้าถึงง่าย และเป็นกันเอง แต่ในเรื่องของตัวตนบอสใหญ่ลึกลับคนนั้น ก็ไม่มีทางที่จะหลุดปากแม้แต่คำเดียว
เขากับมาร์ชนับว่าเป็นญาติห่างๆ คนรุ่นก่อนพวกเขานับว่าอยู่ในวงศ์ตระกูลเดียวกัน ตอนนั้นตระกูลภูริสิทธิโชคอยู่ในยุคที่รุ่งเรืองพอดี เขาก็เลยมีโอกาสได้ไปเรียนที่เมืองนอก
แต่พอมาถึงเมืองนอก เพิ่งเรียนในมหาวิทยาลัยไปได้แค่ปีเดียว ตระกูลภูริสิทธิโชคก็ล้มละลายเสียแล้ว
ไม่มีแหล่งรายได้ จ่ายค่าเล่าเรียนแสนแพงของมหาวิทยาลัยเมืองนอกไม่ไหว เขาก็เลยต้องพึ่งแรงงานผิดกฎหมาย ตระเวนใช้ชีวิตเหลวแหลกที่เมืองนอกไปวันๆ
จนวันหนึ่ง มีคนเชิญเขาไปที่ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพแห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ และเขาก็ได้พบกับมาร์ชที่เพิ่งจะอายุสิบสามสิบสี่ในตอนนั้น
เขายังจำครั้งแรกที่ได้พบเจอกับมาร์ชได้ดี ใบหน้าหล่อเหลานั่นมีแววเคร่งขรึมและหนักแน่นของผู้ใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สายใยร้ายคู่นิรันดร์
ไม่ลงต่อเหรอคะ รออ่านค่ะ...